วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
Life & Health : มาเรียนรู้เท่าทันโรคร้าย

Life & Health : มาเรียนรู้เท่าทันโรคร้าย

วันพุธ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันเกิดขึ้นมากมาย การหัดเป็นคนช่างสังเกตและให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพประจำปีมีส่วนช่วยได้ ข้อมูลจาก รศ.นพ.ชัยวัฒน์ บำรุงกิจผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แนะนำให้เรารู้เท่าทันและเตรียมรับมือความผิดปกติที่เกิดจากโรคต่างๆ ได้ทันท่วงที

ตรวจหาโรคหัวใจ เพชฌฆาตเงียบ


“หัวใจ”อวัยวะสำคัญที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุดพัก เนื่องจากมีหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย แต่ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อาหารไทยที่เคยเน้นผัก ปลา น้ำพริก ได้กลายมาเป็นอาหารสำเร็จรูป อาหารไขมันสูงประกอบกับการละเลยที่จะออกกำลังกายมีความเครียด ทำให้น้ำหนักตัวมากเกินไป มีความดันโลหิตสูง รวมถึงการมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ทั้งสิ้น

อาการเตือนที่ควรสังเกต มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรหนักๆ มากดทับ โดยจะรู้สึกแน่น อึดอัด หายใจไม่ออก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ใจสั่น เหนื่อยหอบอาจมีอาการเจ็บร้าวที่บริเวณแขน คอ ไหล่ และกราม เหงื่อออกท่วมตัว คลื่นไส้ หน้ามืด ใจสั่น เป็นต้น นอกจากความผิดปกติชนิดเฉียบพลันแล้ว อาการบ่งชี้ที่สังเกตได้จากร่างกายของเราเอง ก็คือขาหรือเท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกดดูแล้วมีรอยบุ๋มตามนิ้วที่กดลงไป หากเป็นเช่นนี้อย่านิ่งนอนใจ เพราะหัวใจคุณมีแค่ดวงเดียวเท่านั้น

การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคการไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถคาดคะเนความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ได้ เช่น ตรวจเลือดแล้วพบว่าเป็นเบาหวาน หรือมีไขมันในเลือดสูง หรือเอกซเรย์แล้วพบว่า ขนาดของหัวใจโตกว่าปกติ หรือตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อดูจังหวะการเต้นของหัวใจ

ตรวจหาเบาหวาน โรคยอดฮิตที่คอยบั่นทอนสุขภาพ

เบาหวานเป็นปัญหาสุขภาพที่คนไทยเป็นกันมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่า ส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่รู้เลยว่าตัวเอง
เป็นโรคนี้ และกว่าจะรู้ตัวระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงก็ส่งผลมากมายต่อสุขภาพแล้ว เนื่องจากเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังและไม่หายขาด ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ ในการใช้ชีวิต เช่น อาหารการกิน สิ่งแวดล้อม การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด ซึ่งคนที่อ้วนหรือลงพุง และผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน คนที่เคยเป็นเบาหวานตอนตั้งครรภ์ มีโอกาสเป็นเบาหวานได้

อาการเตือนที่ควรสังเกต เบาหวานโรคที่เกิดจากการเสื่อมของตับอ่อน ทำให้สร้างฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่พอกับความต้องการของร่างกายหรือเกิดการดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ และส่งผลให้มีอาการต่างๆ เช่น กระหายน้ำ ปัสสาวะปริมาณมากและบ่อย เหนื่อย อ่อนเพลียน้ำหนักตัวลดลงโดยที่ยังรับประทานอาหารตามปกติ ตาแห้ง ตาพร่า เห็นภาพไม่ชัด ผิวหนังแห้งและมีอาการคัน มีอาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้า เป็นแผลแล้วหายยาก เป็นต้น

การตรวจหาและรู้เท่าทันโรค มีเพียงวิธีเดียว คือการเจาะหาน้ำตาลในเลือด สำหรับคนปกติแนะนำให้คนที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ควรจะเจาะเลือดทุกปี แต่หากคุณมีปัจจัยเสี่ยง เช่น อ้วน รับประทานหวานมาก ดื่มสุรา หรือมีประวัติของโรคในครอบครัว ก็ควรตรวจเช็คเลือดอยู่บ่อยๆ ทั้งนี้คนปกติจะมีค่าน้ำตาลในเลือด หลังอดอาหารค่าจะอยู่ระหว่าง 80-100 มก./ดล.ถ้าอยู่ในระหว่าง 110-126 มก./ดล.แสดงว่าผิดปกติและมีโอกาสสูงที่จะเป็นเบาหวาน แต่ถ้าเมื่อใดที่มีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 126 มก./ดล. ขึ้นไป แสดงว่าเป็นโรคเบาหวานแล้วถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ควบคุมรักษาก็จะเกิดผลเสียหายต่ออวัยวะต่างๆ ได้

ตรวจหามะเร็ง โรคร้ายแชมป์คร่าชีวิต

มะเร็งโรคที่ใครๆ ก็ไม่อยากข้องเกี่ยว แต่ก็เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง แบ่งตัวผิดปกติเกิดเป็นก้อนมะเร็งขึ้น โดยก้อนนั้นอาจลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงหรือแพร่กระจายไปตามอวัยวะที่สำคัญต่างๆ ได้ สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและสาเหตุที่ส่งเสริมให้เกิดโรคคือ ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่มยารักษาโรค รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด เป็นต้น ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และภาวะทุพโภชนา เป็นต้น

อาการเตือนที่ควรสังเกต สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจแสดงว่าเป็นอาการของโรคมะเร็งมีดังนี้ 1.มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด ท้องเสียหรือท้องผูกผิดปกติ 2.มีแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย โดยเป็นนานมากกว่า 3 สัปดาห์ 3.มีเลือดออก หรือมีสารคัดหลั่งออกมาจากบริเวณช่องต่างๆ ของร่างกายผิดปกติ เช่น หัวนม จมูก ช่องคลอด ระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น 4.คลำพบก้อนที่เต้านม หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย 5.ท้องอืด อาหารไม่ย่อย มีอาการปวดท้อง กลืนอาหารลำบาก เป็นต้น 6. หูด ปาน ไฝหรือจุดเล็กๆตามร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น โตขึ้น มีสีผิดปกติหรือมีเลือดออก 7.มีอาการไอที่ผิดปกติ เช่น ไอปนเลือดไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ

การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคเป็นที่ทราบกันดีว่าโรคมะเร็งหากรู้ตั้งแต่ระยะต้นๆ และได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ก็มีโอกาสรักษาหายได้ดังนั้นคุณควรตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากพบเจอสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายอย่านิ่งนอนใจ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ตั้งแต่การสอบถามประวัติ การตรวจเลือด การตรวจเอกซเรย์ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจโดยใช้เครื่องมือพิเศษ เป็นต้น

ตรวจวัดความดันโลหิตฆาตกรอำมหิต

ความดันโลหิต เป็นแรงดันเลือดที่เกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ซึ่งความดันจะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัวและลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว ทั้งนี้ระดับความดันโลหิตของคนเราไม่เท่ากันตลอดเวลาโดยจะขึ้นอยู่กับสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การทานอาหาร การนอนหลับ กิจกรรมที่ทำอยู่ รวมทั้งสภาพจิตใจ ตามปกติคนจะมีระดับความดันโลหิต 120/80-139/89 มิลลิเมตรปรอท หากมากกว่านี้แสดงว่าคุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง และถ้าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคไตวาย โรคหัวใจ อัมพาต ฯลฯ

อาการเตือนที่ควรสังเกต โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการจนกว่าจะเกิดผลกระทบเนื่องจากหลอดเลือดตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมอง หัวใจ ไต หรือตาลดลงอาการที่อาจจะพบได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว ใจสั่นวิงเวียน หากความดันโลหิตสูงมากๆอยู่ในระยะรุนแรง อาจมีอาการหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกแน่นหน้าอกจากภาวะหัวใจขาดเลือด หรือการทำงานของสมองผิดปกติจนไม่รู้สึกตัวได้ เป็นต้น

การตรวจหาและรู้เท่าทันโรคการหมั่นสังเกตอาการตัวเองและวัดความดันโลหิตเป็นประจำ โดยผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปควรตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อยทุก 2 ปี ส่วน
ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจวัดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และบ่อยขึ้นถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคต่างๆ

รู้อย่างนี้แล้วอย่ารอจนสัญญาณร้ายมาเยือน ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยแพทย์แต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นดีกว่าการแก้ไข เพราะเมื่อถึงวันนั้นอาจจะสายเกินไป

 

ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์

ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • โรงพยาบาลนวเวช จับมือ สนามกอล์ฟนวธานี ดูแลสุขภาพนักกอล์ฟ  พร้อมบริการดูแลครบวงจร 24 ชม. โรงพยาบาลนวเวช จับมือ สนามกอล์ฟนวธานี ดูแลสุขภาพนักกอล์ฟ พร้อมบริการดูแลครบวงจร 24 ชม.
  • มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระกุศลแด่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระกุศลแด่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ
  • DIPROM - สุขสยาม จัดงาน ‘DIPROM X SOOKSIAM’ อวดโฉมยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาดจริง DIPROM - สุขสยาม จัดงาน ‘DIPROM X SOOKSIAM’ อวดโฉมยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาดจริง
  • คณะกรรมการลูกเสือผู้ทรงคุณวุฒิ มอบเครื่องสำรองไฟและแผงโซล่าร์เซลล์ ในโครงการ “ลูกเสือไทย ส่งไฟให้ชายแดน” คณะกรรมการลูกเสือผู้ทรงคุณวุฒิ มอบเครื่องสำรองไฟและแผงโซล่าร์เซลล์ ในโครงการ “ลูกเสือไทย ส่งไฟให้ชายแดน”
  • DMT เปิดตัวโครงการนำร่อง “ทำนาลดคาร์บอน” ยกระดับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต DMT เปิดตัวโครงการนำร่อง “ทำนาลดคาร์บอน” ยกระดับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต
  • เด็กไทยสร้างชื่อคว้ารางวัล \'Best Technical Award\' ในเวทีแข่งขันประดิษฐ์ดาวเทียมขนาดเล็ก ที่ประเทศญี่ปุ่น เด็กไทยสร้างชื่อคว้ารางวัล 'Best Technical Award' ในเวทีแข่งขันประดิษฐ์ดาวเทียมขนาดเล็ก ที่ประเทศญี่ปุ่น
  •  

Breaking News

เลยฝนตกหนัก น้ำป่าหลากท่วมหมู่บ้านจัดสรร

ลำปางฝนตกหนัก น้ำหลากท่วมบ้านเรือน ชาวบ้านโพสต์เฟสขอความช่วยเหลือ

'เขมรนิวส์'ยกย่องหญิงเขมรจุดชนวน กล้าโต้ทหารไทย ชาวบ้านฝั่งไทยไม่หวั่นพร้อมรับมือ100%

ลุ้นไทยจบตรงไหน!‘กอบศักดิ์’ยกตัวอย่าง‘อินโดฯ-เวียดนาม’ดีลลด‘ภาษีทรัมป์’สำเร็จ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved