หากพูดถึงการออกกำลังกายแบบ Barre คนไทยหลายๆคนอาจจะพอคุ้นหูกันบ้าง เพราะการออกกำลังแบบนี้ได้เริ่มมีหลากหลายแบรนด์จากอเมริกาหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น การออกกำลังกายแบบ Barre ได้ฮิตกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1971 ประวัติของการออกกำลังกายแบบ Barre จะเป็นอย่างไรนั้นมาฟังกันเลย

ประวัติการออกกำลังกายแบบ Barre

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมการออกำลังกายแบบ Barre ถึงมีท่าหลักๆคล้ายการเต้นบัลเล่ต์ เพราะผู้ริเริ่มคิดค้นการออกกำลังกายแบบนี้นั้นเธอเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ชาวเยอรมัน ที่มีชื่อว่า Lotte Berk ผู้พำนักอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยหลักจากที่เธอรับบาดเจ็บจากการเต้น เธอได้มีไอเดียในการนำท่าเต้นที่เน้นการลดกระชับสัดส่วน หรือที่เรียกว่า Dance Conditioning มาผสมผสานกับท่าออกกำลังกายเพื่อการทำกายภาพ โดยเธอได้เปิดสตูดิโอเป็นของจัวเองในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1959 โดยได้มีเหล่าเซเลบคนดังมาเข้าคลาสมากมายอาทิเช่น  Joan Collins และ Barbara Streisand หลังจากนั้นหนึ่งในนักเรียนชาวอเมริกันของเธอที่มีชื่อว่า Lydia Bach นำการออกกำลังกายแบบนี้กลับไปเผยแพร่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1971 และต่อไปได้มีนักเรียนมากมายนำหลักการการออกกำลังกายแบบ Barre ของ Lotte Berk ไปพัฒนาแตกยอดเป็นหลักการหลายแขนง หลายแบรนด์ และหลายเฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้สตูดิโอต้นตำรับของหลักการ Lotte Berk ได้ถูกปิดตัวลงไปในปี 2005 แต่การออกกำลังแบบ Barre นั้น ยังคงเป็นที่นิยม และได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทุกปัญหาสุขภาพของคนที่รักการออกกำลังกาย รูปแบบของคลาส Barre ในทุกวันนี้มีตั้งแต่ การปรับใช้ท่า Classical Ballet แบบดั้งเดิมรวมกับหลักการของโยคะ, พิลาทีส และ Functional Training โดย Barre Intensity เป็นหนึ่งในแบรนด์น้องใหม่จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้นำหลักการพิลาทีส, การเต้นหลากหลายรูปแบบ และFunctional Training มาผสมผสานไว้กับการออกกำลังกายแบบ Barre เพื่อตอบโจทย์การออกกำลังแบบ “Low Impact” แต่มีความ “High Intensity”

หลักการการออกกำลังกายแบบ Barre Intensity

คลาสการออกกำลังกาย 55 นาที ที่เน้นการกระชับทุกสัดส่วนของร่างกายตั้งแต่แขน ขา หน้าท้อง และหลัง โดยไม่เพียงแต่โฟกัสการเคลื่อนไหวแบบเล็กๆเพื่อเบิร์นและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ได้มีการนำท่าที่มีการเคลื่อนไหวแบบกว้างเพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ และตบท้ายด้วยการยืดกล้ามเนื้อ จึงทำให้การออกกำลังกาย 55 นาทีเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้ตั้งแต่ 350 – 500 แคลอรี่ (ขึ้นอยู่กับ Intensity Option ที่เลือก) ถึงแม้ว่าเทคนิคของ Barre Intensity จะการนำส่วนประกอบของการเต้นบัลเล่ต์ตามหลักการของการออกกำลังกายแบบ Barre ดั้งเดิมมาใช้ แต่ Barre Intensity จะไม่ใช้คำศัพท์ตามหลักของบัลเล่ต์ และใช้คำที่ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับบุคคลทั่วไป อีกทั้งครูที่ผ่านการเทรนของ Barre Intensity ได้ถูกเทรนให้สามารถประยุกต์การเต้นที่หลากหลายตั้งแต่ฮิปฮอปไปจนถึงป๊อบเข้ามาสร้างสีสันให้กับคลาสตามสไตล์ที่โดดเด่นของครูแต่ละท่าน ดนตรีที่ใช้ในคลาสมีจังหวะที่มันส์ สนุกแบบสุดเหวี่ยง จนผู้ออกกำลังกายลืมความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ฟังจากปาก Master Trainer คนไทยของ Barre Intensity

จากประสบการณ์การทำงานในวงการฟิตเนสมากว่า 14 ปี แน่นอนว่าร่างกายต้องได้รับการบาดเจ็บบ้าง จนกระทั่งแพทย์สั่งให้หยุดการสอน High Impact ทุกชนิด จึงได้ค้นคว้าแสวงหาการออกกำลังกายในหลายๆรูปแบบเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องหยุดทำในสิ่งที่รัก ปกติเป็นคนที่ชอบอะไรเร็วและชอบอะไรที่เป็น High Intensity จนมาเจอกับโปรแกรม Barre Intensity ที่รู้สึกว่าตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง พอได้ลงเทรนก็เลยทำให้นึกถึงครูๆคนไทยทุกท่าน และคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะนำโปรแกรมนี้มาจัดเทรนนิ่งที่ไทยได้ โดยในสหรัฐอเมริกาการมี Workout Barre ติดอยู่ในสตูดิโอฟิตเนสกลายเป็นเรื่องทั่วไป เป็นสิ่งที่เห็นได้ในทุกฟิตเนส แต่บ้านเรายังมีแต่เฉพาะบางบูติคสตูดิโอ หรือ พิลาทีสสตูดิโอเท่านั้น อีกทั้งครูหลายๆท่านต้องลงทุนเดินทางไปเทรนถึงต่างประเทศ เพื่อให้ไปเทรนให้ได้การรับรองจากสถาบันระดับนานาชาติกลับมา จึงทำให้ค่าเรียนในแต่ละคลาสนั้นมีราคาค่อนข้างสูง และสตูดิโอบางแห่งประสบปัญหาการหาครูผู้สอนได้ยาก ดังนั้นจึงได้ติดต่อไปที่ Barre Intensity สหรัฐอเมริกาเพื่อฝึกเทรนและสอบจนได้เป็น Master Trainer และนำโปรแกรมมาเปิดเทรนที่ไทย และอีกหลายประเทศเพื่อนบ้าน อาทิเช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ส่วนตัวชอบ Barre Intensity ตรงที่ไม่ได้เป็นลักษณะเฟรนไชส์ แต่เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการออกกำลังกายแบบ Barre, การปรับใช้กับ Functional Training, การออกแบบคลาสให้เป็นในลักษณะของ Group Exercise และ เป็นสถาบันที่ออกใบประกาศนียบัตรระดับนานาชาติให้กับครูผู้สอน ซึ่งใบประกาศนียบัตรนี้ได้รับการรับรองจากสถาบันด้านการกีฬาของสหรัฐอเมริกาที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก อาทิเช่น American Council on Exercise (ACE), Athletics and Fitness Association of America™ (AFAA) และ American College of Sports Medicine (ACSM) ทำให้ครูผู้สอนสามารถปรับคลาสตามรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ โดยคลาสนั้นปลอดภัยและถูกต้องตามหลักการการออกกำลังกายของสถาบันที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับผู้ที่สนใจเทรนเป็นครูสามารถติดตามไอจี @barreintensity เพื่อดูตารางการเทรนในไทยได้เลย

หรือหากใครที่อยากมาลองประสบการณ์การออกกำลังกายใหม่ๆมาติดตามไอจีของเหล่าบรรดาครูชั้นนำชาวไทยที่ผ่านการอบรมมาแบบสดๆร้อนๆกันเลยว่าคลาส Barre Intensity หรือคลาส Barre Workout ของพวกเขาจะมันส์และเบิร์นแค่ไหน! อาทิเช่น ครูอิง @aprileng ครูปริ้น @prince_simara ครูเบียงก้า @biancac_t ครูหมี @vivarunning ครูเอ @akornphueak หรือ ครูทอมมัส โฟเกิล