ในยามเกิดภัยถึงประชาชนนั้น มักสร้างบุรุษน้ำใจงามให้เห็นเป็นแบบอย่างเสมอเมื่อพ.ศ.๒๔๒๘ จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่นั้นมีพ่อค้าคนหนึ่งนำเรือเมล์ขาวออกตระเวนรับ-ส่งช่วยผู้คนจากอุบัติภัยน้ำท่วม ด้วยความเสียสละและอุทิศตนช่วยเหลือด้วยใจ ต่อมาพ่อค้าผู้นั้นได้รับพระราชทานยศให้เป็นพระยาพานทอง ซึ่งต่อมานั้นไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักชื่อ พระยาภักดีนรเศรษฐ หรือนายเลิศ คหบดีผู้สร้างคุณูปการต่อการศึกษาและผู้สร้างกิจการต่างๆ อย่างมากมาย
นายเลิศ เศรษฐบุตร ผู้นี้เกิดที่บ้านปลายสะพานแถววัดบพิตรพิมุข ปากคลองโอ่งอ่างกรุงเทพฯ เป็นบุตรคนที่สองของนายชื่น และนางทิพย์ เศรษฐบุตร เป็นน้องชายของ พระยานรเนติบัญชากิจ (ลัด เศรษฐบุตร) และยังเป็นญาติผู้พี่ของพระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอดเศรษฐบุตร) และนายสวัสดิ์ เศรษฐบุตร (บิดาของสอ เสถบุตร) ด้วยความที่นายเลิศเป็นคนคิดอ่านทำอะไรแล้ว ย่อมนำความทันสมัยและสำเร็จด้วยดีมาตลอดจนเป็นที่นับถือของคนทั่วไป ซึ่งนายเลิศนั้นเริ่มต้นงานจากเสมียนหนุ่มผู้ช่วยแหม่มแม็คฟาร์แลนด์ ดูแลธุรกิจขายน้ำหวานโซดา หรือน้ำมะเน็ด ที่นำเข้าจากสิงคโปร์ จนเปิดโรงงานน้ำแข็งจึงได้ฉายาว่านายเลิศ “ผู้ปั้นน้ำเป็นตัว” ต่อมาได้รับช่วงกิจการน้ำมะเน็ดจากแหม่มชาวอเมริกัน แล้วได้ทำกิจการอื่นๆ ตามมา เช่น ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกที่คนไทยเป็นเจ้าของ โดยสร้างตึกสูง ๗ ชั้น แถวถนนเจริญกรุง ตั้งชื่อห้างนายเลิศ เป็นผู้นำเข้าสินค้าจากเมืองนอกหลายอย่าง เช่น จักรซิงเกอร์ ผลไม้กระป๋อง จักรยาน สังกะสีนอกจากนี้ ยังทำธุรกิจโรงแรม Hotel de la Paixซึ่งมีบาร์นายเลิศ ที่ดังมากในเรื่องการเสิร์ฟวิสกี้ ออน เดอะ ร็อก ด้วยนายเลิศเป็นผู้นำเข้าแอลกอฮอล์และเจ้าของโรงงานน้ำแข็งเองโดยเฉพาะธุรกิจรถเมล์ขาวนั้น นายเลิศเริ่มจากกิจการรถม้าให้เช่าพร้อมสารถีและรถเมล์ม้าลาก ก่อนเริ่มธุรกิจการคมนาคมคือรถเมล์ขาวที่คนขับสวมเครื่องแบบสีขาวคล้ายกะลาสีกับหมวกทรงหม้อตาล มีชื่อด้วยความนิยมและสโลแกนว่า “สุภาพ ซื่อสัตย์ ประหยัด ทันใจเอากำไรแต่น้อย บริการผู้มีรายได้น้อย”เช่นเดียวกับธุรกิจเรือเมล์ขาวให้บริการในคลองแสนแสบ และตลาดเฉลิมโลก หรือตลาดนายเลิศ นับเป็นแหล่งสินค้า-อาหารสำคัญในย่านประตูน้ำ นอกจากนี้ ยังบริจาคเงินตั้งโรงพยาบาลเลิดสิน เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ช่วยรักษาประชาชนและบริจาคช่วยการกุศลต่างๆ ไม่ขาด
กิจการของนายเลิศทั้งหลายนั้นจึงมีแต่ความรุ่งเรืองและแปลกใหม่ไม่เหมือนใครจนกลายเป็นหนึ่งในพ่อค้าชาวสยามที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทำให้มีการเรียกว่าเลิศสะมันเตา ซึ่งเป็นคำนิยมใหม่ที่นำมาจากคำว่า สมันริตา หมายเอานาม Samaritaine(สะมาริแตน) ห้างใหญ่ที่ทำธุรกิจดังของปารีสมาใช้ แต่เรียกตามสำเนียงไทยว่า สะมันเตาเมื่อนำมาต่อท้ายคำว่าเลิศ ที่แปลว่า ดีวิเศษที่สุด คือ เหนือสิ่งที่อยู่โดยรอบ ดีเหนือใครต่อใครหรือไม่เหมือนใครแล้ว จึงกลายเป็นคำใหม่เฉพาะสำหรับใช้เรียก ความดีเลิศประเสริฐศรีในสมัยนั้น คำนี้ภายหลัง เทิ่ง สติเฟื่อง พิธีกรดังของทีวีช่อง ๔ ได้นำไปเรียกขานว่า เริ่ดสะแมนแตน จึงเป็นที่รู้จักคำนี้มากขึ้น นายเลิศเป็นบุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจจากการที่เคยติดบุหรี่อย่างหนักแล้วละเลิกได้จริง แล้วนำเงินที่ประหยัดจากการอดบุหรี่นั้นไปช่วยเหลือการศึกษา โดยสร้างโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ และโรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ขึ้น
ด้วยประวัติการด้านธุรกิจที่เกิดจากความเป็น “เลิศสะมันเตา” ของพระยาภักดีนรเศรษฐ พ่อค้าที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ นั้น จึงเป็นแบบอย่างให้ทายาทได้สานต่อรุ่นและรักษาเรือนไม้สักหลังใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๘ ซึ่งมีการขุดคลองสมคิดหน้าบ้านเชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ พร้อมจ้างสถาปนิกอิตาเลียนมาออกแบบสวนพักผ่อนหย่อนใจอย่างปาร์คแบบตะวันตกไว้ เรือนรับรองหลังเดียวนี้เป็นเรือนไม้สักชั้นเดียวแบบจตุรมุข ยกพื้นใต้ถุนโล่งหลังคาปั้นหยา ยกจั่วซ้อน ๓ ชั้น มุงกระเบื้องดินเผาเคลือบ บ้านปูด้วยแผ่นไม้สักที่เรียงแนบกันโดยเจ้าของบ้านออกแบบเอง
วันนี้ คุณเล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูรทายาทรุ่นที่ ๔ ได้เปลี่ยนเรือนไม้สักหลังงามของปาร์คนายเลิศนั้นเป็นเรือนพิพิธภัณฑ์ของครอบครัว เพื่อเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมสิ่งของสำคัญของตระกูล ทุกวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ด้วยบรรยายแห่งยุคสมัยกับต้นไม้ร่มรื่นที่เต็มอิ่มด้วยวิถีวัฒนธรรมตามรสนิยมเหมือนนักธุรกิจสยามใช้ต้อนรับและจัดเลี้ยงแขกคนสำคัญ ที่นับวันหาบรรยากาศแบบเดิมๆ นี้ชมได้ยากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี