โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันเกิดขึ้นมากมาย การหัดเป็นคนช่างสังเกตและให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพประจำปีมีส่วนช่วยได้ ข้อมูลจาก รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แนะนำให้เรารู้เท่าทันและเตรียมรับมือความผิดปกติที่เกิดจากโรคต่างๆ ได้ทันท่วงที
ตรวจหาโรคหัวใจ เพชฌฆาตเงียบ
“หัวใจ”อวัยวะสำคัญที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุดพัก เนื่องจากมีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย แต่ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อาหารไทยที่เคยเน้นผัก ปลา น้ำพริก ได้กลายมาเป็นอาหารสำเร็จรูป อาหารไขมันสูงประกอบกับการละเลยที่จะออกกำลังกายมีความเครียด ทำให้น้ำหนักตัวมากเกินไป มีความดันโลหิตสูง รวมถึงการมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ทั้งสิ้น
อาการเตือนที่ควรสังเกต มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรหนักๆ มากดทับ โดยจะรู้สึกแน่น อึดอัด หายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ใจสั่น เหนื่อยหอบอาจมีอาการเจ็บร้าวที่บริเวณแขน คอ ไหล่ และกราม เหงื่อออกท่วมตัว คลื่นไส้ หน้ามืด ใจสั่น เป็นต้น นอกจากความผิดปกติชนิดเฉียบพลันแล้ว อาการบ่งชี้ที่สังเกตได้จากร่างกายของเราเอง ก็คือขาหรือเท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกดดูแล้วมีรอยบุ๋มตามนิ้วที่กดลงไป หากเป็นเช่นนี้อย่านิ่งนอนใจ เพราะหัวใจคุณมีแค่ดวงเดียวเท่านั้น
การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคการไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถคาดคะเนความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ได้ เช่น ตรวจเลือดแล้วพบว่าเป็นเบาหวาน หรือมีไขมันในเลือดสูง หรือเอกซเรย์แล้วพบว่า ขนาดของหัวใจโตกว่าปกติ หรือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจ
ตรวจหาเบาหวาน โรคยอดฮิตที่คอยบั่นทอนสุขภาพ
เบาหวานเป็นปัญหาสุขภาพที่คนไทยเป็นกันมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่า ส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าตัวเอง
เป็นโรคนี้ และกว่าจะรู้ตัวระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงก็ส่งผลมากมายต่อสุขภาพแล้ว เนื่องจากเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังและไม่หายขาด ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ ในการใช้ชีวิต เช่น อาหารการกิน สิ่งแวดล้อม การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด ซึ่งคนที่อ้วนหรือลงพุง และผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน คนที่เคยเป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์ มีโอกาสเป็นเบาหวานได้
อาการเตือนที่ควรสังเกต เบาหวานโรคที่เกิดจากการเสื่อมของตับอ่อน ทำให้สร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่พอกับความต้องการของร่างกายหรือเกิดการดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ และส่งผลให้มีอาการต่างๆ เช่น กระหายน้ำ ปัสสาวะปริมาณมากและบ่อย เหนื่อย อ่อนเพลียน้ำหนักตัวลดลงโดยที่ยังรับประทานอาหารตามปกติ ตาแห้ง ตาพร่า เห็นภาพไม่ชัด ผิวหนังแห้งและมีอาการคัน มีอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้า เป็นแผลแล้วหายยาก เป็นต้น
การตรวจหาและรู้เท่าทันโรค มีเพียงวิธีเดียว คือการเจาะหาน้ำตาลในเลือด สำหรับคนปกติแนะนำให้คนที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ควรจะเจาะเลือดทุกปี แต่หากคุณมีปัจจัยเสี่ยง เช่น อ้วน รับประทานหวานมาก ดื่มสุรา หรือมีประวัติของโรคในครอบครัว ก็ควรตรวจเช็คเลือดอยู่บ่อยๆ ทั้งนี้คนปกติจะมีค่าน้ำตาลในเลือด หลังอดอาหารค่าจะอยู่ระหว่าง 80-100 มก./ดล.ถ้าอยู่ในระหว่าง 110-126 มก./ดล.แสดงว่าผิดปกติและมีโอกาสสูงที่จะเป็นเบาหวาน แต่ถ้าเมื่อใดที่มีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไป แสดงว่าเป็นโรคเบาหวานแล้วถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ควบคุมรักษาก็จะเกิดผลเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ได้
ตรวจหามะเร็ง โรคร้ายแชมป์คร่าชีวิต
มะเร็งโรคที่ใครๆ ก็ไม่อยากข้องเกี่ยว แต่ก็เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง แบ่งตัวผิดปกติเกิดเป็นก้อนมะเร็งขึ้น โดยก้อนนั้นอาจลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงหรือแพร่กระจายไปตามอวัยวะที่สำคัญต่างๆ ได้ สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและสาเหตุที่ส่งเสริมให้เกิดโรคคือ ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่มยารักษาโรค รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด เป็นต้น ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และภาวะทุพโภชนา เป็นต้น
อาการเตือนที่ควรสังเกต สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจแสดงว่าเป็นอาการของโรคมะเร็งมีดังนี้ 1.มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด ท้องเสียหรือท้องผูกผิดปกติ 2.มีแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย โดยเป็นนานมากกว่า 3 สัปดาห์ 3.มีเลือดออก หรือมีสารคัดหลั่งออกมาจากบริเวณช่องต่างๆ ของร่างกายผิดปกติ เช่น หัวนม จมูก ช่องคลอด ระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น 4.คลำพบก้อนที่เต้านม หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย 5.ท้องอืด อาหารไม่ย่อย มีอาการปวดท้อง กลืนอาหารลำบาก เป็นต้น 6. หูด ปาน ไฝหรือจุดเล็กๆตามร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น โตขึ้น มีสีผิดปกติหรือมีเลือดออก 7.มีอาการไอที่ผิดปกติ เช่น ไอปนเลือดไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ
การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคเป็นที่ทราบกันดีว่าโรคมะเร็งหากรู้ตั้งแต่ระยะต้นๆ และได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ก็มีโอกาสรักษาหายได้ดังนั้นคุณควรตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากพบเจอสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายอย่านิ่งนอนใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ตั้งแต่การสอบถามประวัติ การตรวจเลือด การตรวจเอกซเรย์ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษ เป็นต้น
ตรวจวัดความดันโลหิตฆาตกรอำมหิต
ความดันโลหิต เป็นแรงดันเลือดที่เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ซึ่งความดันจะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัวและลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว ทั้งนี้ระดับความดันโลหิตของคนเราไม่เท่ากันตลอดเวลาโดยจะขึ้นอยู่กับสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การทานอาหาร การนอนหลับ กิจกรรมที่ทำอยู่ รวมทั้งสภาพจิตใจ ตามปกติคนจะมีระดับความดันโลหิต 120/80-139/89 มิลลิเมตรปรอท หากมากกว่านี้แสดงว่าคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง และถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคไตวาย โรคหัวใจ อัมพาต ฯลฯ
อาการเตือนที่ควรสังเกต โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการจนกว่าจะเกิดผลกระทบเนื่องจากหลอดเลือดตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมอง หัวใจ ไต หรือตาลดลงอาการที่อาจจะพบได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว ใจสั่นวิงเวียน หากความดันโลหิตสูงมากๆอยู่ในระยะรุนแรง อาจมีอาการหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกแน่นหน้าอกจากภาวะหัวใจขาดเลือด หรือการทำงานของสมองผิดปกติจนไม่รู้สึกตัวได้ เป็นต้น
การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคการหมั่นสังเกตอาการตัวเองและวัดความดันโลหิตเป็นประจำ โดยผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปควรตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยทุก 2 ปี ส่วน
ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจวัดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และบ่อยขึ้นถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคต่างๆ
รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอจนสัญญาณร้ายมาเยือน ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยแพทย์แต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นดีกว่าการแก้ไข เพราะเมื่อถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไป
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี