ถ้าพูดถึงห้องเสื้อชุดแต่งงาน เราก็จะเห็นภาพชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวแขวนเรียงรายให้เลือกชมอยู่ภายในร้านมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชุดเจ้าสาวที่ถูกโชว์ให้ชมมากเป็นพิเศษ แต่สำหรับชุดของเจ้าบ่าวนั้นอาจไม่ได้มีให้เลือกมากเท่าไหร่นัก แต่ใครจะคิดว่าวันนี้จะมีห้องเสื้อสำหรับเจ้าบ่าวเกิดขึ้นแล้ว ที่รู้จักกันในนาม วาริช สูท (Varich Suit)ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการให้กับเจ้าบ่าวยุคใหม่ แน่นอนว่าความแปลกใหม่ของห้องเสื้อที่เน้นให้บริการเจ้าบ่าวเป็นพิเศษกลายเป็น Talk of the town ที่หลายคนกำลังพูดถึงในเวลานี้เช่นกัน
ด้วยรูปแบบร้านที่มีสไตล์เรียบหรูและโมเดิร์นสุด ๆ บวกกับการบริการระดับพรีเมียมที่มีให้เฉพาะสำหรับเจ้าบ่าวเท่านั้น และนั่นอาจทำให้มีคำถามมากมายโดยเฉพาะไอเดียของเจ้าของห้องเสื้อแห่งนี้ที่หลายคนอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจเปิดห้องเสื้อแห่งนี้ขึ้นมา แต่ก่อนจะไปฟังไอเดียนั้นเรามาทำความรู้จักห้องเสื้อนี้กันก่อนกดีกว่าค่า
ห้องเสื้อ วาริช สูทถูกออกแบบให้มีความพิเศษมากที่สุดสำหรับเจ้าบ่าวภายในร้านถูกดีไซน์ให้มีความเรียบหรู ทันสมัย และมีสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร สีที่เลือกใช้ในการตกแต่งส่วนใหญ่เป็นสไตล์เอิร์ธโทนเป็นหลักบ่งบอกถึงความคลาสสิคและเสน่ห์ของห้องเสื้อออกมาได้อย่างดี หน้าร้านถูกประดับประดาไปด้วยชุดเจ้าบ่าวเรียงรายอยู่มากมายหลากหลายสไตล์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งชุดไทย ชุดยกน้ำชารวมไปถึงชุดสูทและทักซีโดด้วยซึ่งแต่ละชุดนั้นบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้สวมใส่ได้อย่างดี และความพิเศษของชุดไทยที่นี่คือเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมดและใช้ผ้าไหมแท้ทุกชุดซึ่งผ้าไหมที่ใช้นั้นเป็นงานระดับช่างฝีมือที่มีความประณีตสูง ส่วนชุดสูทสากลทางห้องเสื้อก็จะมีผ้าให้เลือกหลายแบบ ทั้ง ผ้าวูลและเนื้อผ้าอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สวมใส่รวมไปถึงจุดเด่นในเรื่องของวัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ และรูปแบบชุดสูทสไตล์อังกฤษที่เข้ารูปช่วงเอวซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสำหรับเจ้าบ่าวยุคใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงในเวลานี้
และในแต่ละเดือนทางห้องเสื้อจะมีอัพเดทเทรนแฟชั่นใหม่อยู่ตลอดเวลา ถ้าใครได้ติดตามทางเพจของ วาริช สูท จะรู้ว่ามีคอลเลคชั่นใหม่ๆออกมาทุกเดือน เดือนละ 2 คอลเลคชั่นเลยทีเดียวรูปแบบของการให้บริการจะมีทั้งแบบตัดซื้อและเช่าชุดเจ้าบ่าวโดยชุดเจ้าบ่าวที่เป็นชุดสากลจะเน้นเป็นงานตัดซื้อทั้งหมด โดยมีดีไซน์เนอร์คอยให้คำแนะนำในการออกแบบเพื่อให้เจ้าบ่าวสามารถนำชุดไปใช้ต่อหลังจบงานแต่งได้อีกด้วยโดยใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในการทำชุดและฟิตติ้ง โดยจะให้เจ้าบ่าวได้ลองโครงผ้าเทียมให้พอดีกับตัวก่อนแล้วจึงค่อยตัดเย็บจากผ้าจริง ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าบ่าวรู้สึกมั่นใจเวลาสวมใส่ และได้ชุดที่พอดีกับรูปร่างมากที่สุด ส่วนชุดไทยนั้นจะมีให้บริการเช่าร่วมด้วยซึ่งแต่ละชุดจะใช้ผ้าไหมแท้ระดับพรีเมียมทั้งหมดและมีบริการแก้ไขไซส์ชุดให้พอดีกับรูปร่างเพื่อให้เจ้าบ่าวดูดีและสง่างามมากที่สุด เหมือนเป็นชุดที่ถูกตัดขึ้นเพื่อเจ้าบ่าวท่านนั้นโดยเฉพาะจริง ๆ
สำหรับไอเดียสุดสร้างสรรค์นี้เกิดจากผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงสรรค์ สุดเกตุ ผู้คร่ำหวอดในวงการเวดดิ้งมากว่า 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างชื่อด้วยการเปิดตัวห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการเวดดิ้งมากว่า 5 ปี เพราะนอกจากเป็นผู้บริหารแล้วยังเป็นดีไซน์เนอร์ที่คอยออกแบบชุดแต่งงานออกมามากมายหลายพันชุด ซึ่งแต่ละชุดก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอโดยเฉพาะชุดไทยถือเป็นผลงานที่ได้รับกระแสความนิยมมากที่สุดในเวลานี้และสำหรับการเปิดตัวห้องเสื้อ วาริช สูท ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดทางธุรกิจในเครือของห้องเสื้อ วนัช กูตูย์อีกด้วยและด้วยไอเดียของผู้บริหารที่อยากให้เจ้าบ่าวได้รับการบริการที่พิเศษไม่แพ้เจ้าสาว และเพื่อให้เจ้าบ่าวได้มีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง อย่าง ช่วงเวลาถ่ายภาพฟิตติ้งก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถ่ายติดชุดของเจ้าสาวร่วมเฟรมมาด้วย เพราะภายในห้องเสื้อก็จะมีมุมเท่ๆเอาไว้ให้สำหรับเจ้าบ่าวถ่ายภาพโดยเฉพาะอีกทั้งยังช่วยทำให้เจ้าบ่าวมีความมั่นใจในการเลือกชุดในสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบได้มากขึ้นอีกด้วย และสำหรับใครที่กำลังมีแพลนแต่งงานและอยากให้คู่ของคุณมีชุดแต่งงานที่พิเศษสุดในวันสำคัญของคุณ สามารถติดต่อขอข้อมูลหรือขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี