Marimekko (มารีเมกโกะ) เปิดตัวคอลเลคชั่น ready-to-wear สำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2019 นำเสนอคอลเลคชั่นนี้ด้วยธีมประจำปีอย่าง “Bold by Nature” ที่เน้นย้ำเรื่องการตีความในแบบที่แตกต่างและหลากหลายอย่างไม่เกรงกลัว (Boldness) การเป็นตัวของตัวเองและการเติมพลังผ่านความสุข (Empowerment) อีกทั้ง การแสดงออกซึ่งตัวตนในแบบของคุณด้วยแรงบันดาลใจจากพลังด้านบวกจาก “ธรรมชาติ”
คอลเลคชั่นนี้เป็นการเฉลิมฉลองแนวความคิดดั้งเดิมของ Marimekko ซึ่งมีความหมายว่า “ชุดของเด็กผู้หญิง”โดยเน้นที่ชุดเดรสสำหรับการสวมใส่ในฤดูร้อนที่มีความโรแมนติก อิสระ และได้รับแรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าในยุคก่อนหน้านี้ ด้วยประสบการณ์กว่าหกศตวรรษ นับตั้งแต่การก่อตั้งของ Marimekko เรื่องราวของเสื้อผ้าที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของกาลเวลา จะยังคงสนับสนุนให้ผู้หญิงทั่วโลกมีความกล้าที่จะแสดงออกถึงตัวตนและบุคลิกภาพของพวกเธอผ่านเครื่องแต่งกายที่เลือกสวมใส่
เค้าโครงเสื้อผ้าแบบสมัยใหม่ของคอลเลคชั่นนี้ ได้รับการจับคู่อย่างมีทักษะกับแพทเทิร์นลายดอกไม้ที่มีชื่อเสียงของ Marimekko ซึ่งไฮไลท์ศิลปะและเทคนิคการพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งลายพิมพ์ออร์แกนิคแบบใหม่ และลายพิมพ์สุดคลาสสิกที่ได้รับการออกแบบในช่วงปี 1950 และปี 1980 ซึ่งสร้างแพทเทิร์นที่มีลูกเล่นและโดดเด่น ขณะที่สีสันหลักของฤดูกาลนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างสีเขียวพื้นหญ้าและสีแดงสดบนผ้าสีพื้นแบบ Monochrome เพื่อให้เกิดการตัดกันของสีพื้นและลายดอกไม้ที่ยังดูสงบ
ผ้าทอลายส่วนใหญ่ที่ใช้ในคอลเลคชั่นนี้ได้ถูกนำพิมพ์ลายที่โรงงานของ Marimekko ในกรุงเฮลซิงกิ ซึ่งเป็นทั้งโรงงานและจุดรวมด้านนวัตกรรมของชุมชนสร้างสรรค์ของ Marimekko โดยลายพิมพ์ที่นำมาใช้ในคอลเลคชั่น Spring/Summer 2019 ได้แก่ ลายพิมพ์ “Vikuri” ซึ่งมีแปลความหมายว่า Unruly หรือไร้แบบแผน ถูกเพ้นท์อย่างเป็นธรรมชาติผ่านลวดลายของดอกไม้ในแพทเทิร์นที่ถูกวาดขึ้นอย่างอิสระไร้แบบแผน สะท้อนถึงบรรยากาศช่วงฤดูร้อนและความเป็นอิสระ เป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ ก้าวออกจากเส้นทางเดิมๆ และกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ
ดีไซน์ของ PenttiRinta ศิลปินชาวสแกนดิเนเวียนที่ออกแบบให้กับ Marimekko ในช่วงปี 1969 ถึง 1987 ได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
โดยดีไซน์ของเขาเน้นย้ำการสร้างสรรค์ลวดลายดอกที่สะดุดตาด้วยลูกเล่นและสีสัน อย่างเช่นลายพิมพ์ Viidakko ซึ่งแปลความหมายว่า “ป่าไม้” สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สวมใส่พร้อมออกผจญภัย ลายพิมพ์ Onni ซึ่งแปลความหมายว่า “ความสุข” มีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะพื้นบ้าน เป็นลายพิมพ์ลายแรกๆ ของ Marimekko ซึ่งถูกออกแบบโดยศิลปินอย่าง Fujiwo Ishimoto เน้นย้ำถึงสไตล์และเทคนิคการวาดลวดลายจากธรรมชาติที่เสริมสร้างพลังด้านบวกแก่ผู้สวมใส่
ลายพิมพ์ Tiet ซึ่งแปลความหมายว่า “ถนน” ประกอบไปด้วยลายเส้นและลายหมากรุก ตอกย้ำสไตล์แบบ Minimalism ซึ่งเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอหลักของ Marimekko ลายพิมพ์ Unikko หรือลายดอกป๊อปปี้ ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marimekko ถูกดีไซน์ขึ้นในปี 1964 โดย Maija Isola ศิลปินผู้ที่กล้าหาญออกแบบลายที่มีสีสันในช่วงยุคนั้น จนกลายเป็นลายที่โดดดังไปทั่วโลก และอยู่คู่กับแบรนด์มาตั้งแต่ริเริ่มก่อตั้ง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สวมใส่มีความกล้าหาญและมีความเชื่อมั่นในตัวเอง
พบกับ มารีเมกโกะ แบรนด์แห่งทัศนคติและลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ ในรูปแบบไลฟ์สไตล์คอนเซ็ปต์สโตร์ อย่างเป็นทางการ
ในประเทศไทยได้ทั้ง 7 สาขา และ Line Official @marimekkothailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี