ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทยที่มีอายุกว่า 2,500 ปี คนไทยกว่า 95% นับถือศาสนาพุทธและเชื่อว่า “การทำบุญตักบาตรถวายอาหาร” แด่พระสงฆ์นั้นนอกจากเพื่อสร้างบุญกุศลแก่ตัวเองแล้ว อีกนัยคือ การส่งผ่านอาหารไปสู่คนรักหรือคนในครอบครัวที่ล่วงลับ อาหารที่นำไปถวายพระจึงมักเป็นเมนูที่ผู้ล่วงลับชอบทั้งสิ้น และส่วนใหญ่มักเป็นเมนูที่มีไขมันสูง รสจัด และมีปริมาณผงชูรสสูง เนื่องจากกฎของสงฆ์ระบุห้ามมิให้ปฏิเสธอาหาร อีกทั้ง สถานะที่ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย ส่งผลให้กว่า 70% ของพระสงฆ์ทั่วประเทศ กว่า 300,000 รูป ต้องประสบปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐาน อาพาธด้วยโรคอ้วน โรคเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง ไขมันอุดตัน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และข้อเข่าเสื่อม สร้างความทุกข์ทรมานแก่พระสงฆ์เป็นอย่างมาก และส่งผลให้หน่วยงานรัฐมีค่าใช้จ่ายต้องดูแลพระสงฆ์อาพาธถึงปีละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
เพื่อให้พุทธศาสนิกชนตื่นรู้ถึงภัยเงียบที่ตนกำลังมอบให้แก่พระสงฆ์ โรงพยาบาลสงฆ์ จึงร่วมมือกับ มูลนิธิหอธรรมพระบารมี และ โอกิลวี่ จัดทำแคมเปญ “ทำบุญหรือทำบาป (Making Merit or Creating Hurt)” เพื่อตีแผ่ปัญหาภิกษุอาพาธผ่าน ประติมากรรม “พระสงฆ์อ้วน” ที่สะท้อนให้สังคมเห็นถึงอันตรายของโรคภัยไข้เจ็บในหมู่พระสงฆ์ อันมีสาเหตุมาจากการฉันอาหารที่ได้รับถวายจากฆราวาส ประติมากรรมพระสงฆ์อาพาธจำลองชุดนี้ถูกนำไปจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆ เช่น วัด ตลาด โรงพยาบาล และสถานปฏิบัติธรรมให้ผู้คนที่สัญจรไป-มาได้เห็น ตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระสงฆ์มากยิ่งขึ้น โดยผู้ที่อยู่ในบริเวณที่ประติมากรรมจัดแสดงจะได้รับ MMS ซึ่งส่งด้วยระบบ location-basedservice ที่มีลิงก์เข้าไปยัง www.obesitymonk.com โดยนอกจากจะช่วยให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจถึงโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพระสงฆ์แล้ว ในเว็บไซต์ยังแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยสูตรอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับพระสงฆ์ด้วย
นพ.ชำนิ จิตตรีประเสริฐ ผู้อํานวยการ โรงพยาบาลสงฆ์และหัวหอกใหญ่ของแคมเปญ “ทำบุญหรือทำบาป” กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนพระสงฆ์อาพาธด้วยโรคภัยที่เกิดจากการบริโภคอาหารเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้หน่วยงานของภาครัฐมีภาระค่ารักษาพยาบาลของพระสงฆ์สูงถึงปีละกว่า 1,000 ล้านบาท เหตุการณ์ที่พระสงฆ์บางรูปต้องตัดขาเนื่องจากโรคเบาหวาน บางรูปต้องใช้ชีวิตลำบากทนทรมานกับโรคที่เกิดจากระดับไขมันในเลือดสูงนั้นเกิดขึ้นจริง และผมเชื่อว่านี่คือความทุกข์ที่ไม่ว่าญาติโยมคนไหนได้ทราบก็คงสะเทือนใจเช่นกัน ขณะนี้สถานการณ์กำลังเข้าขั้นวิกฤติจึงต้องหาทางแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาเป็นการเร่งด่วนโดยทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเองด้วยการปรุงเมนูอาหารสำหรับทำบุญเลี้ยงพระหรือใส่บาตรที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของพระสงฆ์ หรือเลือกซื้อเฉพาะอาหารจำพวกไขมันต่ำน้ำตาลน้อยจากร้านค้าเพื่อนำไปถวายพระ”
อ.วัชระ ประยูรคํา ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรม “พระสงฆ์อ้วน” เผยว่า “ในฐานะพุทธศาสนิกชน ผมไม่อยากเห็น
พระสงฆ์ซึ่งเป็นเสาหลักในการธำรงพระพุทธศาสนาต้องเจ็บป่วยและทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงได้สร้างประติมากรรมพระสงฆ์จําลองขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นผลเสียจากการที่พระสงฆ์ฉันอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ตัวประติมากรรมมีการแฝงความหมายไปตามจุดต่างๆ เช่นบาดแผลที่สื่อถึงความทุกข์ทรมานจากโรคเบาหวาน พื้นผิวของรูปปั้นที่ขรุขระเนื่องจากไขมันส่วนเกินและสีทองที่สื่อถึงความศรัทธาการถวายอาหารแต่กลับกลายเป็นการย้อนทําร้ายพระสงฆ์ทางอ้อมหวังว่า ประติมากรรมชุดนี้จะช่วยกระตุ้นให้เหล่าพุทธศาสนิกชนตื่นรู้และเห็นถึงความสำคัญของการเลือกสรรอาหารสำหรับถวายพระสงฆ์มากขึ้นและช่วยแก้ไขปัญหาพระสงฆ์อาพาธให้ลดลงได้ในระยะยาว”
ถึงเวลาที่เราต้องร่วมกันปลุกจิตสำนึกเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกต้อง มาร่วมมือกันใส่ใจก่อนใส่บาตรหรือทำบุญถวายอาหาร โดยการเลือกอาหารที่มีคุณค่าถูกหลักโภชนาการ ถวายแด่พระสงฆ์ ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดสูตรอาหารที่ถูกหลักโภชนาการสำหรับพระสงฆ์ได้ที่เว็บไซต์ www.obesitymonk.com พร้อมร่วมกันลงชื่อใน http://chng.it/FnPxHNWHXR เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อปรับเปลี่ยนค่านิยมของชาวพุทธให้สอดรับกับด้านสุขภาพของพระสงฆ์มากยิ่งขึ้น #เพราะสุขภาพของ
พระสงฆ์คุณคือคนกําหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี