ที่ผ่านมา สวีเดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกจับตามองเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เนื่องจากเป็นประเทศแรกๆในโลก ที่ประกาศว่าจะไม่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ แต่ปล่อยให้ประชาชนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ Herd Immunity เพื่อเป็นหนทางหนึ่งในการป้องกันเศรษฐกิจได้รับผลกระทบกลยุทธ์ของสวีเดน คือ อนุญาตให้โรงเรียนเกือบทั้งหมด ร้านอาหารบาร์ และภาคธุรกิจต่างๆ เปิดปฏิบัติการตามปกติ ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและสุขอนามัยที่ดี แต่มาตรการเหล่านั้นล้วนอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจ และจะมุ่งเน้นไปที่การปกป้องกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงแทน ขณะที่ชาติส่วนใหญ่ในยุโรปบังคับประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัย
อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญต่างระบุว่า แนวทางนี้จะยังไม่สำเร็จง่ายๆ และสวีเดนยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่อยู่มากทีเดียว
ผลการเก็บตัวอย่างประชากรราว 1,100 คน ตลอดช่วง 8 สัปดาห์จนถึงปลายเดือนเมษายน ในพื้นที่ 9 เมือง ของสวีเดน พบว่า ชาวสวีเดนมีแอนติบอดีป้องกันโควิด-19 น้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ โดยในกรุงสตอกโฮล์ม มีเพียง 7.3% เท่านั้น ที่มีแอนติบอดีในร่างกาย ขณะที่เมืองอื่นเช่น สกัวเนอ มีเพียง 4.2% เท่านั้น / ซึ่งตามอุดมคติของ Herd Immunity คือ จะต้องให้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ หรือชุมชนนั้นๆ ราว 70-90% ติดเชื้อและสามารถพัฒนาแอนติบอดีในร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้
ดร.ไมเคิล มิน่า ผู้ช่วยศาตราจารย์ด้านระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า สวีเดนยังไม่ถึงจุดของการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แน่นอน อีกทั้งไม่แน่ว่าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้สำเร็จ อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าเสียด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับศาสตราจารย์ บียอร์น โอลเซนผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยอุปซาลา ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิชาการที่วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของสวีเดน ระบุว่า เขาคิดว่าสวีเดนจะต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าจะไปถึงจุดที่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่
ขณะที่ดร.แอนเดอร์ส เทกเนล นักระบาดวิทยาคนสำคัญของสวีเดนผู้สนับสนุนแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ระบุว่า ตัวเลขผู้ที่มีแอนติบอดีในร่างกายค่อนข้างน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เล็กน้อยเท่านั้น พร้อมย้ำว่าการปล่อยให้ประชาชนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีเท่านั้น แต่จะเป็นการ “ชะลอการระบาดของไวรัส” เพื่อให้หน่วยงานสาธารณสุขมีเวลารับมือกับการระบาด / อีกทั้งยังระบุว่าที่หลายๆ ประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการระบาดนั้น อาจต้องเผชิญกับคลื่นการระบาดระลอกใหม่ หลังจากที่ผ่อนคลายการล็อกดาวน์แล้ว
อย่างไรก็ดี ยุทธศาสตร์ภูมิคุ้มกันหมู่ของสวีเดนนั้น จะช่วยให้สวีเดนเผชิญการระบาดระลอก 2 ที่เบาบางกว่า เพราะประชากรส่วนใหญ่ของสวีเดนจะมีภูมิคุ้มกันแล้ว และทำให้การติดเชื้อไม่รุนแรงเท่าหลายประเทศ อีกทั้งยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ภายในเดือนนี้ ชาวกรุงสตอกโฮล์มจะติดเชื้อโควิด-19 ราว 40%
ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อในสวีเดน32,172 คน และเสียชีวิต 3,871 คนโดยพบว่า จากประชากรราว 10 ล้านคนมีอัตราผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพียง 3% เท่านั้น แต่อัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนประชากร สูงถึง 12% สูงกว่าบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในแถบนอร์ดิกเป็นอย่างมาก แต่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ อย่างสหราชอาณาจักร สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส ที่บังคับใช้มาตการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเคยเตือนเกี่ยวกับการฝากความหวังไว้กับภูมิคุ้มกันหมู่ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว WHO แจ้งว่า ผลการศึกษาทั่วโลกพบมีประชากรเพียงแค่ราวๆ 1-10% เท่านั้นที่มีแอนติบอดี ผลการศึกษาที่ออกมาตามกรอบการค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ ในสเปนและฝรั่งเศส
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี