ดร.วิรัลดา ภูตะคาม ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมปะการังในน่านน้ำไทย
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ กำลังจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ควบคู่ไปกับเผยแพร่ผลงานวิจัยและพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในประเทศและนานาชาติ โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติขึ้นโดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม” มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเน้นย้ำประเด็นการเปลี่ยนแปลงของวิกฤติโลก ซึ่งรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพและวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ลอรีอัล นับเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากโครงการ “ทุนวิจัยลอรีอัลประเทศไทย เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” โดย บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด และการสนับสนุนของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) จึงเป็นโครงการที่มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนานักวิจัยสตรีไทยสู่ระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่องกว่า 17 ปี
ภายใต้แนวคิดหลักของสัปดาห์วิทยาศาสตร์ในปีนี้ ที่มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมซึ่งสอดคล้องกับผลงานของสองนักวิจัยสตรีไทย ที่จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ ดร.วิรัลดา ภูตะคาม จากห้องปฏิบัติการวิจัยจีโนม ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ และดร.จันทร์เจ้า ล้อทองพานิชย์ จากศูนย์ความเป็นเลิศทางงานวิจัยสเต็มเซลล์ของศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยสตรีไทยผู้พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ทั้งสองท่านได้รับทุนวิจัยจาก โครงการทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” (For Women in Science) ปีที่ 16 ประจำปี 2561
ดร.วิรัลดา ภูตะคาม เจ้าของผลงานวิจัยหัวข้อ “การศึกษากระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทย เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน” กล่าวถึงงานวิจัยว่า “การเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศโลกโดยเฉพาะการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลนั้น ถือเป็นปัจจัยคุกคามที่ทำลายแนวปะการังหลายแห่งซึ่งเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญทั้งทางธรรมชาติและทางเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การศึกษากระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทย เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืนจะช่วยทำนายโอกาสในการอยู่รอดของแนวปะการังไทยเมื่อสภาวะแวดล้อมเกิดการแปรปรวนในอนาคตได้ โดยล่าสุดได้ขยายการศึกษาปะการังเพิ่มเติม 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ปะการังดอกกะหล่ำ (Pocillopora) ปะการังลายดอกไม้ (Pavona) ปะการังหินสมอง (Platygyra) และ ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง (Montipora) รวมทั้งศึกษายีนของปะการังเพิ่มเติม เพื่อตรวจหายีนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของน้ำทะเล และศึกษารายละเอียดเครื่องหมายโมเลกุลที่จะสามารถนำมาช่วยทำนายลักษณะการทนร้อนของปะการังได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
อินเนส คาลไดราอินเนส คาลไดรา
ด้าน ดร.จันทร์เจ้า ล้อทองพานิชย์กับผลงานวิจัยหัวข้อ “การเพิ่มอัตราการผลิตเกล็ดเลือดจากเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อประโยชน์ทางการรักษาผู้ป่วยเกล็ดเลือดพร่อง”กล่าวถึงผลงานตัวเองว่า “เกล็ดเลือด คือส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเมื่อมีบาดแผล ช่วยอุดรอยฉีกขาดของเส้นเลือด ในปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องได้รับเกล็ดเลือดเพื่อการรักษาไขกระดูกรวมถึงผู้ป่วยที่สูญเสียเกล็ดเลือดจากการเสียเลือดจากการผ่าตัดและอุบัติเหตุ การวิจัยการเพิ่มอัตราการผลิตเกล็ดเลือดจากเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อประโยชน์ทางการรักษาผู้ป่วยเกล็ดเลือดพร่อง จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสภาวะเลือดคงคลังของโรงพยาบาลรวมทั้งสภากาชาดไทยที่มีอยู่จำกัด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของไข้เลือดออกหรือช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ”
หลังได้รับทุนวิจัยจาก โครงการทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ (For Women in Science)ปีที่ 16 ดร.จันทร์เจ้า สามารถกระตุ้นสเต็มเซลล์ที่เหนี่ยวนำมาจากเซลล์ผิวหนังให้กลายเป็นสเต็มเซลล์เม็ดเลือดได้ และกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาหาวิธีกระตุ้นให้สเต็มเซลล์เม็ดเลือดให้เจริญไปเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ผลิตเกล็ดเลือด (เซลล์เมกะคารีโอไซท์) และเกล็ดเลือดจำนวนมากต่อไปโดยการผลิตเกล็ดเลือดจากสเต็มเซลล์ชนิดเหนี่ยวนำนี้ ถ้าประสบความสำเร็จจะช่วยให้การผลิตเกล็ดเลือดปริมาณมากในอนาคตมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น
ดร.จันทร์เจ้า ล้อทองพานิชย์ วิจัยการเพิ่มอัตราการผลิตเกล็ดเลือดจากเซลล์ต้นกำเนิด
ปัจจุบันนักวิจัยสตรีทั้งสองท่านยังคงเดินหน้าทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศผ่านผลงานด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้ยั่งยืนมากที่สุด
นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุปว่า “ด้วยความเชื่อของ มร.ยูชีน ชูแลร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งลอรีอัล ที่ว่าการค้นคว้าวิจัยจะก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลอรีอัล มุ่งให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์และงานวิจัยเสมอมา เรารู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาศักยภาพนักวิจัยสตรีหญิงในประเทศไทย มาเป็นเวลากว่า 17 ปี โดย ลอรีอัล เชื่อว่า ผลงานวิจัยของนักวิจัยสตรีทั้ง 2 ท่านจะสามารถต่อยอดพัฒนาประเทศ ตอกย้ำความตั้งใจของสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงของวิกฤติโลก ตอบโจทย์แนวคิดหลัก จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี