ชื่อ จารุภัทร พันธุ์ปัญญา อาจไม่เป็นที่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอกว่า อาจารย์หนึ่ง แห่ง ซุปเปอร์หนึ่งเมคอัพ ชื่อนี้คือผู้ที่สาวๆ (รวมถึงหนุ่มๆ) ไว้วางใจให้เป็นผู้ดูแลความงามบนใบหน้าในฐานะ เมคอัพอาร์ติสท์ ฝีมือดี ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี แถมมีคนดังทั้ง เซเลบริตี้ ศิลปิน ดารา เป็นลูกค้ามากมาย ไม่ใช่แค่ฝีมือการแต่งหน้าแบบหาตัวจับยาก แต่ อาจารย์หนึ่ง ยังเป็น “นักออกแบบคิ้ว” แถวหน้าที่มีลูกค้าจองคิวกันยาวเหยียดอีกด้วย
อาจารย์หนึ่ง-จารุภัทร บอกเล่าถึงเส้นทางการมาเป็นเมคอัพอาร์ติสท์ให้ฟังว่า เป็นคนจังหวัดน่านโดยกำเนิด มีความชอบเรื่องความสวยความงามมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 17 ปี เรียนจบ ปวส. จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาพร้อมกับเงิน 500 บาท โดยบอกพ่อว่าจะมาเที่ยวไม่กี่วันก็กลับ
“ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะท่านเป็นข้าราชการ ก็อยากให้ลูกเรียนหนังสือ แต่หัวเรามันไม่ไปทางนั้น พอมากรุงเทพฯ มีเพื่อนรุ่นพี่ที่เขาเป็นช่างแต่งหน้ากองถ่าย เราก็มาอยู่กับเขา เป็นลูกมือถือกระเป๋าเครื่องสำอาง เขาก็สอนเราไปด้วย ครูพักลักจำไปด้วย เพราะ 20 กว่าปีก่อนค่าเรียนแต่งหน้าทำผมแพงมาก ไม่มีเงินไปเรียนก็ต้องใช้วิธีนี้ จนได้เลื่อนขั้นให้แต่งหน้านักแสดง ก็คิดว่าไม่พอ ไปสมัครทำงานพนักงานขายเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง ก็ได้ความรู้จากตรงนั้น พอมีฝีมือดีขึ้นจึงลาออก แต่ก็ยังวนเวียนแต่งหน้ากองถ่าย รับงานฟรีแลนซ์มาเรื่อยๆ พอมีเงินเก็บ จึงไปเรียนต่อจนจบปริญญาตรีตามที่พ่อคาดหวัง เพื่อให้เขาภูมิใจว่า อาชีพที่เขาเคยไม่เห็นด้วยมันสามารถทำให้ลูกคนนี้ดูแลตัวเองได้”
การเป็นช่างแต่งหน้ากองถ่าย ถือเป็นการเปิดโอกาสในอาชีพนี้อย่างมาก เพราะการได้แต่งหน้าดารา นักแสดงชื่อดัง เป็นการการันตีฝีมือได้เป็นอย่างดี
“คุณแหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์, คุณนก- จริยา, คุณอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ เป็นนักแสดงรุ่นแรกๆ ที่หนึ่งได้มีโอกาสแต่งหน้าให้ตอนทำงานใหม่ๆ ซึ่งพี่ๆ เขาให้โอกาสกับเด็กคนหนึ่งมากๆ ถ้ารุ่นเด็กลงมาหน่อย น้องเด่นคุณ น้องอาย- กมลเนตร ที่ได้มีโอกาสแต่งหน้ากันเป็นประจำ อย่าง คุณนก-ชลิดา และคุณกบ-เกรียงศักดิ์ สามี ก็ไว้วางใจให้ดูแลแต่งหน้าทำผมจนถึงทุกวันนี้ แถมยังช่วยแนะนำลูกค้าให้อีกด้วย ซึ่งหนึ่งก็ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ในวงการบันเทิงที่มีส่วนในการทำให้เรายืนอยู่ตรงนี้ได้”
นอกจากฝีมือการแต่งหน้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ อาจารย์หนึ่ง-จารุภัทร ได้รับการยอมรับในฝีมือคือ การออกแบบและสักคิ้ว ด้วยการทำงานที่แตกต่างไปจากช่างสักคิ้วคนอื่นๆ
“หนึ่งใช้เรื่องของโหงวเฮ้ง ราศีเกิดเข้ามาควบคู่ด้วย เพราะลูกค้าที่มาให้ออกแบบคิ้วมีหลายจุดประสงค์ หลักๆ คือ เพิ่มความสะดวกในการแต่งหน้า สองคือเสริมโหงวเฮ้ง บางคนต้องการเรื่องเงิน ต้องการเรื่องเสน่ห์ แต่ไม่ได้เป็นหมอดูนะครับ แค่เอาศาสตร์พวกนี้เข้ามาเสริมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า พอเอาศาสตร์โหงวเฮ้ง ราศีเกิดเข้ามาทำให้การออกแบบคิ้วของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปและด้วยความที่เราเป็นช่างแต่งหน้าอยู่แล้ว เราจะรู้ว่าโครงหน้าแบบนี้ควรจะมีทรงคิ้วอย่างไรที่เหมาะรับกับรูปหน้าและใช้สีโทนไหนที่จะเสริมชะตาราศีของคนคนนั้น”
ลำพังแค่การใช้ศาสตร์โหงวเฮ้งเข้ามาเสริม ก็คงไม่อาจทำให้มีลูกค้ามาต่อคิวได้มากมายถึงต้องจองคิวล่วงหน้ากันเป็นเดือน
“ไม่ว่าจะแต่งหน้า หรือคิ้ว สิ่งที่หนึ่งจะยึดเสมอในการทำงาน คือลูกค้าที่มาหาเราเพราะเขาอยากสวยขึ้น อยากมีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้น ก่อนทำงาน เราก็ต้องมีการคุยให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าก่อน ดูว่าลูกค้ามีจุดต้องแก้ไขตรงไหน แล้วเราก็จะให้คำแนะนำว่าหน้าแบบนี้ควรแต่งหน้าโทนไหน หรือจะทำคิ้วทรงไหนดี อย่างเรื่องคิ้วไม่ใช่ว่าลูกค้ามาแล้วเราจะลงสีอย่างเดียว บางคนอาจจะคิ้วเข้ม มีขนคิ้วอยู่แล้ว ก็ใช้เทคนิคสไลด์คิ้ว แทนเทคนิคการลงเส้น เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนคิ้วแต่งหน้า หรือหนุ่มๆ บางคนมีปัญหาคิ้วแหว่ง เราก็เติมส่วนนั้นให้เต็ม คือต้องดูไลฟ์สไตล์ของลูกค้าด้วยว่าจะใช้เทคนิคแบบไหนพอทำออกมาแล้วถ้าลูกค้ามีความพึงพอใจตั้งแต่ครั้งแรก ลูกค้าแฮปปี้ นั่นแสดงว่าเราทำงานได้ตอบโจทย์ เขาก็จะรู้สึกดีกับเราและบอกต่อ ที่ผ่านมาหนึ่งไม่ค่อยโฆษณาตัวเองเลย เพราะหนึ่งเชื่อมั่นว่าการบอกต่อปากต่อปาก คือการโฆษณาที่ดีที่สุด เราไม่ต้องบอกว่าเราดีเราเก่ง แต่ให้ลูกค้านี่แหละครับเป็นคนการันตีผลงานฝีมือของเรา”
แม้วันนี้จะได้รับการยอมรับในฝีมือมากแค่ไหน อาจารย์หนึ่ง แห่งซุปเปอร์หนึ่งเมคอัพ บอกว่า ต้องทำตัวให้เป็นแก้วที่พร่องน้ำอยู่ตลอดเวลา
“ทุกวันนี้หนึ่งก็ยังต้องไปศึกษาหาความรู้เพิ่มตลอดนะครับ อาจารย์ไหนใครว่าดีมีฝีมือ หนึ่งก็ยังต้องไปดูไปศึกษา เพราะแต่ละท่านเขาก็มีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคที่แตกต่างกัน ถ้ามีคนถามหนึ่งไปเรียนทำคิ้วมาจากไหน ตอบยากเพราะไปเรียนมากับอาจารย์หลายท่านมากมีงานสัมมนาที่ไหน เรื่องแต่งหน้าทำผม ทำคิ้วก็จะพยายามไป เรียนแล้วก็มาลองทำดูว่าเทคนิคนี้เหมาะกับเราไหม หรือเอามาปรับให้เป็นสไตล์ของเราได้อย่างไร ไม่ใช่แค่เทคนิคในประเทศที่ต่างประเทศหนึ่งก็ไปเรียนกับอาจารย์ชาวเยอรมันและรัสเซีย ถ้าในเอเชียเทคนิคของเกาหลี หรือเวียดนาม เรื่องคิ้วของเขาถือว่าระดับต้นๆ เลยทีเดียว”กว่า 20 ปี ในวงการเมคอัพ นอกเหนือจากชื่อเสียงและรายได้ที่ได้รับแล้ว สิ่งสำคัญคือ “ความภาคภูมิใจ” และ “ความสุข”
“จากตอนอายุ 17 ปี ที่เข้ากรุงเทพฯ มาด้วยเงิน 500 บาท ตอนนี้อายุ 36 ปี มีทรัพย์สินในระดับหนึ่ง สามารถเป็นหลักให้กับ
ครอบครัวได้อยู่สุขสบาย ก็ภูมิใจในตัวเองมาก และมีความสุขที่ได้เห็นลูกค้ามีความสุขจากสิ่งที่
เราทุ่มเทตั้งใจแต่งแต้มให้เขา ทุกวันนี้ทำงานไม่ใช่แค่เรื่องรายได้ เพราะสิ่งที่มีอยู่หนึ่งก็พอใจ
มากแล้ว แต่ทำงานเพราะอยากเห็นรอยยิ้ม อยากเห็นใบหน้าที่ความสุขของลูกค้าที่มาใช้บริการของเราครับ”
ใครที่กำลังมองหาเมคอัพอาร์ติสท์คู่ใจหรืออยากจะมีคิ้วสวยๆ เสริมโหงวเฮ้ง ตามไปส่องผลงานการแต่งหน้าและการออกแบบคิ้วของ อาจารย์หนึ่ง ได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ “ซุปเปอร์หนึ่งเมคอัพ” นะคะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี