สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ด้วยจากสถิติประชากรของผู้สูงอายุมีสัดส่วน 16.06% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ถือเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงถึงความอายุยืนของคนไทย แต่เมื่ออายุเรามากขึ้น ความเสื่อมของสุขภาพก็ตามมาคู่กัน ดังนั้นการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะยิ่งอวัยวะที่ซับซ้อนอย่าง “สมอง” ที่เสมือนเป็นศูนย์กลางสั่งงานของร่างกาย จึงต้องดูแลด้วยความใส่ใจ โรงพยาบาลนครธน ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงได้ดำเนินการเปิด “ศูนย์สมองและระบบประสาท” ขึ้น พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบสมอง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการตรวจวินิจฉัย และการรักษาโดยได้นำมาแสดงให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจได้สัมผัสกันในงาน “มุ่งมั่นสู่ความเชี่ยวชาญ ดูแลมากกว่าการรักษา” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2
งานนี้มี ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน คุณแม่ สายรักสุขภาพและรักครอบครัว มาเป็นตัวแทนของครอบครัวยุคใหม่ที่พร้อมดูแลครอบครัว 3 วัยทั้งคุณสามีและลูกน้อย และยังไม่ละเลยที่ใส่ใจถึงสุขภาพคุณพ่อ-คุณแม่ ผู้สูงอายุในครอบครัว ได้ร่วมเสวนาและขอคำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันโรคทางสมองกับแพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาทถึง 4 ท่าน จากโรงพยาบาลนครธน ได้แก่ นพ.ทรงกิตติ์ ศุภกรนำพร, นพ.ชาญวิทย์ อนุเคราะห์วิทยา และ พญ.รุ่งทิพย์ ชัยธีรกิจ อายุรแพทย์โรคระบบประสาทและสมอง ร่วมด้วย ผศ.นพ.ชัย กอบกิจสุขสกุล รังสีวิทยาร่วมรักษาระบบประสาท โดยแพทย์เฉพาะทางได้ให้คำแนะนำว่าปัญหาเรื่องโรคสมองของผู้สูงอายุที่พบส่วนใหญ่ คือ เรื่องความเสื่อมของสมอง สำหรับอาการที่แสดงออกมาขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เสื่อมในสมอง เช่น ในตำแหน่งความทรงจำ ผู้ป่วยก็จะเกิดอาการหลงลืม แต่ถ้าเป็นตำแหน่งควบคุมการเคลื่อนไหว ก็จะเป็นโรคพาร์กินสัน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน โรงพยาบาลนครธน มีเทคโนโลยี TMS การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคทางสมองได้หลากหลาย ช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองของผู้ป่วยที่มีอาการอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นถึงระยะกลาง อีกทั้งโรคสมองเสื่อมด้วย ส่วนวิธีป้องกันปัญหาสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเบื้องต้นง่ายๆ คือ ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยสัปดาห์ละ2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชและปลาทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย และพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเป็นประจำ เป็นต้น สุดท้ายหากต้องการป้องกันแบบเชิงลึก แนะนำให้มาพบแพทย์เฉพาะทางด้านสมองและระบบประสาท เพื่อตรวจสุขภาพสมองเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มโรคหลอดเลือดสมองที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน อาจมีอาการลิ้นแข็ง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาซีกใดซีกหนึ่งชาหรืออ่อนแรง ปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้หลักๆ คือเรื่องของอายุ นอกจากนี้คือโรคประจำตัวเช่น ความดัน เบาหวาน ไขมันสูง และโรคหัวใจ ซึ่งต้องคอยสังเกตอาการคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิดหากเกิดอาการต้องรีบส่งตัวมารักษาอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์สมองตาย โดยเบื้องต้นจำเป็นต้องมีการตรวจวินิจฉัยก่อน ว่าเป็นอาการหลอดเลือดสมองอุดตัน หรือหลอดเลือดสมองแตก ซึ่งการรักษาสองอาการนี้มีความแตกต่างกัน หากเป็นอาการหลอดเลือดสมองแตกก็อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่หากเป็นหลอดเลือดสมองอุดตันก็ต้องแก้ไขอาการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งโดยปกติแล้วอาการหลอดเลือดอุดตันจะมีการรักษาอยู่ 2 วิธี คือ ให้ยาลดการอุดตันของหลอดเลือดเฉียบพลันภายใน 4.5 ชั่วโมง อีกวิธีคือการลากลิ่มเลือดที่อุดตันภายในหลอดเลือดสมองออกมา เป็นการรักษาที่ต้องใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของแพทย์สูง และต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพพร้อม ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ส่วนในด้านการฟื้นฟูสภาพสมองนั้นเทคโนโลยี TMS สามารถใช้ในการรักษาได้เช่นกัน โดยจะใช้วิธีกระตุ้นเซลล์ประสาท เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต จากหลอดเลือดสมองอุดตัน ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด ส่วนคำแนะนำในการป้องกันสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน แพทย์จะตรวจวินิจฉัยโรคก่อน เพื่อให้ทราบว่ามีไขมันอุดตันในเส้นเลือดอยู่ในระดับไหน ซึ่งต้องใช้เครื่องมือในการตรวจเส้นเลือดโดยเฉพาะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี