วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย โชว์ศักยภาพจัดแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลสุดยิ่งใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย รายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020 (All Asia Cup 2020)” ครั้งที่ 5 โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติ “ไทย” พบกับทีมชาติ “ฟิลิปปินส์” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในคอนเซ็ปต์ “Honoring to the Spirit of Asia”จิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย เพื่อผนึกกำลัง สรรค์สร้างศักยภาพ ก้าวสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ท่ามกลางดารา เซเลบริตี้ร่วมงานมากมาย ณ สนามวีเอส สปอร์ตคลับ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันกีฬาสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย ที่จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย จัดขึ้นตามเจตนารมณ์ของ วิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ผลักดันและสนับสนุนให้กีฬาขี่ม้าโปโลกลับมาสู่สังคมไทย โดยจัดตั้งเป็น “สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” ที่ได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และบรรจุกีฬาขี่ม้าโปโลเป็นรายการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ ค.ศ. 2007 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ “ออล เอเชีย คัพ 2020 (All Asia Cup 2020)” ที่วันนี้ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศว่า “การแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง และยังคงได้รับเกียรติจากนักกีฬาขี่ม้าโปโลทั้ง 6 ประเทศในเอเชียเข้าร่วมแข่งขันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้าร่วมแข่งขันของนักกีฬาขี่ม้าโปโลกิตติมศักดิ์ ได้แก่ เจ้าหญิงอาเซมะห์ นีมาตุล โบลเกียห์,เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์, เจ้าชายบาฮาร์ โบลเกียห์ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งนับเป็นเกียรติของสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย และแสดงให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลในระดับเอเชีย เปรียบเสมือนการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ของนักกีฬาขี่ม้าโปโล เพื่อยกระดับให้ทัดเทียมระดับสากล ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยสามารถครองสถิติแชมป์ 3 สมัย ในปี 2012, 2016 และ 2018”
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มจากการแสดงเปิดสนามในคอนเซ็ปต์ “Honoringto the Spirit of Asia” จิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของชาวเอเชีย เพื่อผนึกกำลังสรรค์สร้างศักยภาพ ก้าวสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน เริ่มด้วยการแสดงโชว์ศิลปะการ“บังคับม้า” แสดงถึงความสามารถและทักษะของ “ผู้ขี่”และ “ม้า” ที่ผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกีฬาขี่ม้าโปโล จากนั้นเป็นการแสดงโชว์ชุดพิเศษ TheHarmony of Spirits สุดยอดการแสดงที่นำ 3 “อัตลักษณ์ไทย” ก่อนขบวนพาเหรดถ้วย All Asia Cup 2020 ที่ปีนี้มีดาราสาว “ใบเฟิร์น” พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นผู้เชิญถ้วยรางวัล และ กนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เป็นผู้โยนลูกโปโลเปิดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันที่เข้มข้น ระหว่าง“ทีมชาติไทย” พบกับ “ทีมชาติฟิลิปปินส์” นำโดย ไมค์กี้ โรเมโร หลังจากที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันมาแล้วในการแข่งขันในปี 2018 การพบกันครั้งนี้ จึงเรียกว่าเป็นการ “รีแมทช์’กันอีกครั้ง และหลังจบการแข่งขันในชักก้า 2 ผู้มีเกียรติที่มาร่วมลุ้นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ต่างมาร่วมประเพณี “สตอมปิ้ง เดอะ ดิเวิทส์ (Stomping the Divots)” หรือการย่ำสนาม เพื่อกลบดินและเกลี่ยรอยเท้าม้าให้พื้นสนามเรียบเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั้งสองฝ่ายได้พบปะพูดคุยกับนักกีฬา รวมทั้งแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างกัน ก่อนดำเนินการแข่งขันในช่วงครึ่งหลังต่อไป ซึ่งจบการแข่งขันผลปรากฏว่าทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติฟิลิปปินส์ ด้วยผลคะแนน 71/2-4คว้าถ้วยแชมป์ All Asia Cup 2020 ในครั้งนี้ไปครองได้สำเร็จ จากนั้น เป็นพิธีมอบรางวัลให้กับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่แต่งกายอย่างสวย งามตามคอนเซ็ปต์“Honoring to the Spirit of Asia” เพื่อเข้าประกวดรวม 8 รางวัล ได้แก่ รางวัล Best Dressed Lady แต่งกายยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ ปัญจพร โชติจุฬางกูร, รางวัล Best Dressed Gentleman แต่งกายยอดเยี่ยมชาย ได้แก่ปรีดา พสวงศ์ รางวัล Most Stylish Lady แต่งกายหญิงที่มีสไตล์โดดเด่นมากที่สุด ได้แก่ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง,รางวัล Most Stylish Gentleman แต่งกายชายที่มีสไตล์โดดเด่นมากที่สุด ได้แก่ Tim Yap หนุ่มจากฟิลิปปินส์, รางวัล Best Photogenic Lady ขวัญใจสื่อมวลชผู้หญิงได้แก่ ลาลีวรรณ โกมลสุทธิ์, Best PhotogenicGentleman ขวัญใจสื่อมวลชนผู้ชาย ได้แก่ รักพงศ์จันทรมังกร รวมถึงการประกาศรางวัล Best PonyAward หรือรางวัลม้าที่มีฝีเท้าดี โดย คิง เพาเวอร์ ได้แก่ ม้า “Bloody Mary” และรางวัล MVP Award (Most Valuable Player) หรือรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันในครั้งนี้ ได้แก่ เอเดรียน การ์เซีย จากทีมชาติฟิลิปปินส์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี