ในช่วงที่โรค COVID-19 ระบาดนี้ พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้และโรคหืด
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะมีความกังวลใจกว่าสภาวะปกติเมื่ออาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ โดยมักจะกังวลว่าเป็นอาการของโรค COVID-19 หรือกังวลว่าหากเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรค COVID-19 มากกว่าปกติ และหากเป็นแล้วจะมีอาการรุนแรงกว่าปกติหรือไม่
ทั้งนี้ มีรายงานการวิจัย ในวารสารเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ชื่อว่า Allergy ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2020 นี้ ซึ่งได้ทำการเก็บข้อมูล
ในผู้ป่วยชาวจีนที่เมืองอู่ฮั่น ได้ข้อสรุปว่า ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจนั้นไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงในการเป็นโรค COVID-19 และไม่ได้ทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นแต่อย่างใด
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงรวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า หากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับภูมิแพ้ ก็อาจจะต้องพึงระวังไว้ เพราะโรคที่พบได้บ่อยในผู้ป่วย COVID-19 จากรายงานการวิจัยนี้ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ และโรคเบาหวาน โดยผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมักเป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป สำหรับอาการที่พบบ่อยของโรค COVID-19 คือ ไอ และมีไข้ นอกจากนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจ คือจากรายงานการวิจัยนี้พบว่าผู้ป่วยเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์มีอาการในระบบทางเดินอาหาร คือ คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ หากมีอาการแค่เพียงไอ ไม่มีไข้ ไม่มีอ่อนเพลีย ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน โอกาสที่อาการต่างๆ จะเกิดจากโรค COVID-19 ก็ย่อมจะมีน้อย อีกทั้ง ยังมีรายงานที่บอกว่าอาการจาม และมีน้ำมูก คัดจมูกที่พบบ่อยในโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ก็พบได้น้อยในโรค COVID-19 ดังนั้น หากมีอาการทางจมูกดังกล่าว โอกาสที่จะเกิดจากโรค COVID-19 ก็ย่อมน้อยเช่นกัน
ในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้มีรายงานการศึกษาที่ชัดเจนว่าโรคภูมิแพ้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรค COVID-19 แต่หากเป็นโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ และอยู่ในช่วงที่มีโรคระบาดเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเช่นนี้ ก็ควรจะดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้และใช้ยาที่เคยได้รับจากแพทย์เพื่อบรรเทาอาการและควบคุมไม่ให้โรคภูมิแพ้กำเริบ ดังนี้ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หากมีอาการไม่มาก ก็ใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน แต่หากมีอาการบ่อยมากกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ หรือมีอาการมากจนรบกวนชีวิตประจำวันก็ควรใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก
โรคหืด ควรใช้ยาพ่นหรือสูดสเตียรอยด์ หรือยาชนิดรับประทานที่ใช้ควบคุมอาการต่อเนื่อง ตามที่แพทย์แนะนำให้ใช้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรหยุดยาเอง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้กำเริบ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค COVID-19 แต่ก็จะทำให้เราคลายความวิตกกังวลหากอาการภูมิแพ้กำเริบว่าอาการนั้นเป็นแค่อาการของโรคภูมิแพ้ หรือเป็นอาการของโรค COVID-19 กันแน่
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการไอมากหรือหายใจเหนื่อย ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้องที่โรงพยาบาล ข้อแนะนำอีกอย่างก็คือ ในช่วงนี้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคหืดนั้นควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งไข้หวัดใหญ่จะเริ่มมีการระบาดตามฤดูกาล โรคไข้หวัดใหญ่กับ COVID-19 นั้นมีอาการที่คล้ายคลึงกัน หากเราฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็จะลดความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีอาการคล้ายกับโรคCOVID-19 อันอาจจะทำให้ผู้ป่วยหลายคนเกิดความเข้าใจผิดว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการของโรค COVID-19 และนำมาซึ่งความกังวลใจได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี