ท่ามกลางกระแสดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมาก หนึ่งในเวทีประกวดผลงานศิลปะที่โดดเด่น แตกต่าง ส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการอ่าน และภูมิใจในความงดงามทางภาษาในวรรณกรรมไทยอย่าง โครงการจินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัชปีที่ 13 โดย บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ความสุข ความผูกพันของสังคมไทย” พร้อมถ่ายทอดแรงบันดาลใจที่ได้จากการอ่านนำเสนอเป็นภาพวาดจากจินตนาการ ที่ประกาศผลรางวัลชนะเลิศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
มนทกานติ ฤทธิ์จำนงค์ จากโรงเรียนศรียาภัย ผู้ชนะการประกวดรางวัลชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เจ้าของผลงาน “ความรู้สึกข้างใน” ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “เสียงเดือนในเสียงหวูดรถไฟ” กล่าวว่า “เหตุผลที่เลือกเพราะบ้านอยู่ใกล้รางรถไฟ แล้วตัวเอกก็มีความใกล้เคียงกับชีวิตของตัวเองมาก เลยเข้าใจความรู้สึกของตัวละครอย่างดี อ่านหนังสือเล่มนี้มานานแล้วค่ะ บวกกับชอบวาดรูปอยู่แล้วเลยตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวด ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนเล่นโซเชียลกันหมดมองว่าโครงการนี้ทำให้เด็กไทยมองเห็นคุณค่าที่อยู่ในตัวอักษร ทำให้เราได้สัมผัสเสน่ห์ของการพลิกหน้ากระดาษและกลิ่นหอมของกระดาษ รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ดิฉันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นต่อๆ ไป”
เช่นเดียวกับความรู้สึกของ ผจงภักดิ์ เอาเจริญภักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (เพาะช่าง) ผู้ชนะการประกวดรางวัลชนะเลิศ ระดับอุดมศึกษา เจ้าของผลงาน “โฮปเฟล” ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “ไผ่แดง” “ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่สองสัปดาห์ครับ รางวัลนี้เป็นทุนการศึกษา เพราะการเรียนศิลปะค่าใช้จ่ายสูงมาก จากนี้ผมจะส่งผลงานเข้าประกวดเวทีอื่นๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ รางวัลนี้เป็นเหมือนกำลังใจสำคัญให้เรารับรู้ว่า ศิลปะสามารถส่องทางกันและสื่อสารสิ่งที่อยู่ในความคิดของเราออกไปให้คนรับรู้ได้ แม้ในอนาคตงานของผมจะไม่ได้รางวัล อย่างน้อยเราได้ส่งผลงานเข้าประกวดก็มีความสุขแล้วครับ”
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ เจ้าของนามปากกา “ทมยันตี” พูดถึงความประทับใจ “ดิฉันได้เรียนรู้การพิจารณางานศิลปะผ่านการฟังศิลปินชั้นครูทุกท่าน เมื่อนำมาผสมผสานกับวิธีการพรีเซ็นต์นำเสนอผลงานของเยาวชน ทำให้เข้าถึงแรงบันดาลใจและจิตวิญญาณของคนเขียนรูปมากขึ้น ถ้าศิลปินวาดรูปด้วยหัวใจจะสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามลึกซึ้งได้ ดังนั้นอยากให้เด็กๆ และเยาวชนฟังเสียงหัวใจของตัวเองและถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะหรืองานเขียนให้ดีที่สุด เพราะการประกวดอินทัชช่วยให้เยาวชนรักการอ่านมากขึ้น ขณะเดียวกันเราก็จะมีภาพวาดที่มีคุณค่าไปประดับอยู่ในบ้านของคนไทยเช่นกัน” อ.ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2557 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าวชื่นชมผลงานของเยาวชน “เห็นความก้าวหน้าของเด็กรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ กล้าคิดกล้าแสดงออก รุ่นผมยังเน้นด้านทักษะและเทคนิค แต่ปัจจุบันน้องๆ สามารถถ่ายทอดความคิดและจินตนาการได้กว้างไกล ส่วนหนึ่งเพราะดิจิทัลช่วยให้เด็กๆ สามารถค้นคว้าหาข้อมูลและชื่นชมผลงานศิลปะได้ทั่วโลก ทำให้พวกเขาค้นพบความชอบและสไตล์การทำงานของตัวเอง และช่วยให้ค้นหาอัตลักษณ์ของตัวเองได้เร็วขึ้นเช่นกัน ผมอยากให้น้องๆ ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญของการอ่าน พอเราได้อ่านหนังสือหรือศึกษาหาข้อมูลมากขึ้นจะช่วยให้เรามีจินตนาการและสร้างสรรค์ผลงานได้ดี ทุกวันนี้วงการศิลปะเริ่มเข้าไปมีบทบาทและเชื่อมโยงกับสังคมไทยในแง่มุมที่หลากหลาย การประกวดอินทัชได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของศิลปและวรรณกรรมที่มีคุณค่าของไทย”
ไม่เพียงส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการอ่านและสร้างจินตนาการในรูปแบบของ “ศิลปะส่องทางกัน” หากแต่อีกหนึ่งความพิเศษของการประกวดในครั้งนี้คือ รายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา โดยมี ศ.เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรีศรีอรุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ขึ้นกล่าวขอบคุณบนเวทีและย้ำถึงความสำเร็จของโครงการนี้ ในฐานะ “ผู้ให้” โอกาสที่ยิ่งใหญ่แก่อนาคตของเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถร่วมสนับสนุนผลงานของเยาวชน ผ่านการจำหน่ายภาพการกุศลสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา รายได้ทั้งหมด (โดยไม่หักค่าใช้จ่าย) เพื่อเป็นทุนการศึกษาของนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้ที่ www.intouchcompany.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ติดตามผลการประกาศรางวัลและข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ที่ FB : intouchstation สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 082-7961670-1, 02-9346767 และ 02-1186953 หรือ Line ID: Jintanakarn.intouch
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี