หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันกับศิลปินชายลุคแสนอบอุ่นอย่าง ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญหนึ่งในสมาชิกและหัวหน้าวงดนตรีดิสโก้ฟังก์ชื่อดังอย่าง Groove Riders และโปรดิวเซอร์มือทองผู้ขับเคลื่อนวงการดนตรีไทยและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินไทย รวมถึงบรรดาเพลงฮิตคุ้นหูมากมาย และไม่ใช่เพียงเส้นทางศิลปิน แต่บนเส้นทางนักลงทุน ก้อ-ณฐพล เริ่มออกสตาร์ทไปพร้อมๆ กับงานบันเทิงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ก้าวเข้าสู่วงการการลงทุน ศิลปินหนุ่มมากฝีมือคนนี้ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และเปิดมุมมองความมั่นคงทางการเงินมากมาย
ก้อ-ณฐพล สลัดคราบคนดนตรีชั่วคราว และหยิบเอามุมมองที่แตกต่างด้านการลงทุนมาแนะนำคนรุ่นใหม่และคนทำงาน ที่เจ้าตัวเชื่อมั่นว่า การลงทุนจะช่วยสร้าง “อิสรภาพทางการเงิน”ได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งความมั่นคงในชีวิต ไม่ใช่มีไว้ให้คิดเมื่ออายุมาก
ศิลปินหนุ่มนักลงทุน เล่าว่า สมัยเด็กๆคุณพ่อคุณแม่จะปลูกฝังเรื่องการใช้จ่ายเงิน และปลูกฝังวินัยด้านการออมมาโดยตลอด สาเหตุหนึ่งมาจากเศรษฐกิจในอดีตที่ทำให้ตนได้เรียนรู้การประหยัดอดออม เมื่อย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางนักลงทุนจากคำแนะนำจากคุณพ่อ โดยหลังจากที่ตนเริ่มทำงานและมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง ได้ปรึกษากับคุณพ่อว่าอยากให้เงินก้อนงอกเงย ซึ่งคุณพ่อที่เป็นนักลงทุน จึงแนะนำให้นำเงินไปลงทุนกับหุ้นกลุ่มวัสดุชื่อดัง และเมื่อผ่านไปไม่นาน ได้รับเงินปันผลกลับมามากกว่าการฝากออมกับธนาคารปกติ ตนจึงเริ่มรู้สึกสนใจ และหันมาศึกษาเกี่ยวกับลงทุนอย่างจริงจัง เข้าร่วมสัมมนาการลงทุน และเริ่มต้นวางแผนการลงทุนด้วยตนเอง
“ข้อจำกัดใหญ่หลังจากที่ก้าวเข้ามาวางแผนการลงทุนด้วยตนเอง นั่นคือการบริหารเวลาระหว่างการทำงาน และกับการลงทุน เนื่องจากผมยังคงต้องทำงานไปด้วย ทำให้ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์ตลาดลงทุน รวมถึงการขาดความเชี่ยวชาญในการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ถึงขนาดเคยขาดทุน เพราะเลือกหุ้นเข้าพอร์ตด้วยการซื้อตามกระแส จึงเป็นจุดเริ่มต้นตัดสินใจเลือกใช้บริการบริหารการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ”
ไม่เพียงความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ๆ ต้องวางแผนได้แก่ การใช้ชีวิตอย่างมั่นคง ซึ่ง ก้อ-ณฐพล เชื่อว่า “การลงทุน” เป็นหนึ่งในเรื่องต้องคำนึงสำหรับการวางแผนทางการเงินที่นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมั่นคงในระยะยาว แต่การสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้น ในยุคปัจจุปันที่การลงทุนเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสมัยก่อน จึงเป็นทางเลือกที่การเติบโตที่น่าสนใจ และหากใครสามารถเริ่มต้นเส้นทางการลงทุนได้เร็วกว่า ก็จะสามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้เร็ว หรือ “เริ่มก่อนได้เปรียบ”
หนึ่งคำถามใหญ่ที่คนชอบถามกันมาก นั่นคือจะทำการลงทุนไปพร้อมๆ กับทำงานไปด้วยได้อย่างไร ซึ่ง ก้อ-ณฐพล มีข้อแนะนำว่า รูปแบบของการลงทุนนั้นมีหลากหลาย ทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงมีประเภทการลงทุนที่แตกต่างกันไป สิ่งที่ควรพิจารณานั่นคือ หากต้องทำงานระหว่างวันจนไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์ลงทุน ตัวเลือกการลงทุนระยะยาวและการลงทุนในกองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนนั้น นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยควรหมั่นวิเคราะห์สินทรัพย์ที่เลือกลงทุน รวมถึงต้องมีวินัยและเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน เช่น การกำหนดความเสี่ยงการลงทุนที่รับได้ และการควบคุมอารมณ์เหนือสภาวะทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
“อย่างไรก็ดี คำถามที่มักพบบ่อยในกลุ่มผู้เริ่มต้นลงทุนคือ ควรมีเงินเริ่มต้นลงทุนเท่าใด ซึ่งผู้ลงทุนต้องพิจารณาความต้องการใช้เงินของตนเอง โดยเงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินที่แบ่งสัดส่วนออกมาจากเงินออม และผู้ลงทุนพิจารณาแล้วว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนดังกล่าวในระยะเวลา 3-6 เดือนข้างหน้าและจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันหากเกิดกรณีฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงินด่วน
ผมยังประสบข้อจำกัดด้านเวลาเช่นเดียวกันกับคนทำงานทั่วไป จึงตัดสินใจใช้ “ซิตี้ ไพรออริตี้” บริการบริหารการลงทุนของธนาคารซิตี้แบงก์ เพื่อช่วยอุดรอยรั่วที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อได้เปรียบของบริการ ได้แก่ การมีเพื่อนคู่คิดที่คอยช่วยติดตามวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสีย และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผมที่มีภาระหน้าที่ที่ค่อนข้างแน่นตลอดเวลา นอกจากนี้ ซิตี้ ไพรออริตี้ ยังช่วยให้การลงทุนสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ กับตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะกับสถานการณ์ตลาดอย่าง กองทุนรวมจาก 6 บลจ. ชั้นนำ”
ก้อ-ณฐพล มองว่า การลงทุนไม่มีสูตรสำเร็จ ทุกวันนี้เขาก็ยังคงอยู่ในวงการการลงทุน โดยจะนำเงินมากระจายการลงทุนในส่วนต่างๆ ทั้งการลงทุนในกองทุนรวมหลากหลายสินทรัพย์ รวมถึงเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ แอลทีแอฟ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือ อาร์เอ็มเอฟ ซึ่งสามารถนำสิทธิไปลดหย่อนทางภาษีได้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดีกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารด้วย
“สิ่งที่ได้รับจากเส้นทางนักลงทุน ไม่เพียงความงอกเงยทางการเงินและความมั่นคงที่เป็นหลักประกันชีวิตในระยะยาวแล้ว แต่ยังทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผมมีสีสันมากขึ้น ท้าทายความสามารถและเปิดโลกกว้าง ทำให้เป็นคนรอบรู้และมีวินัย รวมถึงยังช่วยสร้างอิสรภาพทางการเงินอย่างลงตัว ให้ทุกคนสามารถมีความสุขกับการทำงาน สนุกกับการลงทุนไปพร้อมกับการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในแบบที่ต้องการ”
อีกทั้ง ปัจจุบันเทรนด์การลงทุนที่เติบโตค่อนข้างเร็ว จากอดีตที่นักลงทุนมักเป็นกลุ่มที่มีเงินจำนวนมาก หรือทำงานมาเป็นระยะเวลานาน แต่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่สนใจในกลุ่มวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และวัยเริ่มต้นทำงานเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้การเข้าถึงเรื่องการลงทุนนั้นสะดวกกว่าเดิม รวมถึงแนวคิดคนสมัยใหม่ที่อยากประกอบธุรกิจเป็นของตนเอง ทำให้เริ่มต้นลงทุนไวขึ้นกว่าอดีต
“ตัวผู้ลงทุนเองควรวางแผนการลงทุนอย่างเหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น อาทิ เลือกรูปแบบการลงทุนในระยะยาว ลงทุนในกองทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงและกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม และสำหรับผู้ที่ทำงานประจำและมีเวลาน้อย อาจตัดสินใจเลือกใช้บริการบริหารการลงทุนที่น่าเชื่อถือ ที่สามารถเป็นที่ปรึกษาแนะนำกลยุทธ์การลงทุน รวมถึงหมั่นแบ่งเวลาบางส่วน มาอัพเดตสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนในแต่ละสัปดาห์”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี