‘ในหลวง’โปรดเกล้าฯ จัดตั้งโครงการส่งเสริมอาชีพฯ

ช่วยเหลือครอบครัวข้าราชบริพารที่ยังว่างงาน จากผลกระทบโควิด-19

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญและทรงห่วงใยครอบครัวข้าราชบริพารที่ยังว่างงาน และที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการฝึกวิชาชีพ สร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดตั้งเป็นศูนย์ส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร โดยตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานวิภาวดี เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ดำเนินการด้านการตัดเย็บเครื่องแต่งกาย ชุดจิตอาสา ได้แก่ หมวก และผ้าพันคอ เพื่อสนับสนุนภารกิจจิตอาสาพระราชทาน เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์

การตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร ได้รับการประสานงานและสนับสนุนในเรื่องต่างๆ อาทิ การปรับปรุงอาคารเย็บผ้า การจัดหาเครื่องมือเครื่องจักรเย็บผ้าให้ถูกต้องตามมาตรฐาน การฝึกหัดตัดเย็บจากภาคเอกชน จากบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท สยามแฮนด์ส จำกัด และบริษัท เบ็ทเทอร์แบ็ก จำกัด และได้เริ่มจัดให้มีการฝึกอบรม เรียนรู้การตัดเย็บมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมการฝึกและประจำศูนย์ รวม 30 คน โดยได้ค่าจ้างเท่ากับแรงงานขั้นต่ำ

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นประธานเปิดศูนย์ส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร เพื่อความเป็นสิริมงคลของสมาชิกผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ต่องานด้านจิตอาสา เกิดการจ้างแรงงาน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เกิดความรักในอาชีพ มีความสามัคคีร่วมกันทำงานด้านจิตอาสาให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคมอย่างยั่งยืนสืบไป ดังพระราชปณิธานที่พระราชปรารถนาให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข

นายญางค์วรุตม์ ไวศยภักดีกุล อายุ 33 ปี พนักงานจักรเย็บผ้า กล่าวว่า เดิมทีฝึกงานเป็นเจ้าหน้าที่นำชมในพระบรมมหาราชวัง มีญาติผู้ใหญ่ แนะนำให้มาฝึกงานส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร ซึ่งช่วงโควิด-19 ระบาด ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้โอกาสครอบครัวข้าราชบริพาร ให้เข้ามาเรียนรู้วิชาชีพแผนกตัดเย็บ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความรู้ ทำได้แค่เย็บกระดุมเสื้อ พอได้เข้ามาฝึกงานที่ศูนย์แห่งนี้ ก็ได้ไปฝึกฝนทักษะต่างๆ ในโรงงานเสื้อแตงโมและโรงงานเบ็ทเทอร์แบ็ก จากนั้นมาหัดทำงานเย็บผ้าต่อ ซึ่งงานแรกคือการทำหมวกและผ้าพันคอ เป็นงานที่อาศัยความประณีตในทุกขั้นตอน เพราะทุกคนทราบว่าสิ่งนี้จะเป็นของพระราชทานแก่ผู้มาทำหน้าที่จิตอาสา เป็นของที่มีคุณค่า ถือได้ว่านอกจากการฝึกอาชีพแล้วยังเป็นการได้ทำงานที่มีเกียรติ

“ผมรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่พระราชทานศูนย์ส่งเสริมอาชีพฯ ขึ้นมา เพราะนอกจากช่วยให้ผมมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวแล้ว ผมยังรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดเย็บหมวกจิตอาสา เพราะเป็นงานที่พวกเราทุกคนล้วนตั้งใจทำด้วยความประณีตเพื่อให้หมวก หรือผ้าพันคอที่เป็นเครื่องแบบประจำกายของจิตอาสาพระราชทาน ดูสวยงามสมพระเกียรติองค์ ผู้ก่อตั้งมากที่สุด” ญางค์วรุตม์ กล่าว

ด้าน นางปราณีต เพียซ้าย อายุ 55 ปี พนักงานจักรเย็บผ้า กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยรับจ้างทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เจอพิษโควิด-19 ทำให้ถูกเลิกจ้างไปชั่วคราว แต่ได้รับโอกาสอีกครั้งเมื่อลูกมาบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวที่ว่างงานได้มีอาชีพและรายได้ จึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกในทันที ซึ่งตัวเองก็พอจะมีฝีมือการเย็บปักถักร้อยอยู่บ้าง แต่พอได้เข้าไปเรียนรู้การตัดเย็บหมวกที่โรงงานอย่างจริงจัง จึงทำให้รู้ว่ากว่าที่จะได้หมวกจิตอาสามาแต่ละใบนั้นต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน

“ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งศูนย์ส่งเสริมอาชีพครอบครัวข้าราชบริพาร ซึ่งการปฏิบัติงานแต่ละวันทุกคนจะเข้ามาเรียนตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยมีครูมาสอน ได้รับพระราชทานอาหารทั้งสามมื้อ และเงินเบี้ยเลี้ยงรายวันคนละ 331 บาท สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเขตพระราชฐานวิภาวดี ก็มีรถรับ-ส่ง เพื่อให้เดินทางสะดวก ช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรายังได้นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอบรม มาต่อยอดได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซม ตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่เอง หรือรับจ้างเย็บผ้าทั่วไปได้อีกด้วย”