เมื่อเอ่ยถึง “สมุนไพรไทย” ทุกคนรู้ดีว่าสรรพคุณของมันนั้นมีมากมายมหาศาล และถูกใช้ในตำรับยามาแต่โบราณ หลายคนเลือกใช้สมุนไพรไทยเพื่อการรักษา แต่ปัจจุบันหลายคนเลือกที่จะใช้สมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพก่อนการเจ็บป่วยมากขึ้น จึงทำให้มีหลากหลายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากสมุนไพรไทยวางขายอยู่ในตลาดบ้านเรา แต่ “ตัวจริงเรื่องสมุนไพร” ก็ต้องเธอคนนี้ “สลิลาพร กองทองมณีโรจน์” ซีอีโอสาวสวยแห่ง บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้กำเนิดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพร ขายดีในประเทศไทยและเตรียมส่งออกไปจำหน่ายในตลาดเอเชีย
สลิลาพร หรือ มุ่ย ซีอีโอวัย 41 ปี คนนี้เป็นลูกไม้ที่ตกใต้ต้นของ ศรเทพศรทอง กองทองมณีโรจน์ ขุนพลเพลงลูกทุ่งชื่อดัง และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยหาตัวจับยาก รวมทั้งเป็นเจ้าของยาสมุนไพร “ตราศรเทพ” นั่นเอง
“มุ่ยเป็นลูกเพียงคนเดียวของคุณพ่อที่มาสานต่อเรื่องสมุนไพรไทย ผลิตภัณฑ์ของคุณพ่อจะเน้นยาสมุนไพรเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็จะเป็นผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ แต่ตัวมุ่ยเองมองว่าตลาดยังมีที่ว่างด้วยกระแสการดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่ เราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ จึงได้มาเปิดธุรกิจใหม่เป็นของตัวเอง เพื่อขยายไลน์สินค้าไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสมุนไพรไทยเป็นวัตถุดิบหลัก”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่าย ได้แก่ ไอซ์เบิร์ก, ไอ-ดี, ไอ-แคลเซียม พลัส,ไอดอล, ไอเลิฟยู, เครื่องดื่มไอซ์เบิร์ก ดริงค์ และล่าสุดกับเครื่องดื่มสมุนไพรตรีผลา ตรามีบุญ ซึ่งเธอให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อความปลอดภัยและให้ได้คุณภาพสูงสุด
“ผลิตภัณฑ์ของ อินฟินิตี้ ทุกแบรนด์ เรามีโรงงานผลิตของเราเอง มุ่ยจึงสามารถควบคุมคุณภาพมาตรฐานการผลิตได้ทุก
ขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ เนื่องจากสมุนไพรที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบ ส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปของสมุนไพรอบแห้ง ซึ่งมีแหล่งผลิตและอุณหภูมิในการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน อาจทำให้เกิดความชื้นและเชื้อจุลินทรีย์ตามธรรมชาติบางชนิดได้ จึงจำเป็นต้องนำไปผ่านกระบวนการฉายรังสีแกมมาเพื่อให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค และเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งเรานำไปฆ่าเชื้อที่ศูนย์ฉายแสงรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ประเทศไทย) อีกทั้ง สมุนไพรอบแห้ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มสมุนไพรตรีผลา ตรามีบุญ ยังได้รับหนังสือรับรองจากสถาบัน จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย”
ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สลิลาพร บอกว่า จะมีการสำรวจตลาดความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ รวมถึงเทรนด์สุขภาพ รวมทั้งเทรนด์ของสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น หรือแม้แต่กระแสที่กำลังจะมาในอนาคต เช่น ตอนนี้ ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกและกำลังมาแรง ซึ่งอีกไม่นานก็กำลังจะมีผลิตภัณฑ์จากขมิ้นชันออกจำหน่ายเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ มีผลิตภัณฑ์ 2 ตัวที่ออกไปตีตลาดเพื่อนบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ตอนนี้เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ไอซ์เบิร์ก และเครื่องดื่มสมุนไพรตรีผลา ตรามีบุญมีจำหน่ายที่กัมพูชาแล้ว ส่วนจีนกับเวียดนามก็มีการเซ็นสัญญาเรียบร้อย กำลังจะส่งไปเร็วๆ นี้ อีกประเทศหนึ่งที่มุ่ยกำลังคุยๆ อยู่คือ อินเดีย พยายามที่จะเจาะตลาดภายในเอเชีย แต่ไม่รีบร้อนค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เพราะมีหลายเรื่องที่เราต้องศึกษาให้ดีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของแต่ละประเทศก็มีพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต่างกัน ก็ต้องพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนจะเหมาะกับประเทศไหนด้วย”
กว่า 7 ปีของ บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้วิสัยทัศน์การทำงานที่รู้จักการปรับตัวอยู่เสมอ ทำให้ไม่ว่า
จะประสบกับปัญหาอุปสรรคแค่ไหน ซีอีโอคนเก่งคนนี้ สามารถนำพาธุรกิจให้อยู่ได้อย่างมั่นคง
“มุ่ยมองว่าการทำธุรกิจ หรือจะทำอะไรก็ตาม เราต้องมีเป้าหมายและต่อยอดไปเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญคือตัวเราเองจะต้องเรียนรู้และมีความพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เราไม่สามารถทำธุรกิจให้อยู่รอดได้โดยที่ไม่มีการปรับตัว ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว และเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ไม่ใช่คิดเร็ว ทำเร็ว แต่ถ้าทำแล้วไม่ดีก็ยังดื้อดึงที่จะทำต่อไป ถ้ามันไม่ดีต้องกลับมาพิจารณาปรับเปลี่ยน แก้ไขให้เร็วด้วย อีกส่วนคือทีมงานที่เราต้องให้โอกาสเขาในการทำงาน รับฟังความคิดเห็น ส่งเสริมให้เขาพัฒนาตัวเอง และพร้อมที่จะเรียนรู้เปลี่ยนแปลงไปกับองค์กร และที่สำคัญมากๆ คือ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ในราคาที่เหมาะสม จึงจะทำให้ธุรกิจก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง”
ไม่เพียงบทบาทของผู้บริหารองค์กร ที่มีลูกน้องหลายสิบชีวิตที่ต้องดูแล เธอยังเป็นคุณแม่ที่ลูกชาย น้องมีบุญ วัย 2 ขวบ ที่เป็นอีกครึ่งของชีวิต ที่เธอจึงต้องแบ่งเวลาให้กับทุกบทบาทอย่างดีที่สุด
“ในความเป็นจริง มุ่ยไม่ได้ทำงานตลอดเวลา แต่คิดเรื่องงานตลอดเวลา ก่อนจะมีลูก ก็ยังพอจะมีเวลาสวีทกับสามีบ้าง แต่พอมีลูก เราทั้งคู่ก็ทุ่มเทให้กับลูกเท่าๆ กับที่ทุ่มให้กับงาน เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาสำคัญในการสร้างความรักความผูกพัน การปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้กับลูก ดังนั้นเวลาที่อยู่กับลูกมุ่ยก็จะไม่คิดเรื่องงานเลย เพื่อใช้เวลากับลูกให้เต็มที่ เวลาจะไปไหนก็จะไปพร้อมหน้ากัน สามคนพ่อแม่ลูก สำหรับมุ่ย ณ ตอนนี้คิดว่าเราประสบความสำเร็จในจุดหนึ่ง มีครอบครัวที่น่ารัก และธุรกิจก็ไปได้สวย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี