หลังการต่อสู้อย่างยาวนานในศาล ในที่สุด สตรีมุสลิมในบังกลาเทศก็ได้รับสิทธิที่จะเลือกระบุคำว่า “ยังไม่ได้แต่งงาน” แทนที่คำว่า “บริสุทธิ์”
เมื่อศาลฎีกาในบังกลาเทศมีคำตัดสินว่าต่อไปนี้สตรีชาวบังกลาเทศจะไม่ต้องระบุข้อมูลในทะเบียนสมรสว่าตนเองเป็น “สาวบริสุทธิ์” (virgin) หรือไม่ จากเดิม แบบฟอร์มทะเบียนสมรสของบังกลาเทศ มีช่องให้ผู้หญิงเลือกกรอกสถานภาพสมรส 3 ตัวเลือก ได้แก่
1) “กุมารี” ซึ่งเป็นภาษาเบงกอลแปลว่า สาวบริสุทธิ์
2) หญิงม่าย (ที่สามีเสียชีวิต)
3) หย่าร้าง
แต่ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งให้ถอดคำว่า “กุมารี” ออกจากแบบฟอร์มทะเบียนสมรส แล้วให้ใช้คำที่มีความหมายว่า “สตรีที่ไม่เคยแต่งงาน” (unmarried)แทน ส่วนช่องกรอกสถานภาพสมรสอื่น ได้แก่ “หญิงม่าย” และ “หย่าร้าง”ให้คงไว้ตามเดิม
นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้ฝ่ายชายต้องระบุสถานภาพสมรสของตนด้วย ว่าโสด หย่าร้าง หรือเป็นพ่อม่ายจากเดิมที่ไม่มีข้อกำหนดในเรื่องนี้
ขณะนี้ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลสะดวกแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ หรือบอกว่าจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด แต่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงในทะเบียนสมรสจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ภายหลังจากมีการเผยแพร่คำพิพากษาฉบับเต็มของศาลออกมาอย่างเป็นทางการ
คำตัดสินครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทีมทนายความของกลุ่มเพื่อสิทธิสตรียื่นคำร้องต่อศาลเมื่อปี 2014 เรื่องให้เปลี่ยนแบบฟอร์มภายใต้กฎหมายแต่งงานและหย่าร้างแบบมุสลิมของบังกลาเทศ โดยชี้ว่า ทะเบียนสมรสของบังกลาเทศที่ใช้ในรูปแบบนี้มาตั้งแต่ปี 1961 ได้สร้างความอับอาย เหยียดหยาม และละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของสตรี
อินุน นาฮาร์ ซิดดิกัว หนึ่งในทนายสองคนในคดีนี้ระบุว่า พวกเขาเชื่อว่าสามารถต่อสู้และสร้างความเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้หญิงมากกว่านี้ในอนาคต และคำพิพากษาครั้งประวัติศาสตร์นี้จะช่วยสร้างความก้าวหน้าให้แก่สิทธิสตรีในบังกลาเทศ เนื่องจากการถามใครสักคนว่ายังบริสุทธิ์หรือไม่นั้นเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล อีกทั้งเป็นสิ่งที่น่าอับอายต่อผู้หญิง
กฎหมายว่าด้วยการสมรสของบังกลาเทศ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมนั้น ถูกกลุ่มเพื่อสิทธิสตรีวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพและเลือกปฏิบัติ
นอกจากนี้ การที่ผู้หญิงถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศนี้ จากมาตราหนึ่งของกฎหมายนี้ที่ระบุว่า เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถสมรสได้ถ้าผู้ปกครองอนุญาต และเห็นว่าการแต่งงานนั้นเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้สมรสเอง ซึ่งนักเคลื่อนไหวมองว่า กฎหมายดังกล่าวทำให้เกิดปัญหา “เจ้าสาววัยเยาว์” ซึ่งเยาวชนถูกบังคับให้แต่งงานทั้งที่ยังไม่พร้อม และหลายครั้งนำไปสู่ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของความเท่าเทียมทางเพศในบังกลาเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประชากรของประเทศร้อยละ 90 จากจำนวน 168 ล้านคน นับถืออิสลาม ถือเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งที่ผ่านมา อันดับความเสมอภาคทางเพศของบังกลาเทศดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเริ่มขยับจากที่ 70 กว่าในปี 2016 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 48 ในปี 2018 จาก 149 ประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นประเทศที่มีความเสมอภาคทางเพศสูงที่สุดในเอเชียใต้
@koopnot01
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี