พล.ร.อ.นพ.ม.จ.ปุสาณ สวัสดิวัตน์ องค์ประธานมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ จิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ อัญเชิญดอกไม้พระราชทานมามอบแด่พลเรือเอก นายแพทย์ หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ประธานมูลนิธิชีวิตพัฒนา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในโอกาสทรงเจริญพระชันษา 90 ปี การนี้ ยังทรงได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์นำแจกันดอกไม้พระราชทานและยังมีผู้แทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาประทานมาถวายในวาระวันคล้ายวันประสูติครั้งนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแด่องค์เจ้าของวันเกิดพร้อมทั้งครอบครัวราชสกุล “สวัสดิวัตน์” อย่างหาที่สุดมิได้

งานฉลองพระชันษา 90 ปี ครั้งนี้เป็นการร่วมถวายมุทิตาจิต จัดโดยชมรมธรรมานามัย ในมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ ซึ่งมี สายพิณ พหลโยธิน รองประธานชมรมธรรมานามัย และกรรมการมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ เป็นประธานจัดงานขึ้น ณ ห้องชมวัง ราชนาวิกสภา กองทัพเรือ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2562 ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและผู้ร่วมงานมากมาย แขกผู้มีเกียรติถวายพระพรและสรงนํ้าองค์ประธานมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ อย่างปลื้มปีติที่องค์ประธานยังทรงมีสุขภาพดี สดชื่น แจ่มใส พระพักตร์มีรอยยิ้มตลอดเวลา นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงมากมายให้ชมอย่างเพลิดเพลิน อาทิ รำถวายพระพร, รำฉุยฉายพราหมณ์, รำซัดชาตรี, ธรรมานามัยคอรัส ขับร้องโดยสมาชิกธรรมานามัย, โชว์ลีลาศจากแชมป์ประเทศไทยและแชมป์ประเภทต่างๆ, การขับร้องเพลงหมู่ “เนวีบูล”และจากนักร้องกิตติมศักดิ์อีกมากมาย รวมทั้ง จิ๊บ-วสุ แสงสิงแก้ว ร่วมร้องเพลงให้รับฟังอย่างไพเราะอีกด้วย

พลเรือเอก นายแพทย์ หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์องค์ประธานมูลนิธิชีวิตพัฒนาฯ เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ ประสูติแต่ หม่อมเร่บุนนาค พระราชบิดาทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 6ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)และสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ทรงเป็นพระอนุชาต่างพระมารดากับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

พลเรือเอก นายแพทย์ หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ทรงเสกสมรสกับ หม่อมนวลศรี วีระบุตร มีธิดาและบุตร 2 ท่าน คือ ม.ร.ว.หญิงวไลวัฒนา สวัสดิ์-ชูโต สมรสกับ วิทวัส สวัสดิ์-ชูโตและ ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์ สมรสกับ ภัทรกร สวัสดิวัตน์

พลเรือเอก นายแพทย์ หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ ทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล และทรงสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อปี พ.ศ.2505 แล้วเริ่มเข้ารับราชการเป็นศัลยแพทย์โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ ทรงรับราชการก้าวหน้ามาเป็นลำดับสุดท้าย ทรงเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้ากองทัพเรือ แม้จะทรงเจริญพระชันษา 90 ปีแล้ว แต่ยังเสด็จทรงงานเป็นนายแพทย์พิเศษด้านรังสีวิทยา ตรวจรักษาผู้ป่วยโดยใช้วิทยาการด้านอัลตราซาวนด์อยู่ทุกวันที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทรงเป็นแพทย์ไทยที่ได้นำวิทยาการด้านรังสีวิทยามาใช้ในการตรวจวิเคราะห์ และวินิจฉัยอาการป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้วิทยาการด้านรังสีวิทยาประเมินอาการของโรคได้อย่างแม่นยำ ทรงเป็นแพทย์ไทยท่านแรกที่ได้นำเครื่องมืออัลตราซาวนด์มาใช้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้วิทยาการด้านนี้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วประเทศ เป็นที่ยอมรับและนิยมใช้โดยทั่วไป นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่ง

ทุกวันนี้ท่านยังได้ใช้เวลาเสด็จไปทรงงานในแผนกรังสีวิทยาเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์รุ่นใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ท่านเสด็จแทนพระองค์ฯไปประกอบพระราชกรณียกิจในพระราชพิธีสำคัญต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ แม้จะทรงเจริญพระชันษาสูงแล้วก็ตาม นับว่าทรงรักษาพระสุขภาพพลานามัยของพระองค์เองได้เป็นอย่างดียิ่ง ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งยิ่ง ปฐมจุลจอมเกล้าและเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 2 เป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติยศของท่านและราชสกุลสวัสดิวัตน์ โดยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดนี้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2562

ปัจจุบันทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อสาธารณประโยชน์อยู่หลายองค์กร ได้แก่ มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี มูลนิธิชีวิตพัฒนา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์และชมรมอัลตร้าซาวด์ทางการแพทย์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะมูลนิธิชีวิตพัฒนา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์นี้ทรงมีความสัมพันธ์สืบเนื่องมาโดยตลอด 14 ปี เพราะเป็นมูลนิธิเพื่อการพัฒนาผู้สูงอายุโดยเฉพาะ จึงทรงเป็นดั่งศูนย์รวมดวงใจและศรัทธาให้เหล่าสมาชิก ทรงสร้างสมาชิกให้มีความรักสามัคคีพัฒนามูลนิธิให้เจริญก้าวหน้าตามจุดมุ่งหมายของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ได้ทรงวางรากฐานเพื่อประโยชน์การพัฒนาผู้สูงอายุในปัจจุบัน