ปัจจุบันผู้หญิงหันมาดูแลสุขภาพกันมากโดยเฉพาะเมื่อมีอายุมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกายรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น รับประทานอาหารเสริม ยาสมุนไพร เพื่อลดอายุ เพราะอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย และหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บที่จะมาเยี่ยมเยียน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงในวัย 50 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ประจำเดือนเริ่มหมดหรือเรียกว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทอง ผู้หญิงที่อ้วน หรือไม่มีบุตร ท่านอาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แต่ถ้ามาพบแพทย์ตั้งแต่แรกเริ่มมีอาการก็สามารถรักษาได้
ข้อมูลจาก แพทย์หญิงกมัยธร เทียนทองกลุ่มงานสูตินรีเวชศาสตร์ รพ.ราชวิถี เปิดเผยว่า มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 3ของมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีไทย โดยพบประมาณ3 คนต่อแสนรายต่อปี แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา หรือยุโรป จะพบบ่อยเป็นอันดับ 1
ประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่เริ่มมีการรับประทานอาหาร ลักษณะความเป็นอยู่คล้ายคลึงประเทศแถบตะวันตกมากขึ้นทุกที จึงพบการเกิดมะเร็งชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน แต่ในปัจจุบันเริ่มพบในผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ พบว่าการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน เป็นปัจจัยที่พบได้บ่อย ดังนั้นภาวะใดก็ตามที่ทำให้มีฮอร์โมนเหล่านี้มากผิดปกติก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้ด้วย ได้แก่
l คนไข้วัยทอง ที่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริมเพียงอย่างเดียว สามารถกระตุ้นโรคนี้ได้
l สมุนไพร ยาสมุนไพรบางชนิดมีเอสโตรเจนปริมาณสูง เช่น กวาวเครือ และอีกหลายชนิดมีเอสโตรเจนแฝงอยู่โดยไม่รู้ การรับประทานสมุนไพรบางตัวจึงอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
l ความอ้วน คนที่มีน้ำหนักตัวมากจะมีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้มากกว่าคนที่น้ำหนักตัวปกติ ดังนั้นยิ่งอ้วนมากยิ่งมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากขึ้น
l ยารักษามะเร็งเต้านม ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมหลังผ่าตัด มีความจำเป็นที่แพทย์จะให้รับประทานยาป้องกันการกลับเป็นซ้ำ (ทามอกซิเฟน) ซึ่งยานี้จะกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติได้ จึงสมควรได้รับการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยควรจดความถี่ของประจำเดือนอย่างสม่ำเสมอ ถ้าผิดปกติควรมาตรวจกับสูตินรีแพทย์
l ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หน้ามัน มีสิว หรือมีขนดกมากขึ้น
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก ได้แก่ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ผู้หญิงที่ไม่มีลูก มีประวัติพันธุกรรม ญาติสายตรงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะการมีปัจจัยเสี่ยงไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นมะเร็งแต่จะได้เฝ้าระวังดูแลและรีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการ
อาการแสดงของโรค โรคนี้มักเริ่มแสดงอาการแต่เนิ่นๆ นั่นคือ มีเลือดออกทางช่องคลอด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้มักเกิดหลังอายุ 50 ปี ดังนั้น ผู้หญิงทุกคนที่มีเลือดออกหลังหมดประจำเดือนไปแล้วควรรีบมาพบแพทย์ หากผู้ที่ยังไม่ถึงวัยทอง แต่ถ้ามีอาการเลือดออกผิดปกติที่ไม่ใช่รอบเดือน เช่น ออกกะปริดกะปรอย หรือออกมามากและนานกว่าปกติ คือเกิน 7 วันต่อรอบ ก็ควรมาพบแพทย์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงข้างต้น ยิ่งพบแต่ระยะแรกโอกาสหายยิ่งสูง หากมีอาการผิดปกติไม่ควรนิ่งนอนใจ
การวินิจฉัยที่แน่นอนได้จากการนำชิ้นเนื้อในโพรงมดลูกไปตรวจทางพยาธิวิทยา วิธีการตรวจมีได้หลายอย่างไม่ต้องดมยาสลบ การดูดเซลล์ โดยสอดหลอดเล็กๆ เข้าไปในปากมดลูกเข้าไปเก็บเนื้อในโพรงมดลูก หรือต้องขูดมดลูก หรืออีกวิธีคือการส่องกล้องเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อเก็บชิ้นเนื้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาในการเลือกวิธี ซึ่งเมื่อเราได้ชิ้นเนื้อนั้นมาแล้ว หากมีเซลล์มะเร็งอยู่จะมีวิธีการรักษาต่อไป
การรักษา การผ่าตัดเป็นวิธีหลักของการรักษาโรคนี้ที่เป็นทั้งการรักษาและกำหนดระยะของโรคสามารถทำได้โดยการผ่าตัดทั้งการผ่าตัดทางหน้าท้อง และการผ่าตัดผ่านกล้อง หลังจากผ่าตัดแล้วแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาต่อว่าผู้ป่วยควรได้รับการรักษาเพิ่มเติม เช่นการให้รังสีรักษา และการให้ยาเคมีบำบัดหรือไม่
วิธีป้องกันตัวเอง เนื่องจากโรคนี้ไม่มีวิธีคัดกรอง คนไข้จะต้องสังเกตตัวเอง ถ้ามีเลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติก็ควรจะต้องมาพบแพทย์โดยเร็ว การลดความอ้วนออกกำลังกาย และไม่ใช้ยาสมุนไพรโดยไม่จำเป็นก็จะช่วยให้ลดการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ นอกจากนี้ปัจจัยที่พบว่าสามารถป้องกันโรคนี้ได้คือการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด หรือฉีดยาคุมกำเนิด
ปัญหาหลักของผู้หญิงในปัจจุบันคือ ไม่ยอมมาตรวจภายในเพราะว่าอาย มีเลือดออกทางช่องคลอดก็ไม่มาตรวจเพราะว่าไม่คิดว่ามีความสำคัญ ทำให้เสียโอกาสในการรักษาถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งมีโอกาสที่จะรักษาให้หายขาดได้
ในปัจจุบัน กลุ่มงานสูตินารีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี พยายามหาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาใช้ในการผ่าตัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องในผู้ป่วยที่เหมาะสม จะทำให้เกิดแผลเล็ก คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วและไม่ต้องค้างโรงพยาบาลหลายวัน พบว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้ามารักษาเฉพาะมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกของ รพ.ราชวิถี ปี 2015-2018 พบว่า โดยในปี 2561ที่ผ่านมา มีคนไข้มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกที่อยู่ในการดูแลถึง 570 คน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจากสถิติในปี 2561 ที่ผ่านมา รพ.ราชวิถี รักษาผู้ป่วยมะเร็งมากถึง 15,670 คน เป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศปีละ 10,250 คน แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งที่จำเป็นต้องรักษาอาจต้องรอคิวการรักษายาวนานซึ่งการรอเพื่อรับการรักษาในผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านี้ เป็นปัญหาสำคัญ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วโอกาสที่จะหายและสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติจะมีมากขึ้น
ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน มาร่วมต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่รอโอกาสทางการรักษาโรคมะเร็ง ใน “กองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิ รพ.ราชวิถี” โดยร่วมบริจาคได้ที่บัญชีมูลนิธิรพ.ราชวิถี หมายเลขบัญชี 0512163221 ธ.ไทยพาณิชย์ สาขา รพ.ราชวิถี หรือ www.rajavithifondation.com หรือโทร.02-3547997-9
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี