ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ หอการค้าไทย จัดกิจกรรม “ไทยช่วยไทย คือไทยเท่ @ ยิ้มไปด้วยกัน” ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ผลิตทั่วประเทศ รวบรวมผลไม้และของดีประจำจังหวัดจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย ส่งตรงจากสวนและแหล่งผลิตมาจำหน่าย โดยคิดค่าใช้จ่ายใดๆ  ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม นี้ ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ทั้งนี้ ได้มีการจัดงานเปิดอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย, ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอนดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด  ร่วมเปิดงาน  พร้อมด้วย สนั่น อังอุบลกุล, ไพรัช บูรพชัยศรี, ภูมินทร์ หะรินสุต ฯลฯ มาร่วมงาน

พบกับผลไม้หารับประทานยากส่งตรงจากแหล่งผลิตของเกษตรที่รวบรวมไว้ภายในงาน อย่าง ทุเรียนป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์, ส้มโอขาวแตงกวา จ.ชัยนาท, ทุเรียนภูเขาไฟ จ.ศรีสะเกษ, ทุเรียนจากภาคเหนือ พันธุ์หลินลับแลและหลงลับแล ข้าวโพดนมสดฮอกไกโด, อินทผลัมสดและแปรรูป, แตงโมไร้เมล็ด ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีคาเฟ่ทุเรียน, รวบรวมของหวานนานาชนิดที่สร้างสรรค์ขึ้นจากทุเรียนเอาใจเหล่าทุเรียนเลิฟเวอร์โดยเฉพาะ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของดีประจำจังหวัดจากทั้ง 5 ภาคที่มาร่วมจำหน่ายภายในงานอย่างมากมาย

ชุคฑามาศ รตนรุ่งเรือง เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียน ป.ป่าละอู จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะนักท่องเที่ยวหรือลูกค้ามาเที่ยวชมสวนและซื้อทุเรียนน้อยมาก เลยต้องใช้วิธีนำผลผลิตส่งออกให้จีน แต่สามารถจำหน่ายได้ในราคาถูก เพราะการส่งออกเขาไม่มีการแยกสายพันธุ์ คิดราคาเดียวกันหมด พอรู้ว่าได้มาร่วมจำหน่ายที่งานนี้ดีใจมาก เพราะลูกค้าประจำของเราอยู่กรุงเทพฯ เยอะ นอกจากจะมาซื้อที่งานที่สยามพารากอนแล้ว ยังรับออเดอร์ออนไลน์ได้อีกทางด้วย

ด้าน ศิริพร อารีย์ชน เจ้าของสวนกาญจน์การ์เด้น สวนอิทผลัมคุณภาพปลอดสารพิษ จากจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า “สวนอินทผลัมของเราได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะลูกค้าหลักของเราคือชาวอินโดนีเซีย มีทั้งเดินทางมาซื้อที่สวนและส่งออก แต่เมื่อต้องปิดประเทศรายได้หลักจึงหายไป เราจึงเริ่มขายทางออนไลน์ และเมื่อได้มาเข้าร่วมงานไทยช่วยไทย คือไทยเท่ @ ยิ้มไปด้วยกัน ยิ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการขายและโฆษณาสวนให้เป็นที่รู้จักได้มากยิ่งขึ้น จึงรู้สึกดีมากที่มีกิจกรรมดีๆ ที่ช่วยเหลือเกษตรกรและคนค้าขายโดยตรงแบบนี้”

พีรพัทธ์-รัตน์นลิน คูเจริญชัยมานที สองพี่น้องเจ้าของสวนกล้วยไม้มานะออร์คิด พุทธมณฑล สาย 5 กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เราสูญเสียรายได้ไปกว่า 70-80% เพราะไม่สามารถส่งกล้วยไม้ออกต่างประเทศได้ เพราะไม่มีเที่ยวบิน หรือมีเที่ยวบินน้อยมาก โดยปกติเราจะมีกล้วยไม้จำหน่าย 2 รูปแบบ คือแบบดอกเข้าช่อ กับขายเป็นกระถาง ซึ่งในส่วนของกล้วยไม้ตัดดอกต้องทิ้ง ระยะหลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้นบ้างจากการที่คนหันมานิยมปลูกต้นไม้ประดับบ้านกันมากขึ้น จึงสามารถขายกล้วยไม้กระถางผ่านทางออนไลน์และวางขายหน้าร้านได้ แต่การได้มาร่วมขายที่งานนี้ก็ดีมาก เพราะสยามพารากอนอยู่ทำเลใจกลางเมือง และมีคนมาเยอะอยู่แล้ว ทำให้เพิ่มช่องทางการขายได้มากขึ้น”