อาการ“ชาตามปลายมือปลายเท้า” ไม่ได้ส่งผลต่อการดำรงชีวิตในแต่ละวันเท่านั้น แต่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบประสาทที่หากปล่อยไว้อาจจะสายเกินแก้ ผู้ที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้า ไม่ว่าจะมีอาการบ่อยหรือไม่บ่อยก็ตาม ควรรีบหาสาเหตุและแก้ไขอาการก่อนที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างอื่นตามมา วันนี้ทีมเภสัชกร บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด มีคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารชาปลายมือปลายเท้ามาฝากกัน
ทำไมถึงมีอาการชา
อาการชาตามปลายมือปลายเท้าเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น นั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่ทั่วถึง หรืออาจมีสาเหตุจากโรคบางโรค เช่น เบาหวาน ปวดศีรษะไมเกรน ลมชัก หลอดเลือดสมอง เป็นต้น และอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้อาการหรือโรคนี้ทวีความรุนแรงขึ้นได้ คือ การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดความเสียหายของเส้นประสาทโดยเฉพาะการขาดวิตามิน B ที่มีความจำเป็นต่อเส้นประสาท หากรู้สึกถึงอาการเหน็บชาหรือมีอาการปวดเสียวบริเวณมือหรือเท้า เป็นไปได้สูงว่าร่างกายอยู่ในภาวะการขาดวิตามินในกลุ่มนี้
ถึงชาก็หายได้แค่ปรับพฤติกรรมและดูแลเรื่องอาหารการกิน
หากใครมีอาการชาตามปลายมือปลายเท้าสามารถบรรเทาด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานาน และแก้ไขท่าทางในชีวิตประจำวัน หากต้องอยู่ในท่าใดเป็นเวลานานๆ ควรหาโอกาสขยับร่างกาย ขยับแขนขยับขาบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว และเลือดไหลเวียนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้สะดวก
นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเน้นกลุ่มวิตามิน B รวมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง B1, B6 และ B12 ซึ่งทำให้เกิดการสร้างและเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท รวมทั้งป้องกันเส้นประสาทจากการถูกทำลายโดยโรคหรือพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง วิตามินกลุ่มนี้สามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น วิตามิน B1 พบในธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี สารสกัดจากยีสต์ ผลิตภัณฑ์จากถั่ว ส่วนวิตามิน B6 พบในอาหารจำพวกปลาทูน่า ผักโขม ผักตระกูลปวยเล้งกล้วย และวิตามิน B12 ได้จากไข่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเลประเภทกุ้ง ปู ผลิตภัณฑ์นม
อย่างไรก็ดี ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่อยู่ในภาวะเร่งรีบ ทำให้เป็นการยากที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการได้ทีมเภสัชกร บริษัท ไบโอฟาร์มเคมิคัลส์ จำกัด จึงมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมวิตามินให้กับร่างกายว่า สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยาในกลุ่มวิตามิน B เพื่อช่วยป้องกันและรักษาอาการชาตามปลายมือปลายเท้าและช่วยบำรุงเส้นประสาท ซึ่งวิตามินกลุ่มนี้ค่อนข้างมีความปลอดภัยเพราะมีคุณสมบัติในการละลายน้ำ หากได้รับในปริมาณที่เกินความจำเป็นร่างกายก็จะขับออกทางเหงื่อ หรือปัสสาวะ
ดังนั้น หากเริ่มรู้ตัวว่ามีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า ไม่ควรนิ่งนอนใจ ต้องเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเส้นประสาท หรือยาในกลุ่มวิตามินBและอย่าคิดว่าเพียงแค่อาการชาเดี๋ยวก็หายไป เพราะ “เรื่องชาอย่านิ่งนอนใจ ป้องกันและรักษาโดยไว”เพื่อไม่ให้เป็นสาเหตุของอาการหรือโรคอื่นๆ ที่อาจจะร้ายแรงมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี