การเก็บชาโดยชาวเขา
ชาระมิงค์ ร่วมกับ Global India Foundation องค์กรสอนการชงชาชั้นนำจากประเทศอินเดีย เปิดโรงเรียนสอนชงชา The Asian School of Tea แห่งแรก เพื่อส่งเสริมให้คนไทยรู้จักเรื่องราวของชา ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ และเพิ่มมูลค่าให้กับวงการอุตสาหกรรมชาในประเทศไทย
นายจักริน วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ชาระมิงค์ จำกัด กล่าวว่า ชาระมิงค์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกจากการสำรวจและบุกเบิกไร่ชาของประเทศไทย ในปีพ.ศ.2484 โดยมีไร่ชาที่มีต้นกำเนิดมาจากป่าต้นน้ำยอดเขาดอยเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า ได้แก่ ชาฝรั่งหรือชาดำ,ชามะลิ, ชากลุ่มสมุนไพร และยังเป็นผู้ผลิตชาแบบออแกนิก ได้รับ Certificate ของ USDA Organic ซึ่ง certified by One Cert. จากประเทศอเมริกา
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คนไทยรับรู้วัฒนธรรมการดื่มชาน้อยมาก บวกกับรูปแบบหรือพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น มีความต้องการที่หลากหลาย จึงทำให้ชาระมิงค์ได้เปิดโรงเรียนสอนชงชา The Asian School of Tea ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนไทยรู้จักชามากขึ้น ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรกรรมได้อีกด้วย”
Mr.Nandy Souvik
ด้าน นางวงเดือน วังวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาระมิงค์ จำกัด ได้กล่าวถึงการเปิดโรงเรียน The Asian School of Tea ภายใต้ความร่วมมือกับ Global India Foundation องค์กร สอนการชงชาชั้นนำจากประเทศอินเดียว่า เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะหาประสบการณ์ความรู้เรื่องชาจากต่างประเทศแบบจริงจัง พบว่ามีสถาบันแห่งหนึ่งใน Kolkata ประเทศอินเดีย ชื่อว่า The Asian School of tea ก่อตั้งโดยนักธุรกิจอินเดีย ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่หลงรักชา และมี passion ที่อยากจะส่งผ่านวีถีชาเมืองดาร์จีลลิ่งและความรู้เรื่องชาไปสู่ผู้ที่สนใจชาทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังจากได้เรียนจบจากสถาบันฯ จึงได้ติดต่อขอเปิดโครงการที่ประเทศไทย จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างไทย-อินเดีย ซึ่งระบบการเรียนของสถาบันนี้ให้ความสำคัญทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งทางชาระมิงค์มีคุณสมบัติครบถ้วน เนื่องจากมีไร่ชาที่เป็นแหล่งกำเนิดชาแห่งหนึ่งของโลก ที่ผู้เรียนจะได้ศึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ การผลิต การเบลนด์ชา การชงชา และการชิมชา
จักริน วังวิวัฒน์
สำหรับการเรียนการสอนจะมี 3 หลักสูตรด้วยกัน คือ 1)Tea Sommelier เน้นกลุ่มที่เรียกว่า “คอชา” จะสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งผู้เรียนจะได้เข้าไปรู้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย วิธีการปลูก การผลิต การเก็บรักษา การ blending การชงชา และการชิมชา โดยจะใช้เวลาเรียน 4 วัน 3 คืน 2) Raming’s Art School of Tea เป็นหลักสูตรที่มีสีสันเน้นกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติที่นิยมการท่องเที่ยวธรรมชาติ และทำกิจกรรม DIY ประกอบด้วยการเยี่ยมชมบรรยากาศไร่ชา ทำกิจกรรมเก็บใบชา กระบวนการผลิต โรงงานชาระมิงค์ บนไร่ชา กิจกรรมการทำอาหารจากใบชา เรียนรู้ศิลปะการ paint ถ้วยชาศิลาดล เรียนรู้การชิมชา และการ blending ชา และสุดท้ายคือ3) Personalized สำหรับกลุ่มบุคคล ธุรกิจโรงแรมหรือร้านอาหารที่ต้องการให้จัดสอนพิเศษในหลักสูตรเฉพาะของตนเอง เพื่อฝึกอบรมพนักงาน หรืออยากได้องค์ความรู้เฉพาะเจาะจงเป็นเรื่องๆ ไป
วงเดือน วังวิวัฒน์
ด้าน Mr.Nandy Souvik ประธานบริหาร Global India Foundation ผู้เชี่ยวชาญด้านชา จากประเทศอินเดีย กล่าวว่า ชาเป็นเครื่องดื่มที่คนในเอเชียดื่มเป็นปกติมาช้านาน ปัจจุบันการรับรู้เกี่ยวกับชากูร์เม่ต์ได้เติบโตอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นการผสมชาสมุนไพรก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น งานของ Tea Sommelier จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งจะขยายไปถึงเรื่องการออกแบบ การเบลนด์ชากับส่วนผสมอื่น เช่น สมุนไพร ผลไม้เครื่องเทศ และชาผสม ซึ่งโปรแกรม Tea Sommelierได้ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนของเรามีความรู้แบบองค์รวมเกี่ยวกับชา เป็นหลักสูตรที่เรียนทั้งทฤษฎีและเรียนรู้จากไร่ชาเพื่อเน้นประสบการณ์จริง ครอบคลุมทุกแง่มุมของชาเริ่มจากการเพาะปลูกจนถึงการเบลนด์ และการชิม การเรียนรู้ ทั้งชาธรรมดา และชาสมุนไพร ตอนนี้คนไทยสามารถมาเรียนที่ไร่ชาระมิงค์ จ.เชียงใหม่ ได้แล้ว
ผู้ที่สนใจ The Asian School of Tea สามารถติดต่อผ่านได้ทาง website : www.ramingtea.com, line@: @ramingtea,Facebook: Ramingtea, หรือจะเป็นที่ www.asianschooloftea.org สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 086-4303165 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
การเบลนด์ชา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี