บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” เปิดวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจกว่าหกทศวรรษที่มุ่งมั่นให้เป็นธุรกิจที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับคนจำนวนมาก และเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้กลยุทธ์ต้นแบบ “การสร้างคุณค่า สมประโยชน์ร่วมกันสู่ความยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญใน 3 มิติ คือ ผู้คน ชุมชนสังคม และสิ่งแวดล้อม และพร้อมเดินหน้าโครงการ Citizen of Love by Siam Piwat ด้วยปณิธานที่จะสืบสานและแบ่งปันความรัก มอบโอกาสในการสร้างความภาคภูมิใจและความเท่าเทียมให้กับคนทั้งมวลอย่างทั่วถึงโดยจัดให้มีการแถลงข่าวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ไอคอนลักซ์ ฮอลล์ ชั้น 1 ไอคอนสยาม
ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า กว่า 60 ปี ที่บริษัทยึดมั่นทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจต่างๆ ของการค้าปลีกในการสนับสนุนคนไทยที่มีความสามารถทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายย่อยจากต่างจังหวัด ดีไซเนอร์นักออกแบบไทยที่มีความสามารถ เยาวชนผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ เด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสใช้ธุรกิจและสถานที่ของสยามพิวรรธน์เป็นเวทีของการนำเสนอสินค้าและบริการในหลากหลายประเภทด้วยความภาคภูมิใจ โดยสยามพิวรรธน์ได้สร้างความยั่งยืนใน 3 มิติคือ
มิติผู้คน ให้ความสำคัญกับการให้โอกาสความเท่าเทียมและการสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จกับบุคคล 3 กลุ่ม คือ บุคคล, คนที่มีความสามารถในหลากหลายประเภท และกลุ่มผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพเด็กพิเศษ และผู้ด้อยโอกาส โดยใช้ศักยภาพพื้นที่ในทุกโครงการสร้างให้เกิดประโยชน์กับพวกเขาเหล่านั้น อาทิ การจัดประกวด young designer สยามเซ็นเตอร์ จนให้เขาเหล่านั้นได้แจ้งเกิดในฐานะนักออกแบบแฟชั่นชั้นแนวหน้าของเมืองไทย, สุขสยาม เวทีที่สร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยระดับท้องถิ่นจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย, O.D.S. (Objects of Desire Store) สยามดิสคัฟเวอรี่ ศูนย์รวมสินค้าไลฟ์สไตล์และของตกแต่งบ้านสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยคัดเลือกสินค้าจากโครงการ DEMark, Talent Thai และอื่นๆ เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์และงานออกแบบที่โดดเด่นของดีไซเนอร์ไทยที่ชนะรางวัลมาแล้วรวมกว่า 130 แบรนด์,ไอคอนคราฟต์ ไอคอนสยาม ที่รวบรวมงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์แบบร่วมสมัยเปิดโอกาสให้ช่างฝีมือไทย ดีไซเนอร์ และผู้ประกอบการ SME เข้ามาค้าขายในไอคอนคราฟต์ถึง 500 ราย
มิติชุมชนสังคม สยามพิวรรธน์มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างคุณค่าให้กับพื้นที่โดยรอบโครงการที่เข้าไปดำเนินธุรกิจด้วยการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน ตลอดจนสร้างพื้นที่ด้วยแนวคิดอารยสถาปัตย์ในอาคารอย่างครบวงจรเป็นรายแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้ทุพพลภาพรวมถึงผู้สูงอายุให้เข้าถึงอย่างเท่าเทียมไม่ว่าจะเป็นการทำทางเข้า-ออกอาคารที่เชื่อมโยงกับทางเดินและทางลาดรอบอาคารและเชื่อมต่อกับอาคารจอดรถ การติดตั้งนวัตกรรมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคารในพื้นที่วันสยาม (OneSiam) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุหรือผู้ใช้รถเข็นทุกประเภทปรับปรุงทางเชื่อมแยกปทุมวัน ให้เป็น skywalk ด้วยแนวคิดการออกแบบอารยสถาปัตย์ ฯลฯ
ในส่วนโครงการไอคอนสยามมีนโยบายที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาโดยรอบ สนับสนุนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ช่วยส่งเสริมต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงามที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำเจ้าพระยามาช้านาน ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อไม่ทำให้การพัฒนาโครงการส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนในชุมชนโดยรอบเช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง,พัฒนาแผนแม่บททางสัญจรทั้งทางรถ-ราง-เรือ ให้เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด, จัดพื้นที่พิเศษที่เรียกว่า ธนบุรีดีไลท์เพื่อให้ชุมชนที่อยู่โดยรอบนำของดีของเด่นของชุมชนย่านฝั่งธนบุรีมาจำหน่าย, ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนาและองค์กรพันธมิตร ในโครงการ“รักษ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ร่วมกันพัฒนาและจัดการน้ำอย่างยั่งยืน”, ริเริ่มศูนย์ชุมชนฯ ในพื้นที่กะดีจีน-คลองสานให้เป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์สืบสานประเพณีและวัฒนธรรม
มิติสิ่งแวดล้อม โดยสยามดิสคัฟเวอรี่เป็นต้นแบบให้แนวคิดสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม สร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนผ่านกิจกรรม 100 ดีไซน์, การนำวัสดุ recycle มาทำเป็นต้นคริสต์มาส, ใช้ถุงกระดาษใส่สินค้า,สนับสนุนผลิตภัณฑ์รักษ์โลกหลากหลายหมวดหมู่ ณ Ecotopia, การจัดตั้ง Green Fund โดยร่วมกับ Green Organization จัดสรรเงินงบประมาณสนับสนุนในการดำเนินงานที่ก่อให้เกิดการดูแล รักษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน, ทำหนังสือ “เขียวสยาม” เพื่อเผยแพร่ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมไปยังกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังนำหลัก 3Rs ได้แก่ Reduce Reuse Recycle มาใช้จัดการสิ่งแวดล้อมของอาคารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลามากกว่า 10 ปี
ทั้งนี้พร้อมเดินหน้าโครงการ Citizen of Love by Siam Piwat เพื่อสืบสานและแบ่งปันความรัก มอบโอกาสในการสร้างความภาคภูมิใจและความเท่าเทียมให้กับคนทั้งมวลอย่างทั่วถึง ผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าและพันธมิตรร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ให้กับเด็กผู้ด้อยโอกาสด้วยการจัดทำกระเป๋าเป้ พร้อมอุปกรณ์การเรียน ใส่ความสุขและความรู้ส่งมอบให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนจำนวน 26,500 คนจาก 218 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อเป็นกำลังใจและก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาอย่างมีความสุขเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 โดยประชาชนสามารถร่วมบริจาคกับโครงการได้ ณ จุดรับบริจาค ชั้น M สยามเซ็นเตอร์ (ทางเชื่อมลานพาร์ค พารากอน) ชั้น 3 สยามพารากอน (หน้าร้าน The Cloud : Sansiri x The Coffee Club) ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ (สะพานทางเชื่อม) ชั้น M ไอคอนสยาม (หน้าร้านL’Occitane) ตั้งแต่วันนี้จนถึง
5 มกราคม 2563 อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี