แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัยยอดมาลัย ชวนคุณไปสนทนากับนักการเมืองหน้าใหม่ผู้ยืนยันว่าต้องการเข้ามาทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์ คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
l คนไทยส่วนใหญ่เขามองภาพนักการเมืองไม่ค่อยดีนัก ทำไมคุณปริญญ์จึงเข้าสู่วงการนี้
แต่ก่อนผมก็มองการเมืองคล้ายกับที่พี่พูดแต่ผมคิดว่าถ้าเราอยากปรับปรุงการเมืองให้ดีขึ้น เราต้องเข้าไปปรับปรุงตัวเราเอง เพราะการวิจารณ์อยู่วงนอกไม่น่าจะเกิดประโยชน์ ผมจึงตัดสินใจเข้าสู่วงการการเมือง ผมเข้าใจดีว่างานการเมืองกับงานบริษัทเอกชนมีความแตกต่างกันมาก และผมก็เตรียมใจเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง เมื่อผมเปลี่ยนสถานะจากงานเอกชนมาสู่วงการเมือง ผมอาจเป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ทางการเมือง แต่ถ้าเราสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีได้บ้าง ก็ถือว่าคุ้มค่าที่เข้ามาครับ
l บ้านเมืองของเรากำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ คุณปริญญ์อยู่ในฐานะมือเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอวิธีแก้วิกฤตินี้อย่างไรครับ
ประเด็นแรกคือต้องช่วยเหลือกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในสังคมก่อน เน้นว่าต้องช่วยคนที่ยากจนจริงๆนะครับ เพราะรัฐบาลมีเงินจำกัด เราต้องยอมรับว่าเรามีทรัพยากรจำกัด จึงต้องใช้มันให้เกิดตัวคูณแบบมหาศาล ต้องพยายามดึงให้เขากลายเป็นคนชั้นกลางให้ได้ ต้องเข้าไปดูโครงสร้างเศรษฐกิจของบ้านเราแล้วแก้โครงสร้างที่เป็นอุปสรรค ต้องยอมรับว่าโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างในบ้านยังไม่พร้อม เราต้องการเงินลงทุนด้านนี้ และยังต้องลงทุนด้านสาธารณสุข และการศึกษาเพื่อสร้างคนของเราให้มีคุณภาพมากขึ้น และสร้างโอกาสแห่งความเท่าเทียมให้มากขึ้น ความเท่าเทียมในสังคมมันแปลได้หลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมเป็นธรรมได้คือระบบภาษีที่เป็นธรรม และต้องมีกฎหมายที่เอื้อให้การแข่งขันทางเศรษฐกิจเป็นธรรมด้วย ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กตัวน้อยจะสู้คนตัวโตไม่ได้เลย สังคมที่เป็นธรรมก็จะไม่เกิดขึ้น ความเหลื่อมล้ำก็จะคงอยู่ต่อไปผมมองว่าสังคมไทยมีจุดแข็งอย่างหนึ่งคือความโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจ จุดแข็งนี้ทำให้เมืองไทยมีเสน่ห์ ทำให้นักลงทุนอยากเข้ามาบ้านเรา แต่ขณะเดียวกันเราต้องมีระบบกฎหมายที่โปร่งใสเป็นธรรม ตรวจสอบได้ ภาครัฐต้องไม่ใช้อำนาจรัฐบีบบังคับเอกชนมากจนเกินไป รัฐบาลต้องเป็นกรรมการที่ดีที่สร้างกฎเกณฑ์ที่เอื้อให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนักลงทุนต่างชาติที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเขาจะเข้ามาลงทุนในบ้านเรา
l อะไรคือปัญหาเดิมๆ ที่ฝังรากลึกในสังคมไทย จนทำให้เกิดอุปสรรคในการแก้ปัญหา
ปัญหาใหญ่คือทุจริตคอร์รัปชั่น เรื่องนี้ฝังรากลึกมานาน แต่ผมเชื่อว่าเรากำจัดมันได้ด้วยการสร้างนักการเมืองที่มีคุณธรรม ขอให้คนดี มีจิตสาธารณะเข้ามาทำงานการเมืองให้มากขึ้น อย่าเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง และนักการเมืองต้องไม่ก้าวร้าว ไม่สร้างความแตกแยกให้สังคมต้องช่วยกันเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้ประเทศ ไม่ใช่เข้ามาแล้วทำให้ทุกอย่างตันจนไร้ทางออก ไม่สร้างภาพแต่ต้องทำให้เกิดผลจริงจัง นักการเมืองต้องไม่ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก อย่าทำอะไรที่ฉาบฉวยแค่เพียงสร้างภาพแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาระยะยาวได้ ต้องไม่ออกนโยบายที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย แม้นโยบายนั้นจะทำให้ได้คะแนนเสียง แต่สุดท้ายแล้วทำให้ประเทศเสียหาย เช่นนโยบายประชานิยม และนโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ด นโยบายรถยนต์คันแรก
l ถ้าคุณปริญญ์เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แล้วมีพรรคอื่นในรัฐบาลเสนอนโยบายประหลาดๆ คุณปริญญ์จะทำอย่างไร
ถ้านโยบายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องหารือกัน และต้องไม่ปล่อยให้นโยบายนั้นมีผลบังคับใช้ ผมเห็นว่าประเทศชาติต้องมีองค์กรอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาลอย่างจริงจัง และต้องมีการถ่วงดุลตามหลักอำนาจอธิปไตยอย่างจริงจังด้วย และสิ่งสำคัญอีกเรื่องคือต้องสร้างค่านิยมเคารพกฎหมาย และความมีระเบียบวินัยในสังคม ประชาชนต้องไม่เป็นแค่ผู้เรียกร้องจากนักการเมือง แต่ต้องเป็น active citizens ด้วย ต้องมีความตื่นรู้ต้องเลือกเสพข่าวสารที่เป็นความจริง และต้องช่วยให้องค์กรอิสระทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระบบราชการกับระบบธุรกิจเอกชนต้องไม่ผลัดกันเกาหลัง ไม่ช่วยกันทำทุจริต ทุกหน่วยงานต้องมีธรรมาภิบาลต้องเน้นความโปร่งใส
l ในฐานะมือเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคนี้ก็ร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย จะทำให้เศรษฐกิจของไทยเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเร็วที่สุดอย่างไรครับ
คำว่าเร็วในบางครั้งอาจไม่ได้ให้ผลดีที่สุดก็ได้นะครับ แต่ก็จะต้องมีความรวดเร็วในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ การกระตุ้น
เศรษฐกิจระยะสั้นที่ควรจะทำคือการทำให้เกษตรมีรายได้ เช่นการประกันรายได้เกษตรกร ส่วนนโยบายชิมช้อปใช้ก็อาจช่วยบรรเทาปัญหาระยะสั้นได้ แต่ต้องไม่ทำบ่อยจนเกินไป และเราต้องสร้างแรงงานที่มีฝีมือให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับแรงงาน ยิ่งสังคมของเราเป็นสังคมผู้สูงวัย เรายิ่งต้องสร้างแรงงานมีฝีมือให้มากขึ้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น ต้องมีการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้มากขึ้น (value added) เช่นเมื่อก่อนเราอาจจะแค่ขายน้ำหนึ่งแก้ว แต่ยุคนี้ต้องขายน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม แล้วต้องขายทาง on line ด้วย และยังต้องสร้าง brand ของสินค้าด้วย สินค้าต้องมีอัตลักษณ์ และมีคุณภาพดีเยี่ยม เรื่องเหล่านี้มาจากแรงงานมีฝีมือทั้งนั้น ซึ่งทำให้มีรายได้สูงขึ้น
l จะแก้ปัญหาบัณฑิตไทยว่างงานด้วยวิธีการใดครับ
คนที่ได้งานทำต้องมีคุณภาพ ต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ต้องเริ่มตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ ต้องออกไปฝึกงานจริง เพื่อให้ได้ความรู้จริงจากประสบการณ์ตรงจากผู้รู้ในธุรกิจนั้นๆ ต้องสั่งสมประสบการณ์ให้ตรงกับงานที่ทำ ต้องมีเนตเวิร์กกับเครือข่ายนายจ้าง ตอนนี้ประชาธิปัตย์มีโครงการ matching ระหว่างนักศึกษากับบริษัทห้างร้านใหญ่ๆ เช่น กลุ่มสยามพิวรรธน์ สยามพารากอน ไอคอนสยาม กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มไทยเบฟธนาคารกรุงเทพ ไมโครซอฟท์ หัวเว่ย และบริษัทอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงกลุ่ม start up ด้วย เพราะกลุ่มเหล่านี้ต้องการแรงงานมีฝีมือและต้องการเด็กฝึกงาน สำหรับผู้สนใจสามารถ add line ID @demtum นะครับ แต่เราไม่ได้เน้นแค่นักศึกษาเท่านั้น แต่เราเปิดโอกาสให้ผู้ที่ตกงานหรือกำลังหางานทำด้วย นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์พยายามช่วยให้แรงงานกับนายจ้างได้เข้ามาพบเจอกัน และอีกเรื่องคือการสร้างงานโดยเฉพาะในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME รวมถึงเรื่อง start up เพราะนี่คือการให้โอกาสกับคนจำนวนมาก หากเราสามารถทำให้ start up เข้าถึงแหล่งทุนได้ เขาก็จะสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วย นี่คือการสร้างไฟและสร้างฝันให้กับคนตัวเล็กตัวน้อยที่มีความพยายามมีนวัตกรรม มีเทคโนโลยีใหม่ๆ คนกลุ่มนี้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในทันที อาจต้องล้มหลายครั้งแต่ก็ต้องไม่หมดไฟ ต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อไป ต้องกล้าลองผิดลองถูก จนวันหนึ่งเขาจะสามารถลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นคง เมื่อเขายืนได้แล้วเขาก็จะเติบโตต่อไปนี่คือสิ่งสำคัญที่ประชาธิปัตย์พยายามจะบอกกับคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนทุกคนในสังคมไทยว่า ต้องขวนขวายตลอดเวลา ต้องแสวงหาความรู้โดยไม่หยุดนิ่งต้องทำความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องพยายามมองว่าคนอื่นๆ ในสังคมไทยและสังคมโลกเขาทำอะไรในขณะนี้ แล้วต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ทันกาล นี่คือโครงการประชาธิปัตย์ทันสมัย (ปชป. ทันสมัย) หัวใจสตาร์ทอัพ ทุกอย่างอยู่ที่การเรียนรู้ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เรียนรู้อย่างไม่จบสิ้นต้องติดอาวุธทางความคิดให้กับตัวเองจนทำให้เราสามารถก้าวหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ ผมมองว่าเรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของอายุ แต่เป็นเรื่องของใจและความมุ่งมั่น ผมเองก็ไม่ใช่วัยรุ่น เพราะอายุ 40 กว่าแล้ว แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าผมคือคนรุ่นใหม่และยังมีไฟสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้สังคมตลอดเวลา สำหรับ start up ที่มีความคิดดีๆ มีงานดีๆ หลายคนอาจจะบอกว่าไม่มีทุน แต่หากมั่นใจว่ามีงานดีๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องทุน เพราะทุนจะวิ่งไปหางานดีๆ เสมอเราต้องพยายามระดมทุนทุกช่องทางทั้งช่องทางon line และ off line และเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ของไทย หรือจาก blockchain หรือผ่านระดมทุนด้วยกรรมวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ผมมั่นใจว่าเมื่อมีความคิดๆ มีนวัตกรรมดีๆ แล้ว เงินทุนจะไหลไปหาสิ่งดีๆ อย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญคือ start up ต้องได้รับคำแนะนำดีๆด้วย ต้องมีความรู้ด้านการเงินและการบัญชี การตลาดเรื่อง digital economy เรื่องตลาด on line และต้องหาตลาดต่างประเทศควบคู่ไปด้วย เรื่องเหล่านี้ประชาธิปัตย์ยินดีช่วยให้ความรู้และช่วยติดปีกทางปัญญาให้ เราพยายามดึงคนเก่งๆ ในแต่ละด้านมารวมกลุ่มแล้วทำงานด้วยกัน เพราะเชื่อว่าแต่ละคนจะช่วยเหลือกันและกันได้ในที่สุด นี่คือเป้าหมายสำคัญของประชาธิปัตย์ในด้านเศรษฐกิจ
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น.ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือTrue Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่YouTube ผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี