ผมไม่ยืนยันหรอกนะครับว่า “คนที่ชอบไปสอดรู้สอดเห็น”เรื่องของคนอื่นๆ จะเป็นพวกเผือกหรือเปล่า แต่ผมยืนยันได้ว่า ความอยากรู้อยากเห็น เป็นธรรมชาติของคนที่มีมันสมอง เพียงแต่ว่า เจ้าของ สมองจะควบคุม สั่งการสมองให้เชื่อฟังได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
พูดมาอย่างนี้ไม่ได้ จะว่าใคร แต่จะพูดถึงนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนเรื่อง “หรูอี้ จอมนางเคียงราชัน” ซึ่งตอนนี้ ออกวางตลาดมาถึงเล่มที่ 9 แล้ว นับได้ว่า เป็นนิยายที่มีขนาดยาวไม่น้อย แถมยังไม่เห็นว่ามีท่าทีจะจบลงอีกด้วย แต่มีคนอ่าน ติดกันแบบ ใจจดจ่อว่า “เมื่อไรเล่มใหม่ออกมา” ขนาดนี้เชียวแหละ
หรูอี้ คือ สนมคนหนึ่งใน พระราชวังของฮ่องเต้ ที่มีสนมนับเป็นร้อย พูดกันง่ายๆก็คือ นิยายเรื่องนี้ คือ ชีวิตส่วนตัวภายในวังของฮ่องเต้ ผู้กุมอำนาจสูงสุดในแผ่นดินจีน
นั่นเอง
ด้วยอำนาจและหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดนั้น ชีวิตจึงย่อมไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป และตรงนี้เองที่ ทำให้ ใครๆ อยากรู้ เพราะคนส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสที่จะเข้าไปรับรู้รับทราบได้ เมื่อมีคนนำมา ทำเป็นนิยายให้อ่าน จึงมีคนนิยมชมชอบกัน ที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็นมากมาย อาทิ เรื่องของพระนางซูสีไทเฮา เรื่องของพระนางบูเซ็กเทียนเป็นต้น
หรูอี้ ก็อยู่ในท่วงทำนองเดียวกันนางเป็นสนมคนหนึ่งในวัง ที่บังเอิญกลายเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ จึงทำให้เกิด ความอิจฉา ริษยา แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่นกัน เพื่อต้องการความเป็นหนึ่ง และเมื่อคนเรา ลองได้คิดที่จะเอาชนะคะคานกันละก็ เขาต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ชัยชนะมาเป็นของเขา กลยุทธ์ทุกอย่างจึงถูกนำออกมาใช้ แบบว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา
จึงไม่น่าแปลกใจที่ นิยายเรื่องนี้ ออกมาถึงเล่ม 9 แล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติพฤติการณ์ แถมยิ่งเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย
ใครที่ยังไม่ได้อ่าน และชอบการเรียนรู้ถึงสิ่งที่เราไม่มีโอกาสจะรู้ได้ง่ายๆ ลองหยิบนิยายเรื่องนี้มาอ่าน มันจะเป็น นิยายชุดอีกเรื่องหนึ่งที่คุณจะต้องจดจำไปนาน แต่ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดความผูกพันอย่าได้หยิบมาอ่านเชียวนะครับ ดูผมเป็นตัวอย่าง พอหยิบมาอ่านเล่มแรก เลยสลัดไม่หลุด
Marketeer สะกิด ต้องไม่หยุดเรียนรู้ แต่ต้องเข้าใจว่าเรียนไปเพื่ออะไร
นิตยสาร Marketeer สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อแวดวงการตลาดฉบับ 234 ล่าสุด นำเสนอ เรื่องราวของการเรียนรู้ในสังคมยุคนี้เหมือนสะกิดให้ ทุกคนตระหนักเห็นถึงความสำคัญต่อการเปิดรับการเรียนรู้ ท่ามกลางกระแสที่มีแนวโน้มว่า เยาวชนคนยุคนี้ ไม่เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ ด้วยการพาดหัวเรื่องว่า “เราต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เราต้องรู้ว่าเรียนไปเพื่ออะไร”โดยผู้เขียนเกริ่นนำว่า การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองตลอดชีวิต คือหนทางเอาตัวรอดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็วอย่างเช่นทุกวันนี้อ่านแล้วให้อะไรที่เป็นภาพที่ชัดเจนทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของการตลาดครบถ้วนเหมือนเดิม ราคาฉบับละ 90 บาท
หวอชือซีหงสื้อ แปลว่า ฉันกินมะเขือเทศ นักเขียนจีนที่นามปากกาดังก่อนโครงเรื่อง
“หวอชือซีหงสื้อ” ผู้เขียนนิยายจีนกำลังภายใน เรื่อง“กระบี่พิชิตฟ้า” ประสบความสำเร็จในผลงานของตัวเองก่อนที่เรื่องราวจากจินตนาการจะถูกเผยแพร่ออกไป เนื่องจากนามปากกาของนักเขียนผู้นี้ มีความหมายว่า “ฉันกินมะเขือเทศ”สร้างความ น่าสนใจ ด้วยอารมณ์ชิลๆ ให้กับผู้ได้เห็นก่อนที่จะรับรู้โครงสร้างของเรื่อง ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลงานเรื่องนี้ของเขา ได้รับความสนใจจากนักอ่าน จนได้รับความนิยม ที่จัดอยู่ในระดับ แพลทินัม ของเว็บไซต์ฉีเตี่ยน ที่ มีเรตติ้ง เคียงคู่มากับงานเขียนของเทียนฉานถู่โต้ว ในเรื่อง สัประยุทธ์ทะลุฟ้า ตอนนี้ กระบี่พิชิตฟ้า วางตลาดเล่มที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ในราคาเล่มละ 280 บาท
การ์ตูนสำหรับเด็กแต่เหมาะกับผู้ใหญ่ยุคนี้ ทำให้เห็นถึงคุณค่าของการประหยัดที่ทุกคนต้องมี
“ครอบครัว ตึ๋งหนืด”เป็นการ์ตูนชุดสำหรับเด็กที่ให้ความสนุกสนานและอารมณ์ขันกับตัวละครน่ารักๆ แต่กวนๆ จนเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ มายาวนาน ปรากฏว่าพอมาถึงวันนี้ เนื้อหาของการ์ตูนชุดนี้กลับไปสะดุดใจกับ บรรดาผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งพ่อบ้านแม่เรือน หรือกลุ่มคนทำงาน เนื่องจาก สังคมไทยวันนี้ ฝืดเคืองในด้านเศรษฐกิจอย่างถ้วนหน้า ใครๆ ที่เคยได้อ่านการ์ตูนในชุดตึ๋งหนืดนี้จึงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การ์ตูนในชุดนี้ เหมาะกับผู้ใหญ่มากกว่าเด็กๆ ในยุคนี้ เนื่องจากเนื้อหาในเล่มจะบอกเล่าให้ทราบถึง วิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายการรู้จักใช้เงินอย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภายในบ้าน และนอกบ้าน ผู้เขียน แนะนำให้ประหยัด แม้แต่เรื่องการนำเอาของเก่าๆ นำมารีไซเคิล เพื่อใช้ให้คุ้มค่าต่อไป ราคา 158 บาท
เผยศาสตร์แห่งการนอนหลับและนอนฝัน เฉลยความสงสัยของผู้คนมานานนับเป็นพันปี
การ์ตูน แนวสาระ ทางด้านวิทยาศาสตร์ ในชื่อชุดว่า “WHY” ซึ่งมียอดจำหน่ายทั่วโลก ถึง 70 ล้านเล่มวางตลาด ในตอนที่ชื่อว่า “การนอนหลับและความฝัน” โดยมีเนื้อหากล่าวถึง เด็กหญิงและเด็กชายที่มีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันคือ คนหนึ่ง สามารถควบคุมความฝันได้ ส่วนอีกคนหนึ่ง มีอาการฝันร้ายอยู่เสมอ ผู้เขียนผูกเรื่องราวเพื่อให้เกิดความสนุก สำหรับเด็กๆ โดยให้เด็กทั้งสองนี้ ออกตามหา ผู้ขโมยความทรงจำ เรื่องราวจึงเต็มไปด้วยการผจญภัย ได้พบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย โดยเรื่องที่ถูกนำมาผูกเป็นเรื่องราวนั้น คือ สาระทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะบอกให้เด็กๆ ได้รับรู้ถึงคุณสมบัติของสมองในตัวมนุษย์นั่นเอง ราคา 168 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี