วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก เปิดกิจกรรม “รวมใจประชารัฐ พัฒนาสตรีและครอบครัวสู่สังคมเสมอภาค”ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ สร้างสังคมไทยไร้ความรุนแรง” จังหวัดสระแก้ว พร้อมกิจกรรมเดินรณรงค์สร้างกระแสสังคมในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัวและความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รวมใจประชารัฐ พัฒนาสตรีและครอบครัวสู่สังคมเสมอภาค” ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ สร้างสังคมไทยไร้ความรุนแรง” โดยมี นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร พม. หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ณ ลาน
สยามมินทร์ สำนักงานเทศบาลเมืองอรัญญประเทศจังหวัดสระแก้ว
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงเปรียบเทียบจากศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พบว่า ในปี 2561 มีผู้ถูกกระทำความรุนแรง จำนวน 2,710 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 860 ราย (ปี 60/1,850) และในจำนวนนี้เป็นความรุนแรงในครอบครัว ถึง 1,774 ราย จากแนวโน้มตัวเลขความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเป็นไปได้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประชาชน รับทราบช่องในการแจ้งเหตุ หรือขอรับบริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางกฎหมาย การช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ ทำให้กล้าที่จะแจ้งเหตุ ดังนั้น การสร้างความรับรู้ ความเข้าใจให้แก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญ สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันยุติความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ซึ่งจังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงตามมา และจากสถิติความรุนแรงที่พบในจังหวัดสระแก้ว พบว่ายังมีความรุนแรงเกิดขึ้นอยู่แต่เป็นตัวเลขที่น้อย และกิจกรรมนี้จะช่วยกระตุ้นคนในสังคมให้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงมากขึ้นและช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดของตน
ด้าน นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งและมั่นคง จำเป็นต้องทำงานเชิงรุก รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ในปี 2562 สค. ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการบูรณาการความร่วมมือการดำเนินงานทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” ภายใต้กิจกรรมรวมใจประชารัฐ พัฒนาสตรีและครอบครัวสู่สังคมเสมอภาค และได้ชูแนวคิด “ประชารัฐร่วมใจ สร้างสังคมไร้ความรุนแรง” เพื่อให้สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของ พม. ในด้านการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว และนโยบายด้านการพัฒนาระบบและกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประชาสัมพันธ์ และการปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation) โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การสื่อสารไปยังสาธารณชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการดำเนินงานด้านสตรีและครอบครัวอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การสร้างความตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ และผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสตรีและครอบครัว พัฒนาไปสู่การสร้างสังคมให้มี “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
พร้อมกันนี้ ยังจัดกิจกรรมเดินรณรงค์สร้างกระแสสังคมในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี บุคคลในครอบครัวและความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ และเปิดเวทีเสวนาแนวทางการประชาสัมพันธ์งานด้านสตรีและครอบครัวร่วมกับสื่อมวลชน ในหัวข้อ “เสนอข่าวอย่างไรไม่เป็นภัยต่อสตรีและครอบครัว” นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการผลิตสินค้าจากกลุ่มสตรีภายใต้การดูแลของศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว หน่วยงานสังกัดสค. และกลุ่มสตรีและครอบครัวในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี