วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
สารพันปัญหา'มะเร็งปากมดลูก'  รู้ทัน-รู้ลึกวิธีป้องกันและรับมือ

สารพันปัญหา'มะเร็งปากมดลูก' รู้ทัน-รู้ลึกวิธีป้องกันและรับมือ

วันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 17.05 น.
Tag : มะเร็งปากมดลูก ปัญหาสุขภาพ นายแพทย์ธีธัช อดทน
  •  

“มะเร็งปากมดลูก” ชื่อนี้แค่ได้ยิน สาวๆ ก็รู้สึกกลัวแล้ว เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้หญิงไทยเป็นโรคนี้มากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม และยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยมากเป็นอันดับ 1 ด้วย โดยทุกปีจะมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 10,000 คน ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ ในจำนวนนี้จะเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 6,500 คน หรือวันละ 17 คน

มะเร็งปากมดลูกเกิดได้อย่างไร


มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งส่วนใหญ่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ คนที่ติดเชื้อนี้กว่า 80% จะไม่มีอาการ และอาจไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยร่างกายสามารถกำจัดออกไปได้เอง แต่มีบางส่วนที่เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เป็นระยะก่อนมะเร็ง และนำไปสู่การเป็นมะเร็งในเวลาต่อมาดังนั้น คนที่มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นคนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเซลล์ปากมดลูกมีโอกาสติดเชื้อเร็วกว่าและเปลี่ยนแปลงไปสู่ระยะก่อนมะเร็งหรือมะเร็งได้เร็วกว่านอกจากนี้ คนที่มีคู่นอนหลายคนก็มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น รวมทั้งคนที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่องบางชนิดและคนที่สูบบุหรี่ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ ร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่ำไม่แข็งแรงเมื่อมีการสัมผัสกับไวรัส HPV จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะก่อนมะเร็งหรือมะเร็งตามมาได้สูงกว่าคนที่สุขภาพแข็งแรงสำหรับกลุ่มอายุที่มีอุบัติการณ์เป็นมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 30 – 50 ปี

 

 

อาการแบบไหนที่น่าสงสัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก

นายแพทย์ธีธัช อดทน สูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด กล่าวถึงวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกว่า อาการหลักๆคือมีเลือดออกทางช่องคลอด ปกติรอบเดือนจะมาทุก 28 วัน แต่ละรอบไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์และไม่ควรมีเลือดออกก่อนหรือหลังรอบเดือนปกติหากมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน หรือรอบเดือนมานานขึ้น หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นอาการที่ต้องสงสัยว่าจะมีก้อนที่บริเวณช่องคลอดปากมดลูกหรือไม่ หรือว่าเป็นก้อนเนื้องอกโรคมะเร็งหรือไม่ ส่วนอาการอื่นๆ อาจมีตกขาวมากผิดปกติ หรือถ้าติดเชื้อที่ก้อนก็อาจมีตกขาวหรือมีหนองได้ คนไม่เคยตรวจภายในมาก่อนแล้วมีอาการเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะพบก้อนขนาดใหญ่แล้ว หรือมีรอยโรคค่อนข้างมาก ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของการที่มีเลือดออก เมื่อแพทย์ตรวจพบว่ามีก้อนจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อดูว่าเซลล์นั้นเป็นมะเร็งหรือไม่

เจาะลึกวิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก

เป็นความโชคดีที่ทางการแพทย์ทราบสาเหตุของการเป็นมะเร็งปากมดลูก และมีวิธีตรวจค้นหาก่อนระยะเป็นมะเร็งได้นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนที่ฉีดป้องกันได้ด้วย ซึ่งนายแพทย์ธีธัช ได้กล่าวว่า วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อHPV คือไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่มีคู่นอนหลายคน หากมีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกันการติดเชื้อด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนอกจากนี้ ควรฉีดวัคซีนที่สามารถกระตุ้นภูมิในการกำจัดเชื้อHPV เพื่อที่ว่าเมื่อมีการติดเชื้อ ร่างกายก็จะกำจัดเชื้อได้อย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตอบได้ว่าวัคซีนจะป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 100% หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าภูมินั้นเพียงพอมากน้อยแค่ไหนหรือมีการติดเชื้อมาก่อนที่จะได้รับวัคซีนทั้งนี้ แนะนำว่าควรฉีดวัคซีนเนื่องจากมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าการฉีดวัคซีนช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าการไม่ได้รับวัคซีน

การป้องกันในขั้นต่อไป คือ การตรวจเพื่อค้นหาระยะก่อนมะเร็ง ปัจจุบันมีการตรวจที่เรียกว่าแปปสเมียร์ (Pap Smear)เป็นการตรวจทางเซลล์วิทยา โดยตรวจบริเวณปากมดลูก และเก็บเซลล์บริเวณนั้นไปตรวจว่ามีเซลล์ลักษณะผิดปกติหรือไม่ เช่น เป็นระยะก่อนมะเร็งหรือไม่ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นมะเร็งมากน้อยแค่ไหน หรือว่าเป็นมะเร็งแล้ว เมื่อวินิจฉัยแล้ว ก็มาตรวจเพิ่มเติม เช่น ถ้าสงสัยว่ามีเซลล์ผิดปกติเป็นเซลล์ระยะก่อนมะเร็ง ก็มาดูที่ปากมดลูก ซึ่งจะมีการตรวจพิเศษที่เรียกว่า Colposcope หรือการส่องกล้องตรงบริเวณปากมดลูก เพื่อขยายดูว่าเซลล์บริเวณนั้นมีลักษณะผิดปกติจากเซลล์อี่นๆหรือไม่ แล้วตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไปตรวจยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ถ้าเป็นคือเป็นระยะใด ถ้ามีแนวโน้มว่าเซลล์บริเวณนั้นมีโอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็งสูง การรักษาก็คือตัดบริเวณปากมดลูกบริเวณโดยรอบนั้น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นมะเร็ง

การตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกแนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุกปี หรือไม่ควรห่างกันเกิน 2-3 ปี เริ่มตรวจตั้งแต่มีเพศสัมพันธ์ และตรวจไปตลอดจนกว่าจะอายุ 60 ปี ถ้าไม่พบความผิดปกติ สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสเกิดได้เช่นกัน แนะนำว่าควรตรวจเช็คตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป

 

 

ตัดมดลูกแล้วเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หรือไม่

สำหรับข้อสงสัยนี้ นายแพทย์ธีธัช กล่าวว่าต้องดูประวัติเก่าประกอบด้วย เพราะมดลูกมี 2 ส่วน คือ ตัวมดลูก และปากมดลูก ถ้าตัดแค่ตัวมดลูกแต่ยังเหลือปากมดลูก ก็มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ถ้าตัดตัวมดลูกพร้อมปากมดลูก มะเร็งก็จะไม่เกิดที่บริเวณปากมดลูก

วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฉีดอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

โดยปกติแล้วการฉีดวัคซีนสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดยแนะนำการฉีดวัคซีนที่อายุน้อยๆ คือช่วงอายุ 9-11 ปีจะดีที่สุด เพราะจะกระตุ้นภูมิได้สูง และโอกาสการสัมผัสไวรัสHPV จากการมีเพศสัมพันธ์ก็จะน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม หากอายุมากแล้ว การฉีดวัคซีนก็มีประโยชน์มากกว่าไม่ฉีดวัคซีนทั้งนี้ กรณีที่ฉีดวัคซีนก่อนอายุ 15 ปี ต้องฉีด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 จะเว้นช่วงจากเข็มแรก 6 เดือน แต่ถ้าอายุ 15 ปีขึ้นไปต้องฉีด 3 เข็มโดยเข็มที่ 2 เว้นช่วงจากเข็มแรก 1-2 เดือน หลังจากนั้นอีก 6 เดือนให้ฉีดเข็มที่ 3

 

 

ผู้ชายก็ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้

หลายคนสงสัยว่าผู้ชายไม่มีมดลูก จะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกทำไม ซึ่งกรณีนี้ นายแพทย์ธีธัชกล่าวว่า ผู้ชายก็สามารถฉีดได้ เพราะไวรัสHPV ส่งผลกับผู้ชายด้วย โดยทำให้เป็นหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักและมะเร็งทวารหนักได้หากใครต้องการป้องกันโรคเหล่านี้ ก็ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ โดยแนะนำการฉีดวัคซีนที่ช่วงอายุ 9-21 ปี

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก หรือเรื่องสุขภาพอื่นๆ สามารถขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัดได้ทั้ง 8แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1 และ 2 จังหวัดนครสวรรค์โรงพยาบาลพริ้นซ์ จังหวัดอุทัยธานี โรงพยาบาลพิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลพิษณุเวช อุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลสหเวช จังหวัดพิจิตร และโรงพยาบาลศิริเวชลำพูน จังหวัดลำพูน และสามารถติดตามสาระดีๆ เกี่ยวกับการแพทย์ได้ที่เฟซบุ๊ก: Principal Healthcare Company

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • หมดปัญหาเหงื่อออกเท้า ปัญหาที่แก้ได้ หมดปัญหาเหงื่อออกเท้า ปัญหาที่แก้ได้
  •  

Breaking News

‘หมอยง’ชี้โควิดเปลี่ยนสายพันธุ์เร็ว ยากจะป้องกันการติดเชื้อด้วยวัคซีน-ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม

สุดยอด! 'ชมพู่ พรพรรณ'แชมป์วอลเลย์ลีกอเมริกา

จับตา‘3 ดีล’สำคัญ เชื่อมฝ่ายอนุรักษ์นิยม ชี้ชะตา‘รัฐบาลอิ๊งค์-ทักษิณ’ไปต่อหรือจบเห่

รัฐบาลเปิดช่องทางแจ้งเบาะแสข้าราชการ‘กังฉิน’ ผ่านรายการ‘เสียงจากใจฯ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved