ว่ากันว่าพ่อคือต้นแบบของลูกชาย ก็คงจะเช่นเดียวกับ อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ เป็นลูกไม้ใต้ต้นของ มงคลพัฒน์
สรรณ์ไตรภพ นักการเมืองท้องถิ่นคนดังของศรีสะเกษ ที่อยากจะมาสานต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำงานเพื่อปากท้องชาวศรีสะเกษ ซึ่งวันนี้เขาก็เดินตามรอยเท้าพ่อด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งและได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นเข้ามาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง ส.ส.รุ่นใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน
อาสพลธ์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจบปริญญาโท Construction Enjineering and Mangement, University of Florida สหรัฐอเมริกา และทันทีที่เรียบจบเขาก็เดินเข้าสู่สนามการเมืองโดยได้รับแรงบันดาลใจจากผู้เป็นพ่อโดยเส้นทางการเมืองของ ส.ส.แนน เริ่มจากการเล่นการเมืองท้องถิ่นได้เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 2 สมัย โดยสมัยที่ 2 เขายังได้รับโอกาสให้ดำรงตำแหน่ง เลขานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จนชาวบ้านเรียกติดปากว่า “เลขาฯแนน”
“ตั้งแต่เด็กผมเห็นคุณพ่อทำงานหนักมาตลอด ลงพื้นที่รับฟังปัญหา หาวิธีแก้ไขเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสช่วยงานคุณพ่อหลายๆ ด้านมาตลอด ท่านก็ไม่ได้ปลูกฝังว่าผมจะต้องมาเป็นนักการเมือง แต่ก็เหมือนซึมซับไปไม่รู้ตัวส่วนหนึ่งที่ผมมาลงการเมืองก็เพราะเห็นว่าคุณพ่อท่านอายุเยอะแล้วทำงานหนักเพื่อประชาชน ในฐานะลูกก็อยากแบ่งเบาภาระตรงนั้น จึงได้ตัดสินใจเล่นการเมือง”
กว่า 4 เดือน ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.แนน บอกว่า นโยบายที่ใช้หาเสียง มีทั้งที่กำลังหาแนวทาง และบางเรื่องก็ใกล้จะสำเร็จเป็นรูปธรรม
“นโยบายที่ใช้หาเสียงมี 3 เรื่องหลักๆ เรื่องแรกคือ Profit sharing ที่บ้านผมทำธุรกิจโรงสี ผมก็จะคุ้นเคยกับชาวนา ก็จะได้ยินชาวนาบ่นว่า ยิ่งปลูกยิ่งจน โรงสียิ่งทำยิ่งรวย มันกลายเป็นโรงสีไปเอาผลประโยชน์ แต่ในความเป็นจริง โรงสีไม่ได้กำไรเยอะขนาดนั้นถ้าทำถูกต้อง ก็เลยคิดถึงการทำ Profit sharing มากางบัญชีให้มันถูกต้อง แบ่งกำไรให้ชาวนา 70
โรงสี 15 ผู้ส่งออก 15 ทำอย่างนี้จะได้หมดข้อครหา ให้ระบบมันเดินได้มีความโปร่งใส แต่ว่าพรรคภูมิใจไทยได้ดูแลกระทรวงพาณิชย์ มันก็เลยไปต่อลำบาก แต่ในฐานะ ส.ส. สิ่งที่เราทำได้คือการเสนอข้อกฎหมายเข้าสภาให้มีผลในทางปฏิบัติ เรื่องสอง คือ กยศ. เรื่องการพักชำระหนี้ ไม่คิดดอกเบี้ย ไม่คิดเบี้ยปรับ ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสองกระทรวงหลัก คือ กระทรวงศึกษาฯ และกระทรวงการคลัง ก็ไม่รู้เขาจะคิดอย่างไร แต่นโยบายนี้ผมคิดถึงผลประโยชน์ของผู้กู้ กยศ. เอง อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง เรื่องสามคือเรื่อง Grab ถูกกฎหมายซึ่งอันนี้ก็สำเร็จแล้ว จะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า
นอกจากนี้ก็มีเรื่องการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรของจังหวัดศรีสะเกษ ที่ผมกำลังศึกษาความเป็นไปได้ถึงแนวทางการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าศรีสะเกษมีน้ำเพียงพอที่จะให้ชาวนาสามารถปลูกข้าวนาปรัง ก็ช่วยให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาคือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจนได้ การสร้างพื้นที่ Knowledge Center ให้มากขึ้น เพื่อให้เด็กๆ และเยาวชนได้มีพื้นที่ในการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และมีความปลอดภัยเหมาะสมกับวัยของพวกเขา”
ในการทำหน้าที่ ส.ส. เป็นสมัยแรก อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยก็มีบทบาทเป็นเพียงพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้กำกับดูแลกระทรวงใด จึงอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ แต่สำหรับ ส.ส.แนน มองว่า นี่คือโอกาสในการเรียนรู้
“ในการทำงาน เป็น ส.ส. สมัยแรก ซึ่งเราก็ไม่มีประสบการณ์หรือชั่วโมงบินสูง การจะทำนโยบายให้เป็นไปตามแผนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมเชื่อว่าทำได้ เพียงขอเวลาเรียนรู้ ไม่หนักใจอะไรสิ่งไหนที่ทำได้ก่อนก็ทำ ซึ่งการเป็น ส.ส. ทำให้เรามีพื้นที่ มีเวทีที่จะนำปัญหาต่างๆ เข้าสภา หรือขอความร่วมมือไปยังกระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำได้มากได้น้อยก็ค่อยๆ ทำไป ตามแผนที่วางไว้ เพราะผมก็จะวางแผนมีทั้งแผนระยะสั้น ระยะยาว คือถ้าสภาฯ ชุดนี้อยู่ได้ครบวาระ 4 ปี ปัญหาอะไรที่ต้องแก้ไขให้พี่น้องประชาชนให้สำเร็จผมวางไว้หมดแล้ว สำคัญคืออย่าโกหกประชาชน สำหรับผมกับชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนมาขอให้ช่วยแก้ไข ถ้าอันไหนที่ผมทำไม่ได้ผมจะไม่รับปาก แต่ผมจะหาวิธีช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาปัญหานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด”
สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็น ส.ส. นั่นคือการตระหนักรู้ในหน้าที่ของตนเอง
“อย่างที่ประชาชนบ่นกันมาตลอด ว่าการเมืองไม่มีเสถียรภาพทำให้เศรษฐกิจไม่ดี ชาวบ้านไม่รู้จะไประบายกับใคร พอเจอหน้า ส.ส.ที่เขาเลือกมาก็เลยเลือกที่จะมาระบายกับเรา ตรงนั้นเราก็ต้องรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ฟังแล้วปล่อยผ่าน นำข้อมูลที่ได้รับฟังมาไปพูดในสภา หรือพูดกับผู้ใหญ่ที่เขามีอำนาจหน้าที่จัดการได้ต่อไป คืออย่าลืมว่าเรามาเป็น ส.ส. ได้ก็เพราะคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้มอบความไว้วางใจว่าเราจะแก้ไขปัญหาให้เขาได้ ดังนั้นเวลาประชาชนพูดอะไรเราต้องฟัง และต้องทบทวนตัวเองอยู่เสมอว่าเรามาเป็น ส.ส. เพราะต้องการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน ตั้งใจทำงานทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อที่วันหนึ่งสิ่งที่ผมทำจะเป็นบรรทัดฐานหรือเป็นมาตรฐานให้กับคนที่เข้ามาในอนาคต”
เมื่อถามถึงการเป็น “นักการเมืองที่ดี” ส.ส.อาสพลธ์ ให้มุมมองว่า นักการเมืองที่ดี ต้องประกอบไปด้วย 3 สิ่งนี้
“หนึ่งคือ ต้องลงพื้นที่ทำงาน รับฟัง แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน สองคือการหางบประมาณมาพัฒนาพื้นที่ และสามคือการไม่คอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ผมไม่ได้บอกว่าผมจะดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมกล้าพูดว่าถ้าเทียบกับนักการเมืองรุ่นเก่า รุ่นผมดีกว่าแน่นอน และรุ่นต่อจากผมก็ต้องดีกว่าผมแน่นอน นักการเมืองรุ่นเก่าคนอาจจะมองเป็นสีดำ
พอรุ่นผมเป็นเทา แต่รุ่นต่อไปจะเป็นสีขาว ผมเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะวันนี้สภาผู้แทนราษฎรมีนักการเมืองรุ่นใหม่เยอะ
และทุกคนที่เข้ามาไม่ได้คิดถึงเรื่องส่วนตัว เพื่อที่จะเบียดบังผลประโยชน์เข้าตัวเอง ผมเชื่อว่านักการเมืองรุ่นใหม่ที่เข้ามาวันนี้ ทุกคนเบื่อการเมืองแบบเดิมๆ ที่มีความขัดแย้ง แบ่งฝ่าย แต่ทุกคนเสียสละตนเองมาเพื่อแก้ไขปัญหาพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง”
ว่าด้วยเรื่องการทำงานในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กันไปแล้ว ก็ขอเจาะชีวิตส่วนตัวกันเสียหน่อย ในฐานะผู้นำครอบครัวส.ส.แนน บอกว่าต้องยกความดีให้กับภรรยาผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
“นอกจากเป็น ส.ส. ผมยังเป็นกรรมการวิปรัฐบาลด้วยดังนั้นตั้งแต่รับตำแหน่ง 4 เดือนกว่าๆ วันจันทร์ประชุมวิป วันอังคารและวันพุธมีเรียนหลักสูตรสถาบันพระปกเกล้าวันพฤหัสฯ ประชุมสภา ตอนเย็นประชุมสภาเสร็จก็จะขับรถกลับศรีสะเกษ วันศุกร์-วันอาทิตย์ ก็จะลงพื้นที่เป็นอย่างนี้มาตลอดเวลาที่จะอยู่กับภรรยาและลูก 4 คน คือ ช่วงเย็นวันศุกร์-วันอาทิตย์ ในการเลี้ยงลูกผมไม่ได้เข้มงวดหรือมีกรอบอะไรมาก เลี้ยงไปตามธรรมชาติ ตามวัยของเขา แต่จะเน้นการส่งเสริมสนับสนุนในเขาได้เรียนรู้ได้ทำในสิ่งที่เขาสนใจ แต่ลูกๆ เขาจะติดคุณแม่มากกว่าผมอยู่แล้ว พอมาทำงานที่กรุงเทพฯ เขาก็จะไม่งอแงอะไร ผมเองก็จะวีดีโอคอลคุยกับลูกๆ ทุกวัน ตรงนี้
ก็ต้องขอบคุณภรรยา ที่เข้าใจและดูแลบ้าน ดูแลลูกๆ เป็นอย่างดีทำให้ผมสามารถที่จะทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ เลย”
กำลังใจดีขนาดนี้ เชื่อแล้วล่ะว่า ส.ส.แนน หรือเลขาฯแนน คนดีคนเดิม มีพลังเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องชาวศรีสะเกษได้อย่างที่พูดไว้แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี