ยูนิเซฟ ประเทศไทย ชวนนักแสดงหนุ่มติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ลงพื้นที่เยี่ยมเด็กๆ และครอบครัวผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนในประเทศโมซัมบิก เพื่อนำเรื่องราวมาถ่ายทอดให้คนไทยได้รับรู้ พร้อมระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยโครงการ #ไทยช่วยภัยไซโคลน
เมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา พายุไซโคลนอิดาอีที่พัดถล่มหลายประเทศในแอฟริกา ได้แก่ ประเทศโมซัมบิก ประเทศมาลาวี และประเทศซิมบับเว นับเป็นภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในแอฟริกาตอนใต้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แม้เหตุการณ์จะผ่านมาราว 3-4 เดือนแล้ว แต่ภัยพิบัตินี้ยังคงส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า3 ล้านคน และเด็กๆ อีกกว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งกำลังเสี่ยงต่อโรคระบาด และภาวะขาดสารอาหารรุนแรง เนื่องจากการต้องอพยพออกจากบ้าน ขาดแคลนน้ำสะอาดและขาดสุขอนามัยที่ดี
โครงการ #ไทยช่วยภัยไซโคลน จัดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงวิกฤติร้ายแรง และระดมทุนจากประชาชนไทยเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ และครอบครัวกว่า 3 ล้านคนในแอฟริกาที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก โดย ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดีรับหน้าที่เป็นตัวแทนภารกิจพิเศษของโครงการ เดินทางไปเยี่ยมเด็กๆ และผู้ประสบภัยในเขตบูซี ประเทศโมซัมบิก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมสูงกว่า 8 เมตร โรงพยาบาลประจำเขตบูซีได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนไม่สามารถใช้การได้ ทำให้ต้องย้ายการรักษาออกมาอยู่ในเต็นท์ฉุกเฉินที่ทางยูนิเซฟจัดให้แทน
หลังจากได้ไปเยี่ยมเด็กๆ ที่โมซัมบิกแล้ว ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี กล่าวว่า “แม้เหตุการณ์จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เด็กและครอบครัวผู้ประสบภัยยังคงใช้ชีวิตอยู่กันอย่างยากลำบาก ผมรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของเด็กๆ ที่นี่ พวกเขาควรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ผมเชื่อว่าในฐานะที่พวกเราทุกคนคือประชากรบนโลกใบเล็กๆ ที่เชื่อมต่อถึงกัน การสนับสนุนจากคนไทยในภาวะวิกฤตินี้ จะช่วยให้เด็กๆ สามารถผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ และกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติอีกครั้งครับ”
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว เด็กและครอบครัวที่ประสบภัยจำนวนมากยังไม่ได้กลับบ้าน พายุไซโคลนได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับที่อยู่อาศัย ระบบสาธารณูปโภค และพื้นที่เกษตรกรรม ทำลายบ้านเรือนไปหลายพันหลัง และทำให้ผู้คนต้องพลักพรากจากบ้านนับแสนชีวิต อีกทั้ง ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาด และแหล่งน้ำปนเปื้อน ทำให้เด็กกว่า 1.6 ล้านคนตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง อาทิ อหิวาตกโรค มาลาเรีย และท้องร่วง ยูนิเซฟ ได้จัดส่งน้ำสะอาดให้แก่เด็กและครอบครัวผู้ประสบภัย โดย ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ได้ช่วยเด็กๆ เติมน้ำสะอาดลงในขวดเพื่อให้เด็กๆ นำกลับบ้าน นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังได้ดำเนินการวางท่อน้ำเพื่อให้เด็กและครอบครัวมีน้ำสะอาดไว้ใช้ในระยะยาวด้วย
นอกจากนี้ โรงเรียนในหลายพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หรือไม่ก็กลายเป็นศูนย์อพยพชั่วคราว ทำให้เด็กๆ กว่า 305,000 คน ไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ ยูนิเซฟกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตร สร้างศูนย์การเรียนรู้ชั่วคราวให้แก่เด็กๆ เพื่อไม่ให้การเรียนต้องหยุดชะงัก ซึ่ง ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ได้เข้าชั้นเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับเด็กๆ ในห้องเรียนชั่วคราวของยูนิเซฟ ที่ 12 OCTOBER PRIMARY SCHOOL ด้วย
นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังจัดเตรียมกิจกรรมสันทนาการในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นด้านร่างกายและจิตใจของเด็กๆ เพื่อช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่
ทุกๆ วัน ยูนิเซฟ รัฐบาล พันธมิตรและอาสาสมัคร จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพ โภชนาการ การศึกษาและการคุ้มครองเด็กทั้งนี้ โครงการ #ไทยช่วยภัยไซโคลน ได้เปิดระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านช่องทางบริจาค ดังนี้ SMS: พิมพ์ 100 และส่งมาที่เบอร์ 4712225(100 บาทต่อ 1 ข้อความ) ออนไลน์: http://www.unicef.or.th/cyclone หรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร: ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี201-3-01324-4 กรุณาส่งข้อมูลติดต่อ (ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์) พร้อมใบสลิปมาที่ยูนิเซฟ โดยระบุ “ไซโคลน” มาที่ unicefthailand@unicef.org หรือแฟกซ์ 02-3569229
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี