โควิด-19 ระบาดทั่วโลกมากว่าครึ่งปีแล้ว นานาชาติกำลังเร่งพัฒนาวัคซีน ซึ่งมีหลายโครงการที่ดูเข้าใกล้ความจริง จนนำไปสู่สงครามการแย่งชิงข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยวัคซีนต้านโควิด-19 ผ่านความพยายามในการแฮกข้อมูล
ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์ของอังกฤษ หรือ NCSC เผยคำเตือนว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มแฮคเกอร์รัสเซีย ซึ่งพุ่งเป้าเจาะไปที่องค์กรและศูนย์ต่างๆ ของสหรัฐอังกฤษ และแคนาดา ที่กำลังวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียที่ถูกกล่าวหาคือ APT29 และบางครั้งก็มักใช้ชื่อ The Dukes หรือ Cozy Bear โดยทาง NCSC ระบุว่า มั่นใจได้มากกว่า 95% ที่ว่า กลุ่ม APT29 เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ข้อสรุปของอังกฤษนี้ได้รับการสนับสนุนจาก หน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งแคนาดาและสหรัฐด้วย
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การกล่าวหาครั้งล่าสุดนี้ เป็นเรื่องไม่ปกติเท่าไหร่นัก เพราะที่ผ่านมารัฐบาลชาติเหล่านี้จะใช้คำว่าstate-backed hackers หรือใช้คำที่ระวังกว่านี้ แต่รอบนี้ มีการกล่าวถึงรัสเซียอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ยังเลือกแฉเรื่องที่อ่อนไหวมากในช่วงนี้อย่างการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา การวิจัยวัคซีนและรายละเอียดของการระบาด ถือเป็นข้อมูลที่หน่วยข่าวกรองต่างๆ ทั่วโลกล้วนอยากได้ และหลายชาติก็พยายามหาข้อมูลเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งชาติตะวันตกด้วยกันเอง
ศาสตราจารย์รอสส์ แอนเดอร์สันจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุว่าไม่น่าใช่รัสเซียชาติเดียวที่กำลังพยายามแฮกข้อมูลเรื่องนี้ เพราะมีคนอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ หรือจีน ล้วนอยู่ในวงการนี้ด้วยทั้งนั้น และมักมีความพยายามขโมยข้อมูลอ่อนไหวของแต่ละฝ่ายตลอดเวลา
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า การพัฒนาวัคซีนนั้นต้องอาศัยทั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และงบประมาณเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ จนทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะนำไปสู่ “ลัทธิวัคซีนชาตินิยม” ที่แต่ละชาติต่างพยายามหาทางได้วัคซีนก่อน โดย ดร.เดวิด ไนเดซ ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ด้านสาธารณสุข ระบุกับ
บลูมเบิร์กว่า การเดิมพันนั้นสูงมาก ใครที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ก่อนนั้นถือว่าได้รางวัลใหญ่ ซึ่งในขณะนี้มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19มากกว่า 160 โครงการ ทั้งโดยบริษัทเอกชนและองค์กรวิจัยทั่วโลก
ที่ผ่านมา บริษัทยาและองค์กรสาธารณสุขต่างตกเป็นเป้าหมายหลักในการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ง่ายมาตลอดอยู่แล้ว แต่การโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มความ
รุนแรงขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยพบว่ามีอาชญากรรมทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นถึง 300% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และไม่ได้เป็นการโจมตีเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่เหมือนต้องการจารกรรมข้อมูลมากกว่า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน อ้างผู้เชี่ยวชาญระบุว่า รัสเซียไม่ได้ลงทุนในโครงสร้างการพัฒนาวิทยาศาสตร์มากนัก ทำให้ศักยภาพในการพัฒนาวัคซีนอาจไม่เร็วเท่าสหรัฐ อังกฤษ และจีน หากเป็นฝีมือของรัสเซียในการแฮกข้อมูลจริงสะท้อนให้เห็นว่า รัสเซียกำลังท้อแท้กับการพัฒนาวัคซีน และไม่แน่ใจว่าจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้หรือไม่หากมีชาติใดพัฒนาได้สำเร็จก่อน แม้ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีข่าวว่า การพัฒนาวัคซีนโควิด-19ของรัสเซียกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดีมีการทดลองขั้นแรกในมนุษย์ผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยืนยันไม่เกี่ยวข้องและรู้เห็นกับความพยายามในการแฮกดังกล่าว ในขณะที่ทางการรัสเซียตอบโต้ว่า คำเตือนของอังกฤษเป็นการสร้างเรื่องเพื่อทำให้โครงการพัฒนาวัคซีนของรัสเซียนั้นมัวหมอง เพราะกลัวว่ารัสเซียจะพัฒนาวัคซีนสำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลกนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี