คนไทยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ท่านมานาน แต่น่าเสียดายที่หลายคนแค่เพียงได้ยิน แต่อาจจะไม่ใส่ใจว่าพระองค์ทรงบอกอะไรกับคนในสังคม
แนวหน้าวาไรตี้ สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัยยอดมาลัย พาคุณไปตามรอยพระบาท ในหลวง รัชกาลที่ 9 กับ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ผู้บริหารมูลนิธิธรรมดี
l พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่คนไทยเรียกขานพระนามพระองค์ท่านมาโดยตลอดว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานโครงการพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่ให้คุณประโยชน์กับสังคมไทยมหาศาล แต่น่าเสียดายที่คนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ซาบซึ้ง เปรียบเสมือนคนไทยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ท่าน แต่ไม่ค่อยใส่ใจ คุณดนัย คือหนึ่งในผู้ที่พยายามจะทำให้สังคมไทยตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ท่านโดยการพาผู้คนไปสัมผัสของจริงในโครงการพระราชดำริ อยากให้คุณดนัยบอกเหตุผลในการพาคนไทยไปชมโครงการพระราชดำริของพระองค์ท่านครับ
ผมและคุณเฉลิมชัย และคนอื่นๆ อีกมากมาย เคยไปชมโครงการพระราชดำริมาแล้วหลายที่ เช่นที่คุ้งกระเบน จันทบุรี ที่หุบกะพง และโครงการชั่งหัวมัน ที่ เพชรบุรี และโครงการพระราชดำริอีกหลายที่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับหลังจากไปสัมผัสโครงการต่างๆ ก็คือ ได้เห็นน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา และได้เห็นถึงพระราชอุตสาหะของพระองค์ท่าน ที่ทรงต้องการให้ประเทศไทยและคนไทยมีอยู่มีกิน และมีความผาสุก ผมตั้งใจจะพาสมาชิกกลุ่มต่างๆ ไปตามโครงการพระราชดำริทุกเดือน ไปตามที่ต่างๆ ให้ครบทุกแห่ง แต่ผมคิดว่าคงไปได้ครบทุกแห่งยาก เพราะมีกว่า 4,000 โครงการ แต่ก็ตั้งใจจะทำให้มากที่สุด จากตัวอย่างผลลัพธ์ที่ผมและผู้จัดโครงการได้รับคือ เราได้เห็นว่าเด็กและเยาวชนที่เราพาไปชมโครงการ เข้าใจและเกิดแรงบันดาลใจในการทำดี ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองมากขึ้น เด็กและเยาวชนหลายคนบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประชาชนคนไทยมากมายเช่นนี้ ทุกคนบอกตรงกันว่าพวกเขาซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาเขตทุรกันดารให้กลายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ จนทำให้ผู้คนมีอยู่มีกินอย่างสุขสมบูรณ์ ล่าสุดผมทำโครงการใหม่โดยร่วมมือกับคุณอดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS (แห่งประเทศไทย) โดยต้องการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับคนไทย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้เข้าใจว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 มีพระราชประวัติอย่างไร ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อบ้านเมืองของเรามากมายเพียงใดกระบวนการเรียนรู้ใหม่ที่ผมและพี่อดุลย์ร่วมกันทำคือ interactive board game ซึ่งเป็นเกมที่เด็กสามารถเข้าใจได้ง่าย และไม่ต้องใช้เวลานาน เพราะเราเห็นแล้วว่าเด็กและคนยุคนี้ไม่ค่อยสนใจอ่านหนังสือเล่มโตๆเล่มหนาๆ ดังนั้นเราจึงต้องการให้เขารู้และเข้าใจว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทำอะไรเพื่อพวกเราไว้อย่างมากมายเพียงใด นอกจากนี้ผมยังเขียนหนังสือภาษาอังกฤษ ชุด King Bhumibol Adulyadej of Thailand มีทั้งหมด 3 เล่ม คือเล่มแรกชื่อ From Princeto King บอกเล่าเรื่องราวสมัยทรงพระเยาว์ จนกระทั่งเสด็จขึ้นครองสิริราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของแผ่นดินไทย เล่มที่ 2ชื่อ Strength of the Land พูดถึงโครงการพระราชดำริทั้งหมดโดยย่อ เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้ว่าโครงการแก้มลิง กังหันชัยพัฒนา ฝนหลวง หญ้าแฝกแกล้งดิน และอื่นๆ คืออะไร เล่ม 3 คือ By the Light Your Wisdom บอกเล่าถึงพระบรมราโชบายที่เปรียบเสมือนดวงพระประทีปส่องสว่างให้สังคมไทยและส่องสว่างไปทั่วโลก เช่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่องค์การสหประชาชาติถวายพระเกียรติว่าเป็นแนวคิดสำคัญของมนุษยชาติ และอีกเรื่องหนึ่งคือการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสังคมที่ผาสุก ทุกวันนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน แม้กระทั่งสหประชาชาติก็เน้นในเรื่องนี้ แต่ในหลวงของเราทรงคิดเรื่องเหล่านี้ไว้ก่อนแล้ว คิดไว้หมดแล้วด้วย นี่แหละที่สิ่งสำคัญที่ผมต้องการให้คนไทย โดยเฉพาะเด็กไทยได้รับรู้ว่าพระองค์ท่านทรงทำอะไรไว้เพื่อประเทศของเราบ้าง นอกจากหนังสือก็ยังมี interactive board game เกมนี้ทำให้เด็กสนุกกับการค้นหาว่าพระองค์พระราชทานแนวคิดอะไรให้กับเรา พระองค์ทรงมีพระราชประวัติอย่างไร และได้รู้ถึงพระราชประวัติของราชสกุลมหิดลด้วย ได้ทราบว่าสมเด็จพระราชบิดาทรงเสียสละพระองค์ด้วยการทรงศึกษาวิชาแพทยศาสตร์ เพราะทรงต้องการนำความรู้ด้านแพทย์สมัยใหม่เข้ามาช่วยคนไทยให้มีสุขภาพดีขึ้น นักเรียนและเด็ก รวมถึงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ได้เล่นเกมนี้ต่างได้รับรู้พระราชประวัติได้เป็นอย่างดี และทุกคนสนุกกับการค้นหา อย่างเช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีแนวคิดสร้างนิสิตให้ก้าวไปสู่ความเป็นสากลด้วยนวัตกรรมศาสตร์พระราชา เพราะเราเห็นตรงกันว่าพระองค์พระราชทานแนวคิดไว้ให้เรามานานแล้ว ยิ่งศึกษาก็ยิ่งพบว่าพระองค์ทรงคิดทุกอย่างเพื่อให้สังคมไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้เป็นอย่างดี เราจึงสามารถกล่าวได้ว่าพระองค์ทรงเป็นสุดยอดอัจฉริยะพระองค์หนึ่งของโลกมนุษย์ ศาสตร์พระราชาคือสิ่งที่ทันสมัยและสามารถแก้ปัญหาให้กับสังคมมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
l ผมว่าน่าสนใจนะครับที่มหาวิทยาลัยของไทยจะนำศาสตร์พระราชาเข้าไปประยุกต์กับวิชาการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย ผมคิดว่าจะช่วยให้เด็กไทยกลายเป็นปัญญาชนได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่ปริญญาชน ช่วยขยายความเรื่องนี้ด้วยครับ
ผมได้ไปหารือกับท่านรองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรมา ท่านบอกว่าวันนี้โจทย์ของการผลิตบัณฑิตไทย ไม่ใช่ผลิตเพื่อให้ได้ใบปริญญาบัตร แต่จะเน้นให้บัณฑิตทำงานได้จริง และเป็นคนที่คิดได้ คิดเป็น คิดดี และทำได้จริง ท่านบอกผมว่าศาสตร์พระราชาคือคำตอบของการผลิตบัณฑิตในยุคปัจจุบัน เพื่อให้บัณฑิตมีความรู้และความสามารถแท้จริง ทำงานได้จริง คิดแก้ปัญหาได้จริง เราต้องใช้interactive board game เป็นเครื่องประกอบการเรียนการสอนศาสตร์พระราชาด้วย เพราะจะทำให้เด็กและผู้เรียนเข้าใจได้ดีขึ้นว่า พระองค์ท่านทรงคิด และทรงสร้างอะไรไว้เพื่อสังคมไทยบ้าง แล้วแต่ละอย่างเชื่อมโยงกันอย่างไร ศาสตร์พระราชาสามารถแก้ปัญหาสังคมและปัญหาโลกได้อย่างเป็นรูปธรรมครับ ผมยืนยันว่าโครงการพระราชดำริสามารถแก้ปัญหาให้กับสังคมไทยและสังคมโลกได้ครับ โครงการพระราชดำริมีทั้งหมด 4,741 โครงการ เป็นโครงการที่ผมเรียกว่าอริยสัจ 4 คือทรงเห็นความทุกข์ของชาวบ้าน แล้วทรงแก้ทุกข์ให้กับชาวบ้าน ทรงชี้ให้เห็นเหตุของปัญหา แล้วทรงชี้ทางแก้ปัญหาให้ด้วย นี่คือศาสตร์พระราชาอย่างแท้จริง
l น่าสนใจครับ เพราะที่ผ่านๆ มานั้นสถาบันการศึกษาของเรามักจะเห่อตามฝรั่งตะวันตก นับว่าเป็นเรื่องดีที่จะหันมาศึกษาศาสตร์พระราชาอย่างจริงๆ จังๆ บัณฑิตจะได้รู้ว่าบ้านของเรามีพระราชาที่ทรงพระอัจฉริยภาพและพระราชทานแนวทางแก้ปัญหาให้กับเราไว้นานแล้ว
ครับ ผมเห็นว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ เพราะอาจารย์ยืนยันศาสตร์พระราชาแก้ปัญหาให้สังคมไทยได้ และมหาวิทยาลัยกำลังปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง สังคมยุคนี้ปรับตัวให้เข้ากับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งเป็นสังคมดิจิทัลมากก็จะต้องปรับตัวมาก เราต้องมีข้อมูลลึกและจริง และต้องรู้เท่าทันข้อมูล ต้องวิเคราะห์ได้ ต้องมีสติปัญญา ต้องแก้ปัญหาได้ ต้องลงไปเรียนรู้ข้อเท็จจริงในพื้นที่ แล้วแก้ปัญหาด้วยตัวของเราเองให้ได้ ต้องทำเป็นต้องรู้จริง สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ เมื่อก่อนนี้น้องๆ ในมหาวิทยาลัยจะกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์แบบลอยๆ ใช้ภาษาแบบหนึ่ง แต่หลังจากเขารู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินทรงทำคุณประโยชน์มากมายให้กับบ้านเมืองและประชาชน เขาก็เกิดความรักและศรัทธาในพระองค์มากขึ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน คุณเฉลิมชัยเชื่อไหมครับ แค่วันครึ่งเท่านั้น ความคิดของพวกน้องๆ พลิกเลยครับ หลายคนน้ำตาร่วง ความเข้าใจที่แท้จริงในศาสตร์พระราชาสามารถเปลี่ยนความคิดของน้องๆ ได้ แล้วยิ่งเขาได้ไปสัมผัสโครงการพระราชดำริจริงๆ เขายิ่งซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ นี่คือความจริงเชิงประจักษ์ที่ทำให้น้องๆ ประทับใจ หลายคนบอกว่าเมื่อรู้ศาสตร์พระราชาแล้ว สามารถกลับไปพัฒนาบ้านเกิดของพวกเขาได้ และยังมีแรงบันดาลใจอยากทำตัวเป็นประโยชน์กับสังคมและชาติบ้านเมืองมากยิ่งขึ้น หลายคนบอกว่าในหลวงทรงทำคุณประโยชน์เพื่อบ้านเมืองมากมายจนสุดจะพรรณนา และบอกว่าสังคมไทยเป็นหนี้พระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระองค์ท่าน
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวีหรือ True Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี