น่าแปลกที่อิตาลี กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสที่สุด จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นอกเหนือไปจากจีนซึ่งเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด
ข้อมูล ณ วันที่ 7 มีนาคม พบว่าอิตาลีมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 นอกจีนมากที่สุดแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 197 คนเฉพาะวันศุกร์ที่ผ่านมาวันเดียวมีผู้เสียชีวิต 49 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 4,600 คน อิตาลีมีสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่พุ่งขึ้นเร็วสุดกว่าประเทศอื่น โดยมีการพบผู้ติดเชื้อในทุกแคว้น และเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยังได้ลามไปถึงแถบเทือกเขาอาออสตา (Aosta Valley) ใกล้ชายแดนติดฝรั่งเศส แล้ว
สำหรับผู้เสียชีวิตพบทั้งในแคว้นลอมบาร์ดี เวเนโต เอมิเลียโรมัญญา มาร์เช ลาซิโอ และแคว้นปูเยียแต่ส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นลอมบาร์ดีซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมิลาน สถิติผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นชาย และเป็นชาวอิตาเลียน โดยปกติชายในวัย 80-90 ปี เป็นวัยที่มักมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น มะเร็ง
สถิติของสหภาพยุโรป หรืออียู พบว่า อิตาลีเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยมากกว่า 65 ปี มากที่สุดในอียู คิดเป็น 22.8% ในปี 2018 และมีสัดส่วนเยาวชนที่ต่ำที่สุดในขณะที่อายุมัธยฐาน หรือ median age ของประชากรอิตาลีอยู่ที่ 45.9 ปี เมื่อเทียบกับชาติสมาชิกอียูอื่นๆ ที่42.8 ปี
ปัจจัยเรื่องประชากรสูงวัยนี่เอง ที่ทำให้รัฐบาลอิตาลีตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม เพราะแม้คนรุ่นเยาว์ของอิตาลีติดเชื้อน้อยกว่า แต่มีความกังวลว่า ลูกหลานจะเอาเชื้อไปติดสมาชิกสูงวัยในครอบครัวได้โดยเฉพาะอิตาลีเป็นสังคมที่ครอบครัวอยู่ใกล้ชิดกัน
สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของอิตาลีระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อป้องกันคลื่นการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ และยอมรับว่า อิตาลีมีจำนวนประชากรสูงวัยที่แก่กว่าจีนด้วย จึงต้องมีการปกป้องคนเหล่านี้ทางการอิตาลียังแนะนำให้ผู้ที่อายุมากกว่า 75 ปี อยู่แต่ในบ้าน และเลี่ยงการติดต่อทางสังคมไปอีกเดือนคำแนะนำนี้ยังรวมถึงผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ที่มีโรคประจำตัว และผู้ใดก็ตามที่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว
ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอิตาลีนั้นอยู่ที่ 4.25%สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกราว 0.4% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจริงอาจไม่เป็นไปตามนี้ก็เป็นได้กรณีที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากทั่วโลกตกสำรวจ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอิตาลีได้ใช้มาตรการกักกันใน 11 เมืองใกล้มิลานในแคว้นลอมบาร์ดี ประชากรรวมราว 50,000 คน ต้องถูกกักตัวมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว และยังมีการแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงการจับมือ จูบหอมแก้ม หรือสวมกอดทักทายแต่ไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ ขณะที่โรงพยาบาลเองก็กำลังประสบปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ทั้งหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์กำลังขาดแคลนทั้งหมด อีกทั้งโรงพยาบาลในหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบก็มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวจนล้น
ขณะที่สถานการณ์ระบาดนี้ส่งผลกระทบต่ออิตาลีที่เศรษฐกิจเปราะบางอยู่แล้วในตอนนี้ให้ย่ำแย่ลงไปอีก ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากสุด โรงแรม ร้านอาหารสถานที่ท่องเที่ยงร้างผู้คน เมืองท่องเที่ยวทั้งกรุงโรม มิลาน ฟลอเรนซ์ เวนิสและอีกหลายเมืองกลายเป็นเมืองร้างผลกระทบลามไปถึงวงการกีฬาโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลเซเรีย อาลีกสูงสุดของประเทศเลื่อนสัปดาห์ละหลายแมทช์มาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการตัดสินใจว่าการแข่งขันทั้งหมดจะไม่ให้มีผู้ชมเข้ามาในสนามตลอด 1 เดือนข้างหน้า หรืออาจจะจนกว่าปิดฤดูกาล หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
หลายฝ่ายคาดว่า วิกฤติครั้งนี้จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่าราว 8,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 250,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี