พวกเราในฐานะเด็กและเยาวชนของแผ่นดินไทยเราทุกคนเชื่อมั่นและศรัทธาในภูมิปัญญาของบรรพชนที่ท่านได้สั่งสมไว้บนแผ่นดินไทยของเรา พวกเราจึงมีหน้าที่สานต่อและสืบสานให้ภูมิปัญญาอันเป็นมรดกล้ำค่าของชาติไทยของเราให้ดำรงคงอยู่ต่อไป และที่สำคัญนั้นพวกเราอยากให้คนไทยทุกคนเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และช่วยกันบำรุงรักษางานศิลป์ของชาติไทยเอาไว้ให้ยั่งยืน
แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณไปสนทนากับเหล่านักแสดง และผู้อยู่เบื้องหลังของโขนรามเกียรติ์ ตอนสืบมรรคา ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดยนักแสดงและผู้อยู่เบื้องหลังการแสดงโขนครั้งนี้บอกตรงกันเป็นเสียงเดียวกันว่า รักและหวงแหนการแสดงนาฏศิลป์ชั้นสูงนี้ แล้วทุกคนก็ภาคภูมิใจมากจนสุดบรรยายที่ได้ถวายงานในครั้งนี้
ตัวละครหลักตัวแรกที่ผมจะพาคุณไปคุยด้วยคือ นายทรงเกียรติ แซ่ตั้ง รับบท หนุมานทหารเอกของพระราม (เขาคือหนึ่งในเก้าของหนุมานทั้งหมดที่แสดงโขนตอนสืบมรรคา)
ผมเล่นโขนมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ชอบมาก เล่นมาตั้งแต่เริ่มเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ จนปัจจุบันผมกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ส่วนในการแสดงครั้งนี้ผมรับบทหนุมาน แต่เป็นหนุมานที่เน้นการสู้รบมากเป็นพิเศษ หนุมานมีหลากบุคลิก มีทั้งซุกซนขี้เล่น เจ้าชู้ และบทบู๊ แต่ละตัวที่รับบทหนุมานต้องทำบุคลิกให้ออกมาตามบทที่ได้รับ ผมชอบบู๊ครับ คุณครูจึงให้ผมรับบทนี้ บทบู๊ต้องใช้พละกำลังมาก เพราะต้องรบกับยักษ์หลายตน แล้วถ้ายิ่งต้องรบกับทศกัณฐ์ด้วยแล้ว ยิ่งต้องบู๊หนักมาก ในตอนนี้หนุมานมีบทเยอะมาก ต้องสู้กับสารพัดยักษ์ ทั้งยักษ์เล็ก ยักษ์ใหญ่ มีทั้งบทเหาะเหินเดินอากาศด้วยตอนสืบมรรคานี้ใช้หนุมานที่ต้องเหาะเหิน3 ตัว ส่วนที่เหลือเล่นบทบนพื้นธรรมดา แต่ต่างกันไปตามบทที่ได้รับ การจะแสดงบทหนุมานให้ดีให้สมจริงนั้นต้องซ้อมมากที่สุด ผมได้รับการฝึกซ้อมจากคุณครูประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว ศิลปินแห่งชาติ ท่านคัดเลือกผมให้รับบทหนุมานบู๊ บทนี้ต้องขยันซ้อมมาก ต้องอดทนมากด้วย เพราะโลดโผนโจนทะยานตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าหนุมานมีหลายบุคลิกครับ หนุมานที่แสดงบทรักบทเกี้ยวพาราสีนั้นผมไม่ค่อยถนัดครับ เพราะต้องแสดงบทที่ดูแล้วต้องทำให้คนชมเชื่อว่าเราเจ้าชู้มากๆ ต้องกุ๊กกิ๊กๆ ตลอดเวลาซึ่งน่ารักดี แต่ผมไม่ถนัดครับ ผมชอบฉากรบเพราะสนุกและน่าจะเข้ากับบุคลิกของผมครับ แต่ที่มากกว่านั้นคือ เมื่อบทได้รับบทหนุมาน ผมแสนภาคภูมิใจมาก เพราะหนุมานเป็นตัวเอกของเรื่อง แล้วที่สำคัญคือเป็นทหารเอกของพระราม แต่ที่มากที่สุดคือ ผมภาคภูมิใจมากที่ได้ร่วมสืบสานมรดกของความเป็นไทย
นายธนนท์ พลอำไพ ผู้แต่งกายให้หนุมาน
เครื่องแต่งกายของหนุมานต้องผ่านการดูแลและเย็บตรึงอย่างดี เพราะหนุมานโลดโผนตลอดเวลายิ่งบทบู๊ยิ่งต้องเย็บตรึงให้แน่นหนาให้มากที่สุด เพราะหากกำลังแสดงแล้วเครื่องแต่งกายเกิดหลุดหรือฉีกขาดก็จะทำให้ไม่สามารถแสดงต่อไปได้ แล้วที่สำคัญคือหนุมานมีเครื่องประดับมาก ก็ยิ่งต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าต้องเย็บตรึงเครื่องแต่งองค์ทรงเครื่องของหนุมานให้แน่นหนามากที่สุด ยิ่งบทตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังยิ่งต้องช่วยดูแลเครื่องทรงมากเป็นพิเศษ เพราะหนุมานไม่ใช่ลิงชั้นธรรมดา แต่เป็นบุตรพระพายที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นทหารเอกของพระราม โดยปกติใช้เวลาแต่งตัวให้หนุมานอย่างน้อยเกือบสองชั่วโมงครับ
ทศกัณฐ์ รับบทโดย นายวุฒิชัย นราแก้ว (หนึ่งในทศกัณฐ์ทั้งหมด 3 ตัวในตอนสืบมรรคา)
ทศกัณฐ์ในตอนสืบมรรคา มีทั้งหมด 3 ตัว ตัวแสดงที่รับบททศกัณฐ์หน้าทองที่มีบทร่ายรำที่งดงามมาก คือบทฉุยฉาย คือตอนที่ทศกัณฐ์แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วจะเข้าไปหานางสีดาในสวนขวัญ บททศกัณฐ์หน้าทองนี้ถือว่าเป็นบทที่ต้องคัดเลือกตัวแสดงที่มีความพร้อมให้ด้านการร่ายรำ เพราะเป็นการรำที่ยากมาก คือต้องรำได้สวย และต้องมีความสง่างาม เนื่องจากเป็นยักษ์ชั้นกษัตริย์ ผู้ที่จะรับบททศกัณฐ์ได้ดีและสมบทบาทนั้น ครูที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนจะเลือกจากคนที่มีสรีระสูงใหญ่ ช่วงคอต้องยาวระหง ไหล่กว้าง ครูโบราณจะเลือกคนที่มีลักษณะนี้เป็นอันดับแรก คือต้องเป็นคนที่เมื่อแต่งองค์เป็นทศกัณฐ์แล้วต้องงามสง่าน่าเกรงขาม และที่สำคัญคือทศกัณฐ์นั้นต้องสวมหัวโขนในการแสดง เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถแสดงออกด้วยสีหน้าได้ แต่ต้องแสดงออกด้วยบทของภาษากาย คือการร่ายรำ การเคลื่อนไหวร่างกาย ต้องทำให้ผู้ชมคล้อยตามได้ว่า กำลังรัก โกรธ หรือกำลังเสียใจ แม้แต่กำลังอายหรือเขิน เพราะหน้าของทศกัณฐ์คือหน้าโขนที่ดูแล้วน่าเกรงขาม หรืออาจดูแล้วดุดัน แต่จะทำอย่างไรให้คนเชื่อว่าทศกัณฐ์กำลังมีอารมณ์รัก หรือกำลังขวยเขิน เรื่องแบบนี้อยู่ที่การแสดงออกด้วยการร่ายรำหรือการแสดงออกด้วยการใช้ภาษากาย ผู้รับบททศกัณฐ์ต้องตีบทให้แตก ต้องแสดงออกให้คนชมเห็นแล้วเชื่อว่ากำลังอยู่ในห้วงอารมณ์แบบนั้นจริงๆ เช่น บทที่แต่งองค์งดงามแล้วจะเข้าไปหานางสีดา บทนี้ต้องแสดงออกให้คนชมเชื่อว่า ทศกัณฐ์มั่นใจว่าตนเองมีความงามจริงๆ ต้องควบคุมอารมณ์การแสดงให้ชัดเจน ต้องรู้ว่าแสดงออกด้วยภาษากายแค่ไหนจึงจะไม่ผิดไปจากบทที่รับ แล้วแสดงแค่ไหนจึงจะทำให้คนดูคล้อยตามว่าทศกัณฐ์กำลังอยู่ในอารมณ์เช่นนั้นจริงๆนี่คือความยากของตัวละครที่ไม่ได้เปิดหน้า ส่วนเรื่องที่ถามว่าคนรุ่นใหม่รู้สึกอย่างไรกับโขน ผมเห็นว่าคนรุ่นใหม่ก็หันมาสนใจศิลปะชั้นสูงแขนงนี้มากขึ้น หลายคนเข้ามาเรียนรู้โดยตรง หลายคนเข้ามาชม หลายคนบอกว่าอยากรำและอยากเล่นโขน ผมว่านี้คือเรื่องที่ดีครับ ส่วนหากเด็กคนไหนที่คิดว่าโขนเป็นเรื่องไม่สนุก เป็นเรื่องยากผมแนะนำว่าให้เปิดใจแล้วเข้ามาสัมผัสโดยตรงก่อน เพราะโขนนั้นไม่ยากจนเกินความสามารถของเรา และที่สำคัญคือเมื่อเราเข้ามาสัมผัสแล้ว เราจะได้ประโยชน์มากมาย เช่น เสริมทักษะในการใช้ชีวิต ช่วยให้เราอดทน มีระเบียบ ทำงานเป็นทีมได้ แล้วที่สำคัญคือช่วยให้เกิดจินตนาการ และสิ่งที่จะตามมาคือจะรักและภาคภูมิในความเป็นไทย และรู้สึกหวงแหนศิลปะแขนงนี้ของชาติไทยของเรา เด็กบางคนมีความตั้งใจอยากเรียนโขนเพราะอยากเป็นทศกัณฐ์ อยากเป็นพระราม พระลักษมณ์หรืออย่างรับบทอื่นๆ อีกมากมาย เพราะแต่ละตัวละครก็มีบทบาทและความงามต่างกันไป หากคุณมีบุตรหลาน ผมอยากให้ลองพาเขาไปสัมผัสกับโขนดูก่อน แล้วดูสิว่าเขาชอบหรือไม่ แต่ต้องค่อยๆ ให้ความรู้เรื่องโขนกับเขาควบคู่ได้ด้วยพร้อมๆ กัน
พระราม รับบทโดย นายสกุลเดช อังกรโพธิ์กลาง
ลักษณะสำคัญที่สุดของพระรามเมื่อรับบทคือต้องมีความงาม มีความสง่า ต้องเป็นผู้ที่เมื่อใครเห็นแล้วต้องยอมรับว่าเป็นคนมีเมตตา มีความกรุณา มีความงามทั้งภายนอกและภายใน ต้องเดินเหินหรือนั่งหรือเวลาจะย่างเยื้องทุกครั้งต้องมีระเบียบ แล้วต้องทำให้ผู้ชมเห็นว่าผู้แสดงคือเทพชั้นสูงองค์หนึ่ง ผู้รับบทพระรามต้องโอ่อ่ายิ่งใหญ่ แต่ดูและรับรู้ได้ถึงความสุภาพเรียบร้อย แต่น่าเกรงขาม ต้องมีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่โดยนัย ไม่ใช่ยิ้มเห็นฟันขาว ต้องไม่แสดงออกโดยไม่สำรวม แล้วที่มากกว่านั้นคือ ต้องดูแลองอาจ กล้าหาญ สง่างาม ต้องสูงโปร่ง แม้เวลาแสดงบทรบกับทศกัณฐ์ก็ต้องรบด้วยอาการสำรวม ไม่ใช่รบแบบอันธพาล ต้องรักษากิริยามารยาทตลอดเวลา แม้กระทั่งบทเศร้าโศกเสียใจก็ต้องไม่ฟูมฟายจนกลายเป็นตัวตลก ผู้รับบทพระรามต้องระลึกเสมอว่าตัวละครตัวนี้คือพระนารายณ์ที่ทรงอวตารลงมาเพื่อดับทุกข์เข็ญให้โลกมนุษย์
มนัญชัย พุทธประเสริฐ ผู้แต่งกายให้พระราม
เครื่องทรงของพระราม พระลักษมณ์ และทศกัณฐ์ คือเครื่องทรงของกษัตริย์ ซึ่งต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ สีต้องตรงกับเครื่องแต่งองค์ของกษัตริย์ที่ระบุไว้ตั้งแต่โบราณกาล เครื่องแต่งองค์ของตัวละครสำคัญที่สามจึงละม้ายกันค่อนข้างมาก แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือทศกัณฐ์กับพระรามคือหางหงส์ หรือหางของโจงกระเบน พระราม พระลักษมณ์จะมีหางหงส์ปล่อยลงมา ส่วนทศกัณฐ์จะเก็บหางหงส์ขึ้นไป ซึ่งเรียกว่าก้นแป้นซึ่งหนุมานก็ก้นแป้นเช่นกัน แต่มีหางเพิ่มขึ้นมา แล้วมีผ้าปิดอีกชิ้นหนึ่ง แล้วต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอีกอย่างคือพระราม พระลักษมณ์ สวมชฎา เปิดหน้า ส่วนทศกัณฐ์สวมหน้ายักษ์โดยมียอดชฎา ซึ่งเป็นเครื่องสูงของกษัตริย์ สำหรับผ้านุ่งของพระราม พระลักษมณ์ ทศกัณฐ์ ในการแสดงชุดสืบมรรคา หรือพูดง่ายๆ คือ โขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จะใช้ผ้าทอพิเศษจากบ้านเนินธัมมัง ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช เป็นผ้าทอชั้นสูง เป็นเสมือนผ้าของราชสำนัก ทอแล้วสอดดิ้นเงินดิ้นทองผสมกับไหมแท้ เป็นผ้าที่ประณีตงดงามมาก และมีราคาแพงมาก เพราะทอยาก ต้องใช้ความอุตสาหะมากในการผลิตขึ้นมาแต่ละชิ้น ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทำให้การทอผ้าชนิดนี้ยังดำรงอยู่ และทรงให้ใช้ผ้าชนิดนี้สำหรับแต่งองค์ตัวละครตัวเอกทุกตัว ซึ่งงดงามมาก
พระลักษมณ์ ศรีอนุชาของพระราม รับบทโดย นายภควัต ไชยศรีหา
บทของพระลักษมณ์ในตอนสืบมรรคาไม่มีอะไรเด่นมากนัก เพียงแค่ประทับอยู่ข้างๆ พระราม ไม่มีบทเจรจาหรือบทแสดงใดๆ มาก ดังนั้นบทของพระลักษมณ์
รวมถึงพระรามด้วยในตอนสืบมรรคาจึงไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก เพียงแค่ฉากสำคัญคือตอนที่สั่งให้หนุมานนำเหล่าพลพรรคไปสืบหาว่านางสีดาอยู่ ณ ที่ใดในกรุงลงกา ตอนสืบมรรคา เป็นการเริ่มปฐมบทของโขนรามเกียรติ์ เป็นช่วงที่เหล่าฝูงพลพรรควานรโดยการนำของหนุมานมาสวามิภักดิ์ต่อพระราม แล้วหลังจากนั้น
ก็เป็นฉากการผจญภัยของหนุมาน เช่น หนุมานรบกับยักษีผีเสื้อสมุทร และรบกับสหัสกุมาร รบกับยักษ์ปักหลั่น และรบกับนางยักษ์อังกาศตไล เป็นต้น
นางอังกาศตไล ยักษีผู้มีร่างกายกำยำไม่ผิดยักษา รับบทโดย นายนภดล วงศ์สิปปกร
นางอังกาศตไลเสื้อเมืองกรุงลงกาเป็นยักษ์ผู้หญิงแต่มีกายากำยำล่ำสันมาก มีอาวุธเป็นหอกยาวและกงจักร จึงต้องใช้ผู้ชายรับบทตัวละครนี้ แต่เนื่องจากเป็นนางยักษีจึงมีความจริตของสตรีอยู่ด้วย ดังนั้นตัวแสดงที่เป็นชายจึงต้องใส่จริตของผู้หญิงลงไปในระหว่างการแสดง คือมีทั้งอาการเขินอายเมื่อถูกหนุมานลวนลาม แต่ก็ต้องสู้รบกับหนุมานอย่างแข็งขันเพราะมีหน้าที่ปกป้องกรุงลงกา ตัวนางอังกาศตไลสวมโจงกระเบนแล้วมีผ้าห่มนางที่งดงามมาก น้ำหนักของผ้าห่มนางนี้ตกประมาณ 8 กิโลกรัม มีลวดลายการปักทอเป็นลายหน้าสิงห์ เป็นลายเฉพาะของอังกาศตไล ปักลายหน้าสิงห์เต็มผืน เวลาแสดงก็ต้องมีการสู้รบกับหนุมาน ต้องมีท่าลอยตัวของหนุมาน คือ หนุมานต้องขึ้นเหยียบบนนางอังกาศตไล ดังนั้นตัวละครตัวนี้ต้องมีร่างกายใหญ่และแข็งแรง ไม่อย่างนั้นจะรับท่าลอยตัวไม่ได้
นายวสะ ภูวงศ์ ผู้แต่งกายนางอังกาศตไล
ผ้าห่มนางของอังกาศตไลนี้มีความพิเศษมากเพราะปักด้วยลายหน้าสิงห์เต็มผืน ลายนี้สำหรับนางยักษ์มีน้ำหนักเกือบ 8 กิโลกรัม ส่วนผ้านุ่งก็เป็นผ้าโจงกระเบนสาเหตุที่ต้องนุ่งโจงกระเบนเพราะนางอังกาศตไลต้องรบกับหนุมาน และต้องมีฉากหนุมานขึ้นลอย เพราะฉะนั้นอังกาศตไลต้องแต่งตัวทะมัดทะแมงมาก
นายญาณพงศ์ ราชกิจกำจร รับบท ยักษ์ปักหลั่น
ยักษ์ปักหลั่นคืออดีตเทวดาผู้รับใช้พระอิศวร แต่ทำความผิดเนื่องจากเป็นชู้กับนางฟ้าชื่อเกสรมาลา พระอิศวรจึงสาปให้เป็นยักษ์ไปเฝ้าสระโบกขรณี พระอิศวรบอกว่าหากจะพ้นคำสาปต้องให้ทหารของพระรามลูบหลัง ดังนั้นเมื่อยักษ์ปักหลั่นรบแพ้องคต แล้วองคตลูบหลังให้ จึงพ้นคำสาป ยักษ์ปักหลั่นใช้เวลาแต่งกายนานกว่าชั่วโมง การแต่งกายก็ละม้ายกับยักษ์ชั้นสูง ต้องมีรายละเอียดของเครื่องแต่งกายมาก
นายศุขศันติ เซ็งแซ่ รับบทเสนายักษ์ นายเอกชัย สุคนธะสังข์ รับบท สหัสกุมาร และนายวรฤทธิ์ วรคำ รับบทเสนายักษ์
เสนายักษ์คือยักษ์ที่เป็นลูกน้องของทศกัณฐ์ ส่วนสหัสกุมารคือโอรสทศกัณฐ์ ตัวละครกลุ่มนี้ต้องสู้รบกับหนุมาน ความแตกต่างระหว่างเสนายักษ์กับสหัสกุมารคือยอด หรือหัวโขนครับ สหัสกุมารเป็นยักษ์ชั้นสูงจึงมียอด แต่พวกเสนายักษ์จะสวมใส่หัวโขนหน้ายักษ์ ส่วนการแต่งกายก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก อาวุธของเสนายักษ์คือ กระบอง และหอกยาวหรือโตมร ส่วนสหัสกุมารมีอาวุธคือ กระบอก ศร หอก แล้วแต่ว่าเป็นสหัสกุมารตัวไหน เพราะมีหลายตัวมาก
นางสาวผิงดาว เกื้อสกุล รับบท นางกำนัลนางสาวบุญญาพร บุญกองสิริ รับบท รำเบิกโรงนางสาวชลธิชา ปานเมือง รับบท รำเบิกโรง
ตัวละครรำเบิกโรงจะสวมผ้านุ่งคือผ้ายกทออย่างงดงามมาก ส่วนนางกำนัลก็จะสวมผ้ายกเช่นกันแต่ลวดลายจะไม่งามเท่าผู้รำเบิกโรง ผ้ายกแต่ละผืนที่สวมนี้มีราคาแพงมาก เพราะทอโดยช่างฝีมือของศูนย์ศิลปาชีพฯ ดังนั้นในขณะที่ยังไม่ได้แสดงจริง จึงต้องใช้ผ้าแดงสวมทับผ้ายกไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าเกิดความเสียหายจากการถูกข่วนจนเป็นรอย การรำเบิกโรงคือการรำก่อนมีการแสดงโขน ต้องเลือกตัวผู้แสดงที่มีรูปร่างเท่าๆ กันทุกตัวเพื่อความงามในขณะการร่ายรำ และต้องรำอย่างพร้อมเพรียงกันให้มากที่สุด และต้องจำบทรำให้ดีเพื่อไม่ให้ผิดพลาด ส่วนนางกำนัลก็จะทำหน้าที่เป็นตัวประกอบในท้องพระโรง ซึ่งมีบทไม่มากนัก แต่ต้องแต่งกายงดงาม เพราะเป็นนางกำนัลของทศกัณฐ์นางกำนัลไม่ต้องสวมชฎา แต่มีเพียงกระบังหน้าเท่านั้น
นายลัทธ์กมล ไทยจิราพัทธ์ ช่างแต่งหน้าโขน
การแต่งหน้าตัวแสดงโขน โดยเฉพาะพระและนางนั้นต้องเน้นความงามตามแบบนางในวรรณคดี ต้องดูจากจิตรกรรมฝาผนัง ต้องเน้นการวางเส้นและสีบนใบหน้าให้ตัวละครออกมาแล้วงดงามมากที่สุด แต่เป็นความงดงามตามแบบนางในวรรณคดี สีที่ใช้คือแดงและดำส่วนสีขาวคือแป้ง เน้นมากที่เส้นสีดำ สีแดง สีดำคือเส้นคิ้วส่วนสีแดงจะใช้ล้อกับเส้นดำวาดขนานกันไปเพื่อให้หน้าของตัวแสดงโดดเด่นมากที่สุด สีเหล่านี้มาจากการดูภาพจิตรกรรมโบราณ เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นสีหลักของเอเชีย การแต่งหน้าละครให้งดงามต้องดูตามกะโหลก ดวงตา จมูก และรูปหน้าของละคร ต้องแต่งให้ตัวละครออกมาดูดี สมจริง และต้องเน้นความสมดุลของใบหน้าทั้งหน้า ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน และต้องใช้สมาธิสูงในการแต่งหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวละครต้องอยู่บนเวทีที่มีทั้งแสงไฟที่เจิดจ้า ยิ่งต้องทำให้หน้าของตัวละครสวยงามสมกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์และนางในวรรณคดี
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTubeผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี