อีกไม่นานประชาชนชาวไทยทุกชนชั้น จะได้มีอาคารรักษาพยาบาลที่มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ การให้บริการ รวมถึงด้านการศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สวมหมวกนิรภัย นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” อาคารรักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติฯและศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์หลังใหม่ที่จะทำให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สามารถให้บริการทางการแพทย์แก่คนไทยทุกระดับชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ก้าวหน้าไปกว่าร้อยละ 75 และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้อาคารประมาณปลายปี 2557
ในการนี้ รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมาร่วมให้รายละเอียดแก่สื่อมวลชน ประกอบด้วย รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหาร, รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายยุทธศาสตร์และพัฒนาคุณภาพ, รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายการคลัง, ผศ.นพ.โสภาคย์ มนัสนยกรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ด้านกายภาพและอาคาร และ นพ.สุภกิจ ขมวิลัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ
รศ.นพ.โศภณ นภาธร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ กล่าวว่า อาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” เป็นโครงการพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา เป็นอาคารรักษาพยาบาลรวมและศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ อันจะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เป็นหมวดหมู่ของอาคารรักษาพยาบาลหอผู้ป่วย ที่แยกอยู่อย่างกระจัดกระจาย ทำให้เสียเวลาในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือการรักษาพยาบาลที่ไม่ทันเวลา อีกทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีสภาพเก่า ไม่ทันต่อเทคโนโลยีซึ่งรุดหน้าไปไกล ตลอดจนไม่รองรับต่ออุบัติการณ์ของโรคชนิดใหม่ๆ
“อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ได้รับพระราชทานนามอาคารจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสนอชื่อ อันมีความหมายว่า อนุสรณ์ที่เป็นมงคลของสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดย สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเทปูนปิดงานโครงสร้างอาคารเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 สำหรับความก้าวหน้าในการก่อสร้างอาคารรุดหน้าเร็วกว่าแผนงานที่กำหนด คิดเป็นร้อยละ 75 ขณะนี้กำลังเดินการทำงานผิวพื้น ผนังฝ้าเพดาน ระบบประกอบอาคาร”
รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ, นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์, รศ.นพ.โศภณ นภาธร,
รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์, ผศ.นพ.โสภาคย์ มนัสนยกรณ์
อาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” มีจำนวน 29 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่การรักษาพยาบาล พื้นที่การเรียนการสอน พื้นที่พักอาศัย นับตั้งแต่ชั้น G ศูนย์บริการฉุกเฉิน ศูนย์อุบัติเหตุ ที่พร้อมรับภาวะภัยพิบัติและอุบัติภัยหมู่, ชั้น 2 ศูนย์การวินิจฉัยด้วยภาพ (Imaging Center), ชั้น 3 ศูนย์ปฏิบัติการกลาง (Central Laboratory Center), ชั้น 4 ศูนย์หัวใจ ให้บริการด้านโรคหัวใจที่ครบวงจร, ชั้น 5-8 ศูนย์ผ่าตัด หอผู้ป่วยวิกฤติรวมด้านด้านผ่าตัด มีห้องผ่าตัดทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ รวม 60 ห้อง, ชั้น 9 ศูนย์บริการมารดาและทารกครบวงจร, ชั้น 10 หอ ผู้ป่วยวิกฤติอายุรกรรม (ICU-CCU), ชั้น 11 พื้นที่ด้านวิชาการสำหรับแพทย์ประจำบ้าน และนิสิตแพทย์, ชั้น 12 พื้นที่บริการวิชาการ ห้องบรรยายและสัมมนา, ชั้น 14 สวน พื้นที่บริการทั่วไป ส่วนบริการทางศาสนา และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู, ชั้น 15-28 หอผู้ป่วย, ชั้น 29 สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ และพื้นที่ดาดฟ้า เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ขนาด 15 ตัน ซึ่งสามารถขนย้าย ส่งต่อผู้ป่วยได้ครั้งละหลายสิบคน ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว
ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ใช้งบประมาณการก่อสร้าง ระบบต่างๆ การตกแต่งภายใน ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ระบบ IT กว่า 16,500,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นหกพันห้าร้อยล้านบาท) ถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากงบประมาณแผ่นดิน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงงบประมาณของโรงพยาบาล เอง ก็ยังไม่เพียงพอ ที่จะทำให้อาคารซึ่งเป็นอนุสรณ์ที่เป็นมงคลของสองพระองค์นี้ สำเร็จลุล่วงได้ตามประสงค์ โครงการนี้ยังต้องการเงินในการจัดซื้อครุภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การติดตั้งระบบไอทีต่างๆ อีกจำนวนมหาศาล
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และ นพ.สุภกิจ ขมวิลัย นำชมตัวอย่างห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ที่ทันสมัย
และพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อการรักษาและการศึกษาของนักศึกษาแพทย์
“ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชประสงค์ให้โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นโรงพยาบาลอันวิจิตร หมายถึงโรงพยาบาลที่มีความพร้อม กอปรไปด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ การรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด มีความทัดเทียมนานาประเทศ และเป็นที่พึ่งของประชาชนชาวไทยทุกชั้น วรรณะ หากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ สามารถเปิดให้บริการได้เมื่อใด ไม่เพียงแต่เป็นอนุสรณ์อันเป็นมงคลของสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เท่านั้น แต่ยังจะทำให้โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นโรงพยาบาลอันวิจิตรตามพระราชประสงค์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 อีกด้วยจึงอยากขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ผู้มีจิตศรัทธาได้มาร่วมสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ หลังนี้ ซึ่งคณะกรรมการ หวังว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้อาคารได้บางส่วนตั้งแต่ปลายปี 2557 เป็นต้นไป”
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” สามารถบริจาคเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชาออมทรัพย์ชื่อบัญชี โครงการก่อสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่ 045-5-22129-3, ธ.กรุงเทพ สาขาย่อยจามจุรี สแควร์ เลขที่ 939-0-01333-3, ธ.กสิกรไทย สาขาย่อยจามจุรี สแควร์ เลขที่ 630-2-01570-6 และ ธ.กรุงไทย สาขาปทุมวัน เลขที่ 008-0-12943-9 หรือบริจาคได้โดยตรงและสองถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักจัดหารายได้ สภากาชาดไทย โทร.02-2564440-3, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โทร.02-2564397, 02-2564382, 02-2564505, 02-2517804
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี