เมื่อวันศุกร์ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 324 คน จนตอนนี้ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมในประเทศพุ่งทะลุ 17,000 คนไปแล้วรัฐบาลได้ระบุว่า โบสถ์ซารางเจอิล เป็นศูนย์กลางการระบาดรอบสองของประเทศ แต่บาทหลวงและสมาชิกโบสถ์ออกมาโจมตีรัฐบาลว่า นี่คือแผนการสกปรกของรัฐบาลในการกำจัดพวกเขา
กลายเป็นการเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด ระหว่างองค์กรศาสนา และรัฐบาลของเกาหลีใต้ หลังจากที่รัฐบาลระบุว่า โบสถ์ซารางเจอิล ซึ่งมีสาขามากกว่า 150 แห่ง เป็นศูนย์กลางการระบาดรอบสองของประเทศในรอบนี้ โดยล่าสุดเมื่อวันศุกร์ พบว่าสมาชิกของโบสถ์ติดเชื้อรวมมากถึง 739 คน จากผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้ว 3,415 คน รัฐบาลระบุว่า โบสถ์แห่งนี้ยังคงปกปิดรายชื่อของสมาชิก และขัดขวางมาตรการการควบคุมการระบาดของรัฐบาล และว่าทางโบสถ์ได้แพร่กระจายข่าวลวง (fake news) เกี่ยวกับเชื้อไวรัส
บรรดาสมาชิกของโบสถ์บอกว่า พวกเขากำลังถูกล่าแม่มดด้วยแรงจูงใจทางการเมือง โดยบาทหลวง จุน ควาง ฮุน ซึ่งเป็นสมาชิกคนสำคัญของโบสถ์ ได้กล่าวโจมตีประธานาธิบดีมูน แจ อิน ว่าต้องการข่มขวัญคริสตจักรด้วยไวรัสอู่ฮั่น และภายหลังพบว่าบาทหลวงจุนป่วยเป็นไวรัสโควิด-19หลังจากที่เข้าร่วมงานชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดีมูน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีสมาชิกโบสถ์และคนอื่นๆเข้าร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมากขณะที่นายปีเตอร์ โค ทนายความของบาทหลวงจุน บอกว่าทางโบสถ์ได้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างกันอย่างเคร่งครัด และบาทหลวงจุน อยู่ที่งานประท้วงเพียง 15 นาทีเท่านั้น
สมาชิกบางรายของโบสถ์ซารางเจอิล บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า รัฐบาลพยายามปั้นเรื่องราวเพื่อที่จะใส่ร้ายให้พวกเขาเป็นผู้ผิดจากการระบาดรอบนี้อี แฮ ซุก หนึ่งในบาทหลวงของโบสถ์ ระบุว่า เธอได้เข้ารับการตรวจเชื้อ และพบว่าผลตรวจเป็นลบ แต่วันต่อมากลับมีข้อความมาบอกว่าเธอติดเชื้อ เธอบอกว่าคิดถึงสาเหตุอื่นไม่ได้เลย นอกจากว่านี่คือแผนการของรัฐบาลที่ต้องการกำจัดโบสถ์ซารางเจอิล ด้วยการสร้างจำนวนผู้ติดเชื้อให้ดูสูงขึ้น /และเมื่อนักข่าวถามว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนนี้ เธอบอกว่า “มูน แจ อิน”
ขณะที่มีทฤษฎีที่กระจายอยู่ในบรรดาสมาชิกโบสถ์ ว่า การระบาดครั้งนี้ เป็นความพยายามในการโจมตี ด้วยวิธีการคือ นำขวดเจลล้างมือที่ติดเชื้อมาให้พวกเขาใช้เพื่อที่จะได้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากทางโบสถ์ได้รับขวดน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่ดูเหมือนจะเป็นเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่มีกลิ่นเหมือนสารเคมี และในตอนนั้นไม่มีใครติดอะไร แต่ตอนนี้กลับพบว่ามีผู้ติดเชื้อมากขึ้น จึงคิดว่าทฤษฎีการจงใจโจมตีนี้อาจเป็นจริง
ก่อนหน้านี้ อี มัน ฮี วัย 88 ปีผู้นำโบสถ์พระเยซูชินชอนจีที่มักถูกมองว่าเป็นลัทธิ ศาลแขวงซูวอนเผยว่า เพิ่งถูกออกหมายจับเนื่องจากอัยการเชื่อว่า อีพยายามอย่างเป็นระบบที่จะทำลายหลักฐานเขาถูกกล่าวหาว่า ให้บันทึกที่ไม่ถูกต้องเรื่องการชุมนุมของสมาชิกโบสถ์และรายชื่อสมาชิกปลอมแก่เจ้าหน้าที่
ผู้เกี่ยวข้องกับโบสถ์นี้เป็นผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้กว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เป็นช่วงที่เกาหลีใต้เกิดการระบาดหนัก จนถึงตอนนี้ชาวเกาหลีใต้ที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์นี้ติดเชื้อแล้วกว่า 5,200 คน คิดเป็นร้อยละ 38 ของผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ แต่อีเคยออกมาขอโทษในเดือนมีนาคม ภายหลังจัดพิธีทางศาสนาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
สำหรับโบสถ์ชินชอนจีตั้งขึ้นในปี 2527 เคยอ้างว่า สมาชิกมักถูกสังคมตราหน้าและเลือกปฏิบัติ จึงไม่อยากเปิดเผยตัวกับทางการ นายอีอ้างว่า ได้รับมอบหมายจากพระเยซู และจะพาสมาชิก 144,000 คน ไปสวรรค์กับเขาในวันพิพากษา ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 200,000 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี