เราผลิตหุ่นยนต์ซีรี่ส์ CU-Robo Covid มีหุ่นยนต์ปิ่นโต หุ่นยนต์กระจกหุ่นยนต์นินจา และอื่นๆ เพื่อ save คุณหมอและพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์เพราะเรามั่นใจว่าเมื่อเราสามารถ saveหมอได้แล้ว หมอก็จะ save ชีวิตของพวกเราทุกคนไว้ได้ แล้วเราทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปพร้อมๆ กัน
แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย ชวนคุณไปสนทนากับตัวแทนนักประดิษฐ์หุ่นยนต์จากภาควิชาเครื่องกลคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ และดร.สุรัฐ ขวัญเมือง เพื่อให้ทราบว่าในยามเกิดวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดเช่นนี้ สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกันคือรักษาชีวิตของคนไทยให้รอดพ้นจากเชื้อมรณะตัวนี้ให้ได้
l อาจารย์ครับ ทีมนักประดิษฐ์ นักวิจัยของวิศวะ จุฬาฯ ใช้เวลาคิดเพื่อสร้างหุ่นยนต์ปิ่นโตนานกี่เดือนครับ
ดร.วิทยา : เราได้รับโจทย์มาในช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เมื่อได้โจทย์มากเราก็ตั้งทีมทำงาน โดยนำเอาเทคโนโลยีต้นแบบ 3-4 อย่าง ที่เรามีอยู่แล้วมาศึกษาแล้วทดลองใหม่ โดยทีมงานทดลองสร้างหุ่นยนต์ที่มีความ advanced มากๆแต่สุดท้ายได้รับคำตอบจากหมอว่า ขอแบบที่ใช้ได้ง่าย ทำงานร่วมกันได้สะดวก และใช้งานได้จริงโดยไม่ต้องการความซับซ้อนมากจนเกินไป สุดท้ายทีมของเราจึงเลือกใช้เทคโนโลยีที่ง่ายที่สุด แล้วก็ออกมาเป็นหุ่นยนต์ปิ่นโต ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งหมอ พยาบาล และคนไข้ได้ดีที่สุด ใช้งานง่าย ดูแลง่าย หุ่นยนต์ตัวนี้ทำงานได้หลายอย่างมาก เช่น ส่งอาหารส่งอุปกรณ์การแพทย์ ส่งเสื้อผ้าให้คนไข้ ส่งยาและส่งความรู้สึกถึงกันระหว่างหมอกับคนไข้ เพราะเราติดตั้งระบบ tele-present ซึ่งเราเรียกว่าหุ่นยนต์กระจก เพราะสามารถสะท้อนความรู้สึกระหว่างหมอกับคนไข้ได้ชัดเจน สามารถตรวจโรคในระยะไกลได้วัดชีพจร วัดไข้ และ monitor คนไข้ได้ โดยผู้ควบคุมหุ่นยนต์ก็คือหมอ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ การควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์จะใช้กล้องช่วยนำทางโดยมีการวางระบบควบคุมผ่านคลื่นวิทยุ ซึ่งนับว่าสะดวกและใช้งานง่ายมากครับ สั่งให้เลี้ยวได้ตามจุดที่ต้องการ
l ตอนที่เขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของปิ่นโตต้องระดมสมองกันมากมายแค่ไหนครับ
ดร.วิทยา : เราโชคดีครับ เพราะในคณะวิศวะฯ มีระบบนิเวศที่ดี เรามีคณาจารย์และนิสิตทั้งระดับปริญญาตรีและโท รวมถึงมีนิสิตเก่าที่ทำธุรกิจด้านหุ่นยนต์ แล้วก็มีผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่ให้การสนับสนุนเต็มกำลัง ทีมงานจึงทำงานได้สะดวก และที่น่ายกย่องคือเรามีนิสิตที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่พร้อมร่วมมือกับเรา ส่วนทีมนิสิตเก่าของวิศวะ ก็คือกลุ่มของ Mi Workspace, HG Robotics และ Obodroid ทั้งหมดเป็นบริษัทของนิสิตเก่าวิศวะ ที่มีประสบการณ์ทำหุ่นยนต์ระดับสากลมาแล้ว เมื่อทีมพร้อมก็เดินหน้าทำงานเพื่อให้ตรงกับความต้องการของหมอและพยาบาล โดยเน้นหุ่นยนต์ที่ทำงานได้จริง แต่ใช้งบประมาณสร้างต่ำ
l หุ่นยนต์ปิ่นโตหนึ่งตัว ใช้งบประมาณเท่าไรครับ และควบคุมการทำงานด้วยระบบอะไร วัสดุอุปกรณ์ของหุ่นยนต์ต้องนำเข้าจากต่างประเทศหรือใช้ local product ครับ
ดร.วิทยา : งบประมาณตกตัวละ 5 หมื่นบาท ซึ่งถ้าเทียบกับหุ่นยนต์คล้ายๆกันนี้แต่ผลิตในประเทศอื่นจะตกตัวละประมาณหลักล้านบาท แต่ของเรานั้นหากยิ่งสร้างหลายๆ ตัวราคาจะต่ำลงไปอีกส่วนการควบคุมหุ่นยนต์ก็ใช้ระบบการควบคุมด้วยคลื่นวิทยุด้วยระบบของโดรน เพราะสามารถส่งสัญญาณควบคุมระยะไกลได้ และมีระบบ tele-present ด้วย ตอนนี้เราสามารถสร้างหุ่นยนต์ปิ่นโตได้นับร้อยตัวแล้วครับ
ดร.สุรัฐ : ส่วนวัสดุอุปกรณ์ในการ ทำหุ่นยนต์ก็เป็นของที่ผลิตได้ในประเทศไทย เช่น remote control ที่ใช้ก็เป็นของโดรน ซึ่งบริษัท HG Robotics ผลิตได้ ส่วน software ก็ผลิตโดยบริษัท Obodroid ส่วนตัวรถเข็นก็เป็นรถเข็นที่ใช้ทั่วไปในโรงพยาบาล ทีมงานของเราเน้นการใช้ของที่มีอยู่ก่อนแล้วเป็นหลัก เน้นของที่หาได้ง่าย และที่สำคัญคือเน้นให้ผู้ใช้ต้องใช้ได้ง่าย มีความรู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งของนั้นๆ และเน้นความปลอดภัยไม่ทำให้คนไข้เกิดความกลัวหรือตกใจเมื่ออยู่กับหุ่นยนต์ หลังจากเราทำวิจัยเรียบร้อย ก็ถึงกระบวนการผลิตหุ่นยนต์ปิ่นโตซึ่งตัวแรกๆ ใช้เวลาผลิต 15 วันเท่านั้น แต่ตัวต่อๆ มาก็ใช้เวลาน้อยลง แต่ที่น่าสนใจคือทั้งหมอ พยาบาล คนไข้บอกว่าใช้งานได้จริงและมีประสิทธิภาพดี เราเลยตั้งชื่อว่าปิ่นโตเพราะทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และใช้ส่งอาหาร ยา เครื่องใช้อื่นๆ ได้จริง แถมยังเป็นสื่อระหว่างหมอกับคนไข้ได้ด้วย ผมเชื่อว่าปิ่นโตของเราน่าจะสร้าง impact ในวงการหุ่นยนต์เพื่อการพยาบาลในระดับนานาชาติได้เพราะใช้ประโยชน์ได้จริง หมอใช้ได้ง่ายสะดวกไม่ซับซ้อน คนไข้ก็ไม่ตื่นกลัวเวลาเห็นหุ่นยนต์ตัวนี้ ที่สำคัญคือมันช่วยสร้างระยะห่างระหว่างหมอ พยาบาลกับคนไข้ได้อย่างน่าพอใจ ผมมั่นใจว่าแม้จะผ่านวิกฤติโควิดไปแล้ว หุ่นยนต์ปิ่นโตก็ยังสามารถนำไปใช้งานในด้านการแพทย์ได้ต่อไป ล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคม จุฬาฯ ได้ส่งมอบปิ่นโตให้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต เป็นต้น
l นอกจากหุ่นยนต์ปิ่นโตแล้ว ยังมีหุ่นยนต์เครื่องช่วยหายใจด้วย ใช่ไหมครับ
ดร.สุรัฐ : เราเรียกเครื่องทดแทนเครื่องช่วยหายใจครับ ย้อนกลับไปประมาณกลางเดือนมีนาคม ตอนนั้นคาดการณ์กันว่า
ถ้าเกิดการแพร่ระบาดโควิดที่หนักที่สุดในไทย อาจทำให้มีคนป่วยด้วยโรคนี้มากกว่า3 แสนคน ทีมงานของเราก็ศึกษาว่าคนป่วยที่มีอาการโรคนี้หนักมากๆ ต้องการเครื่องช่วยหายใจ แล้วเมืองไทยจะมีเครื่องช่วยหายใจเพียงพอหรือไม่ โดยเราดูกรณีศึกษาจากอิตาลีก่อน แล้วก็จึงเกิดความคิดว่า หากหมอต้องทำแบบอิตาลีคือเลือกรักษาใคร หรือเลือกไม่รักษาใคร เพราะเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ จะเกิดอะไรขึ้นในสังคมของเรา สังคมไทยไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นอิตาลีทีมของผมจึงคิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้คู่ขนานไปกับปิ่นโต จึงออกมาเป็นเครื่องช่วยทดแทนเครื่องช่วยหายใจชนิดง่ายๆ โครงการที่เราทำนี้เรียกได้ว่าเป็นโครงการของวิศวกรทั้งโลกที่ร่วมมือช่วยกันหาทางออกให้กับวิกฤตินี้เราตั้งชื่อโครงการนี้ว่า ปราณ ซึ่งก็คือลมปราณครับ เป็นลมแห่งชีวิต ทีมของเราทำงานร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แล้วออกมาเป็นAmbu bag หน้าตามันเหมือนอุปกรณ์ช่วยหายใจแบบกระเปาะลมที่ใช้มือคนบีบเพื่ออัดลมเข้าสู่ปอดคนไข้ เราจึงพยายามทำหุ่นยนต์ Ambu bag ขึ้นมาเพราะเห็นว่าสามารถช่วยการหายใจของคนป่วยได้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นทดลองใช้ แต่ยังต้องทดลองต่ออีกระยะหนึ่งจนกว่าจะหมดปัญหาการใช้งานจริง เพราะนี้คือการใช้เพื่อช่วยชีวิตคนจริงๆ ดังนั้นจะต้องไม่มีอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
l โครงการนี้ยังต้องการเงินสนับสนุนการวิจัยอีกใช่ไหมครับ หากผู้อ่านแนวหน้าต้องการจะร่วมสมทบทุนช่วยการวิจัย สามารถบริจาคได้ที่ไหนครับ
ดร.วิทยา : ยินดีและขอบคุณมากครับทางคณะวิศวะ จุฬาฯ ตั้งกองทุนชื่อ “นวัตกรรมวิศวฯ จุฬาฯ” บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาจามจุรีสแควร์ หมายเลข 939-0-10892-7 ธนาคารกสิกรไทย สาขาจามจุรีสแควร์ หมายเลข 630-2-37158-8 และธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทยหมายเลข 405-4-13788-7 ขอเชิญชวนท่านทั้งหลายร่วมบริจาค และสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีเงินได้ ได้ 2 เท่าครับ
l หากโรงพยาบาลอื่นๆ จะขอรับหุ่นยนต์ปิ่นโต จะต้องทำอย่างไรครับ
ดร.วิทยา : ติดต่อเพื่อขอรับบริจาคหุ่นยนต์ได้ที่ @curobocovid ทีมงานจะพิจารณามอบให้กับผู้ที่ผ่านการคัดสรร โดยเรามอบให้ฟรี ปัจจุบันมีโรงพยาบาลหลายสิบแห่งขอรับบริจาคเข้ามาตลอดเวลา แล้วเมื่อเราสามารถผลิตได้มากขึ้น ก็น่าจะแจกจ่ายให้ตามโรงพยาบาลต่างๆ ได้มากขึ้น คาดว่าในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เราน่าจะผลิตหุ่นยนต์ปิ่นโตได้จำนวนมากขึ้นกว่าเดิมอีก
l มีคำถามเรื่องการทำความสะอาดหุ่นยนต์ปิ่นโตครับ ยุ่งยากไหมครับ แล้วตัวผิววัสดุจะเป็นที่เกาะอาศัยของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ง่ายไหมครับ
ดร.วิทยา : หุ่นยนต์ปิ่นโตคือรถเข็นในโรงพยาบาลที่ใช้กันตามปกติ สามารถทำความสะอาดได้ง่ายมาก ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายมากครับ ผิวของวัสดุที่ทำหุ่นยนต์คือสเตนเลสสตีลที่ทำความสะอาดง่ายมากไม่เป็นสนิมด้วยครับ
l แล้วถามจะมีผู้อ่านแนวหน้าสนใจขอซื้อไปใช้ที่บ้าน จะมีจำหน่ายไหมครับ
ดร.วิทยา : ยินดีครับ แต่คงต้องรอให้ เราผลิตได้เพียงพอกับความต้องการของโรงพยาบาลก่อนครับ หลังจากนั้นก็จะเข้าในขั้นของการผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วไป และผมเชื่อว่าเมื่อต่างประเทศเห็นหุ่นยนต์นี้ก็น่าจะต้องการนำไปใช้เช่นกันครับ เพราะใช่ง่าย สะดวกมาก ราคาก็ไม่แพงมากด้วย เรื่องการผลิตเพื่อจำหน่ายในกับคนทั่วไปน่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ครับ
ดร.สุรัฐ : ในยามนี้เราทุกคนพยายามช่วยให้หมอและพยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ทำงานเพื่อรักษาชีวิตของเราทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 เราจึง ต้องช่วยกัน save หมอและพยาบาลเอาไว้โครงการหุ่นยนต์ปิ่นโตก็คือหนึ่งในความพยายามของพวกเราชาววิศวะ จุฬาฯ ที่จะช่วยเหลือสังคมไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้ เราช่วยกัน save หมอ เพื่อให้หมอช่วย save เราทุกคน แล้วเราทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลตัวเองให้รอดพ้นจากเชื้อโควิด-19แล้วเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันครับ
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการแนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวัน อาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN 2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8และชมรายการ ย้อนหลังได้ที่ YouTubeผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี