นักท่องเที่ยวที่มาสาธารณรัฐเช็ก เมืองหนึ่งที่ต้องไปเยือนให้ได้นอกเหนือจากกรุงปราก เมืองโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแล้ว ไม่เช่นนั้น เหมือนไปไม่ถึงประเทศนี้ นั่นคือ Cesky Krumlov เมืองมรดกโลกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกการเดินทางจากปรากไปเมืองนี้โดยทางรถไฟมีทั้งแบบรถตรงและรถต่อโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง 50 นาที แต่เมื่อเดินทางจริงๆ แล้วส่วนใหญ่ไม่มีรถตรง รถไฟจะไปจอดที่ Cesky Budojuvic แล้วให้นักท่องเที่ยวนั่งรถบัสต่อโดยการรถไฟมีบริการให้
คำว่า Krumlov อันเป็นชื่อเมืองนั้นมาจากคำเยอรมัน Krumme Aue ที่แปลว่าทุ่งหญ้าคดเคี้ยวซึ่งหมายถึงทุ่งหญ้าบริเวณแม่น้ำ Vltava นั่นเอง แม้ว่าเมืองนี้จะถูกกล่าวขวัญถึงครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1253 แต่แท้ที่จริงแล้วบริเวณแม่น้ำ Vltava อันเป็นแม่น้ำหลักของเมืองนี้มีผู้มาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ 7 หมื่นปีก่อนคริสตกาลแล้วโดยมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของผู้คนเป็นจำนวนมากในยุคทองแดงหรือ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนชาว Celticก็ตั้งถิ่นฐานในยุคเหล็กราว 400 ปีก่อนคริสตกาล และชาวสโลวิคก็มาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ 600 ปีก่อนคริสตกาลเช่นกัน
ดินแดนแห่งนี้เป็นเส้นทางการค้ามาตั้งแต่สมัยต้นยุคกลาง และในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ก็ถูกครอบครองโดยตระกูล Slavikovci ภายใต้การอนุญาตของตระกูล Premyslovci ผู้ครองนครที่บางตำราเชื่อว่าอพยพมาจากกรุงโรม ในปี 1251 พระเจ้า Premysl Otakar ที่สอง ได้แผ่นดินออสเตรียจากการแต่งงานกับ Anna Maria of Bamberg พระองค์พยายามที่จะเข้าครอบครองดินแดนส่วนนี้จนเกิดข้อพิพาทกับตระกูล Vitkovec ผู้ครอบครองพื้นที่ในเวลานั้น ความขัดแย้งดำเนินมาอีกหลายสิบปีจวบจนกระทั่งตระกูล Rosenberg ซึ่งเป็นหลานของตระกูล Vitkovecได้ดำเนินการต่อรองกับกษัตริย์จนเสร็จสิ้นยังผลให้พื้นที่แห่งนี้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งและเติบโตจนเป็นเมืองในที่สุด เมืองนี้มีการปกครองโดยระบบสภามาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1420 และเจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัย Wilhelm von Rosenberg
อย่างไรก็ดีในปี 1601 Peter Wok von Rosenberg สมาชิกคนสุดท้ายของตระกูลจำเป็นต้องขายเมืองให้กับพระเจ้า Rudolf ที่สองแห่งราชวงศ์ Habsburg จากภาระหนี้สิน พระองค์ได้มอบหมายให้พระโอรสมาปกครอง ในปี 1611 กองทัพเมือง Passau ได้เข้าโจมตีเมืองและสู้รบกันอยู่นาน 30 ปี พระเจ้า Ferdinand ที่สองแห่งราชวงศ์ Habsburg ได้มอบเมืองให้กับตระกูล Eggenberg เป็นการตอบแทนในการสนับสนุนเงินทุนในการสู้รบ Schwarzenbergs ลูกหลานตระกูล Eggenberg ได้พัฒนาเมืองและปรับโฉมปราสาทใหม่จนอยู่ในระดับเดียวกันกับปราสาทเด่นๆ ในยุโรปกลาง กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมืองก็ได้รับการพัฒนาให้มาอยู่ในระดับเดียวกันกับเมืองอุตสาหกรรมโดยมีโรงงานทอผ้าและโรงงานเบียร์เฉกเช่นเดียวกันกับเมืองอื่นๆ ในยุโรป
เมืองนี้ถูกควบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเช็กโกสโลวาเกียหลังการประกาศอิสรภาพของประเทศในวันที่ 28 ตุลาคม 1918 แต่ชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ในเมืองกลับแข็งขืนและตั้งเมืองใหม่ในดินแดนนี้ ถึงกระนั้นก็ตาม ชาวเยอรมันก็ถูกกองทัพเช็กปราบปรามในที่สุด และถูกตั้งชื่อใหม่เป็น Cesky Krumlov ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารสหรัฐฯ เข้าขับไล่ชาวเยอรมันออกจากเมืองในปี 1945 ในยุคคอมมิวนิสต์ เมืองนี้เสื่อมโทรมลงมาก แต่หลังการปฏิวัติ Velvet ในปี 1989 Cesky Krumlov ได้รับการพัฒนาอีกครั้งจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1992 และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้งชาวยุโรปและชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวจีนและชาวญี่ปุ่นในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี