วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ยังตราตรึงอยู่ในความ…คิดถึง

ยังตราตรึงอยู่ในความ…คิดถึง

วันเสาร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีประพันธ์
  •  

คนสมัยก่อนมีความสุขสงบในใจมากมีเวลาชื่นชมความงดงามของพระจันทร์ มีเวลาคิดถึงคนรักเมื่อมองพระจันทร์ แต่โลกเราทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปมาก คนจำนวนไม่น้อยยุ่งกับเรื่องราวต่างๆ จนลืมความงามของพระจันทร์ดวงเดิม 

แนวหน้าวาไรตี้ โดย ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย จะพาคุณไปหวนรำลึกถึงความงดงามของบทเพลงชื่อ คิดถึงโดยผ่านมุมมองของ ดร.กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา หลานชายท่านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผู้ประพันธ์เพลงคิดถึง   


l ชื่อเพลงที่ท่านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีประพันธ์ ชื่อคิดถึง ใช่ไหมครับ เพราะหลายคนเรียกชื่อเพลงว่าจันทร์กระจ่างฟ้า ก็มี 

คุณกรวิช : ใช่ครับ ชื่อเพลงคิดถึงครับผมเน้นตามที่คุณพ่อเล่าให้ฟังนะครับ คุณปู่ใช้คำว่าคิดถึง คำสั้นๆ แต่ได้ใจความลึกซึ้ง

l เวลาฟังเพลงนี้แล้ว มีจินตนาการชัดมากคือ เห็นดวงจันทร์ลอยเด่นกลางฟ้า เห็นดาวระยิบระยับพราวฟ้า เลยนะครับ

คุณกรวิช : ครับ เห็นภาพตามเนื้อร้องเลยครับ ผมเข้าใจว่าคุณปู่ท่านมีความรู้หลากหลายด้านโดยเฉพาะด้านศิลปะ ท่านเป็นคนที่คิดลึกซึ้งมากผมเองศึกษาความคิดของท่านผ่านบทประพันธ์ต่างๆ และบทเพลงแล้วพยายามค้นหาว่าทำไมท่านจึงลุ่มลึกมาก มากเสียจนหลายครั้งผมอาจไม่ค่อยเข้าใจในบางเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านมีความโดดเด่นคือท่านใช้คำได้สวยงามมาก สละสลวยงดงาม บางคำที่ท่านใช้นั้น เราต้องตีความว่าท่านซ่อนอะไรไว้หรือไม่ บทประพันธ์เพลงคิดถึงนั้นเมื่อเรานำมาลงโน้ตดนตรีแล้วแสนจะงดงามลงตัว ให้บรรยากาศที่แสนโรแมนติก ฟังแล้วมีความคิดถึงโดยทันที ในฐานะนักร้อง ผมร้องเพลงนี้แล้วเห็นภาพตามเนื้อเพลงชัดเจนมาก ต้องยอมรับว่าคุณปู่ท่านมีแรงบันดาลใจในการประพันธ์ที่ลึกซึ้งครับ 

l ขอเรียนถามว่า เคยได้เกร็ดประวัติต่างๆจากลูกหลานของท่านเจ้าพระยา บ้างไหมครับว่าในช่วงที่ท่านประพันธ์เพลงนี้ ท่านอยู่ในช่วงอารมณ์แบบไหน อยู่ในบรรยากาศอย่างไร 

คุณกรวิช : ผมเคยสัมภาษณ์คุณพ่อและคุณป้าเมื่อนานมาแล้ว ท่านเล่าให้ฟังว่าคุณปู่ประพันธ์เพลงนี้เมื่อ พ.ศ. 2477 แล้วช่วงที่ผมทำปริญญาเอกด้านดนตรี ผมก็ทำวิจัยบทประพันธ์นี้ด้วย ความรู้ที่ผมได้จากคุณพ่อคือ คุณปู่ท่านน่าจะได้ฟังทำนองเพลงนี้จากครูเม เอื้อเฟื้อ นักไวโอลินประจำวงหัสดนตรี กองทัพบก ครูเมคงขอให้คุณปู่แต่งเนื้อร้องให้เพื่อจะนำเพลงไปประกอบละครเวที แต่ผมยังค้นหาไม่พบว่าละครเวทีเรื่องใด ซึ่งคงต้องค้นคว้าต่อไป ส่วนทำนองเพลงนี้มาจากผลงานของ Pablo de Sarasate ชาวสเปน ที่แต่งประมาณ ค.ศ. 1873 เพลงนี้มีหลายท่อนหลายกระบวน โดยทำนองที่ท่านนำมาประพันธ์เพลงนี้มาจากกระบวนที่ 3 จังหวะอูลโปโก พิวเรนโต ที่ค่อนข้างช้า ทำนองไพเราะสวยงามมาก ฟังแล้วติดหูง่าย แต่บางคนตั้งคำถามว่าเพลงนี้มาจาก Gypsy Moon หรือเปล่า ก็น่าคิดนะครับ แต่เมื่อศึกษาลงไปแล้วจะพบว่า Gypsy Moon เป็นเพลงของ David Whitfield นักร้องเสียงเทเนอร์ ชาวอังกฤษ แต่ทว่าเพลงของ Whitfield นี้ แต่งหลังจากที่คุณปู่ประพันธ์เพลงนี้มาแล้วเกือบ 30 ปี ซึ่งก็ไม่น่าที่คุณปู่จะประพันธ์เพลงนี้เพราะได้ยินเพลง Gypsy Moon แต่ผมค้นหาต่อไปแล้วพบว่าคุณปู่อาจจะได้แรงบันดาลใจบางอย่างจากการได้ฟังเพลงของนักร้องเสียงเทเนอร์ชาวเยอรมัน ชื่อ Richard Tauber ซึ่งมีความโด่งดังมาในยุคใกล้เคียงกับคุณปู่ โดย Tauber บันทึกเสียงเพลงนี้ประมาณปี ค.ศ. 1928 ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับช่วงที่คุณปู่ประพันธ์เพลงคือปี ค.ศ. 1934ผมเชื่อว่าคุณปู่น่าจะเคยฟังเพลงของ Tauberที่ขับร้องโดยใช้ชื่อดั่งเดิมที่ Sarasate ประพันธ์ไว้คือ Zigeunerweisen (ซิกกอยเนอร์ไวเซน) แปลว่าสำเนียงแห่งยิปซี แล้วผมก็พยายามค้นต่อไปว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์บ้างไหมแต่ตอนนี้ยังหาไม่พบครับ คงต้องค้นต่อไปโดยต้องไปค้นหาจากต้นฉบับภาษาเยอรมัน แต่เท่าที่เคยพบมาบ้างก็มีการระบุในวงเล็บว่าhand in hand ซึ่งคงต้องไปค้นคว้าต่อให้ละเอียดกว่านี้ครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องบอกยังหาข้อสรุปชัดเจนว่าคุณปู่ได้แรงบันดาลใจจากเพลงของ Tauber หรือเปล่า แต่ผมคิดเองว่าเพลงนี้น่าจะพยายามถ่ายทอดให้เห็นภาพว่าเวลาคนยิปซีเดินทางรอนแรมไปในที่ต่างๆ ในยามค่ำคืนเมื่อเห็นพระจันทร์หรือเห็นท้องฟ้าแล้ว เขาพยายามถ่ายทอดอะไรออกมาให้คนอื่นรับทราบ แต่คุณปู่ท่านคงจะมีจินตนาการเกี่ยวกับพระจันทร์ตามความรู้สึกของท่านด้วย ท่านจึงประพันธ์เพลงคิดถึงออกมา ซึ่งเรื่องของการมีจินตนาการเกี่ยวกับพระจันทร์นั้นคงมีในคนทุกยุคทุกสมัย ที่นี่มาพูดถึงเนื้อเพลงคิดถึงของคุณปู่ท่านประพันธ์ จันทร์กระจ่างฟ้า นภาประดับดาวไม่มีคำว่าด้วย แต่ในภายหลังมีคำว่าด้วยปรากฏก็ไม่ใช่ความผิดอะไร เพราะเมื่อใส่คำร้องลงในโน้ตเพลงแล้วมันก็ลงตัว แต่ที่ผมทราบคือคุณปู่ท่านเห็นว่านภาประดับดาวมีความลงตัว และชัดเจนมาก แล้วเวลาร้องก็สามารถเอื้อนได้ลงตัว ให้ความหมายชัดว่ามีพระจันทร์กระจ่างฟ้า แล้วนภาก็มีดาวประดับ ส่วนอีกช่วงหนึ่งคือ โลกสวยราวเนรมิต ประมูลเมืองแมน คำว่าประมูลอาจทำให้หลายคนงงและสงสัย แต่ปรากฏว่าเมื่อผมสอบถามจากผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ก็ได้รับคำตอบว่า ประมูลคือการแข่งขัน การเปรียบเทียบกันโดยไม่ได้หมายความถึงการประมูลสินค้าเช่นทุกวันนี้ คนสมัยก่อนเขาบอกว่าเวลาประมูลกันคือการแข่งขันกัน หรือการเปรียบเทียบกันเพราะฉะนั้นคำว่าประมูลเมืองแมนก็คือโลกของเราสวยงามเทียบเทียมได้กับเมืองแมนสรวงสวรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นการเปรียบเทียบที่แสนจะไพเราะ มีศิลปะมาก ผมสามารถยืนยันได้ว่าทางสายตระกูลของเรา ร้องว่าประมูลเมืองแมนมาโดยตลอดครับ แต่ว่าหากใครจะร้องว่าประมวลเมืองแมน เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ แต่ว่าความชอบของแต่ละคน

l เวลาร้องเพลง คิดถึง ตามแบบที่คุณกรวิชร้องแบบนี้เรียกว่าร้องแบบคลาสสิก ใช่ไหมครับ  

คุณกรวิช : ครับผม ใช่ครับ เป็นการร้องเพลงในรูปแบบหนึ่งที่เราพยายามไปค้นคว้าแล้วนำมาปรับให้มีความใกล้เคียงกับการร้องในสมัยที่คุณปู่ประพันธ์เพลงนี้เมื่อกว่า 80 ปีมาแล้ว ผมศึกษาว่าในยุคนั้น เพลงที่นิยมร้องจะมีลักษณะเช่นไร ถ้าเราย้อนกลับไปต้นฉบับของเพลงคิดถึง ที่ผมอ้างถึงคือเพลงที่ชื่อว่าซิกกอยเนอร์ไวเซน เป็นภาษาเยอรมัน ซึ่งผู้ที่บันทึกเสียงในแผ่นเสียงคือ Richard Tauber ร้องด้วยเสียงเทเนอร์ ซึ่งอยู่ในยุคใกล้กับช่วงต้นของ 1900 เวลานั้นเทคนิคการบันทึกเสียง และระบบไมโครโฟนยังไม่ดีเท่าสมัยนี้ การร้องเพลงในคอนเสิร์ตนั้นบางทีไม่มีไมโครโฟน ต้องออกเสียงกันสดๆต้องใช้เทคนิคการร้องในลักษณะ projectเสียงให้ชัดเพื่อให้คนในโรงละครได้ยินทุกคนเมื่อผมมาทำปริญญาเอกด้านบทเพลงนี้จึงตัดสินใจร้องโดยใช้เทคนิคการร้องให้ใกล้เคียงกับช่วงที่คุณปู่ประพันธ์บทเพลงนี้คือเลือกใช้เทคนิคการร้องแบบคลาสสิก ช่วงสุดท้ายของเพลงจะสังเกตได้ว่า ผมใช้เทคนิคแบบคาเดนซา คือร้องด้วยเสียงสเกลสูงเพื่อแสดงความสามารถของนักร้องซึ่งเป็นวัฒนธรรมการร้องเพลงปลายยุค1800 ถึงตอนต้นยุค 1900 ครับ คือช่วงก่อนจบเพลง เขาเปิดโอกาสให้นักร้องแสดงฝีมือว่าสามารถร้องเสียงสูงได้ขนาดไหนสามารถร้องโน้ตได้มากแค่ไหน เป็นวัฒนธรรมเป็นลูกเล่นในยุคนั้น เพราะว่าเพลงซิกกอยเนอร์ไวเซน เป็นเพลงยุคโรแมนติก ยุคโรแมนติกนั้นการร้อง การเล่นเครื่องดนตรีเดี่ยวต่างๆ ก่อนจบเพลงนั้น เขาต้องมีการโปรยเรียกเทคนิคคาเดนซา เป็นการแสดงความสามารถของนักร้อง นักดนตรีว่าคุณเล่นได้เร็วแค่ไหน เล่นได้สูงแค่ไหน เสียงคุณดีขนาดไหน ปล่อยของกันตรงนั้นเลย ผมจึงเอามาใส่ด้วย เพื่อให้เข้ากับเพลง เพลงที่ผมนำมาเสนอนั้นมีการบรรเลงเดี่ยวด้วยไวโอลิน ซึ่งนักไวโอลินต้องฝีมือดีมากๆ เพราะเป็นการโชว์ความสามารถของนักดนตรี

l เวลาร้องเพลงคิดถึง คุณกรวิชนึกถึงอะไรมากที่สุดครับ คิดถึงอะไรเกี่ยวกับท่านเจ้าพระยาบ้างครับ 

คุณกรวิช : ผมคิดว่าสังคมปัจจุบันคนส่วนมากไม่ค่อยมีความสงบในจิตใจเหมือนคนสมัยก่อน เวลาผมร้องเพลงนี้ผมรู้สึกอิจฉาคนสมัยก่อน เพราะเห็นว่าเขาไม่ต้องกังวลเรื่องทำมาหากินมากนัก และอาจไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเมืองเท่าสมัยนี้ แม้ในช่วงนั้นมีประเด็นการเมืองบ้างก็ตาม ผมเชื่อว่าคนในยุคนั้นไม่มีความวิตกกังวัล ความเครียดเท่ากับคนยุคนี้เพราะฉะนั้นบทเพลงใดๆ ก็ตามที่ประพันธ์ในยุคนั้นจึงมีความสละสลวย ไพเราะ เรี่ยมเร้เรไร ใช้ภาษาได้วิจิตรงดงาม ลองคิดดูสิครับ คนในยุคของเรานี้สักกี่คนที่จะมีเวลานั่งมองดูความงามของพระจันทร์แล้วเกิดความรู้สึกตามที่บ่งบอกในเนื้อเพลงผมว่าคนยุคนี้หาเวลาแห่งความสงบได้ยากกว่าคนยุคเก่าครับ แม้ว่าความงามจะยังคงมีอยู่เหมือนเดิม แต่ปัญหาคือเราไม่มีเวลา และไม่สงบพอที่จะนั่งชมความงามได้ บางคนนั้นกว่าจะเลิกงานก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว หมดแรงหมดเวลาจะชื่นชมกับความงามที่อยู่รอบตัวได้คนสมัยก่อนเวลามองพระจันทร์แล้วคิดถึงคนรักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ณ ตรงนี้ ผมเห็นว่าโลกมันเปลี่ยนไปมาก เรายุ่งกับชีวิตของเรามากไปจนลืมความงามในใจของเรา ทั้งๆ ที่พระจันทร์ก็ยังเป็นดวงเดิม แต่ความรู้สึกเปลี่ยนไปมาก และผมก็นึกชื่นชมความสามารถในการเลือกใช้คำประพันธ์ได้อย่างกินใจมากเหลือเกินครับ ผมชอบเนื้อร้องท่อนที่ว่า หากน้องอยู่ด้วย และช่วยชมเดือน โลกจะเหมือนเมืองแมน แม่นแล้วนวลเอย ท่อนนี้แสดงถึงความเปลี่ยวเปล่าของผู้ประพันธ์อย่างชัดเจน แล้วเวลาร้องเพลงก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกในท่อนนี้ได้เต็มที่ครับ

คุณจะได้พบกับรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการแนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN 2 ช่อง 784ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube แนวหน้าวาไรตี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

หงส์เปิดบ้านฉลองแชมป์ลีก!เช็คเงื่อนไขล่าตั๋วยูซีแอลนัดสุดท้าย

‘ชวน-นิพนธ์’นำ‘คณะผู้แทนไทย’ดูงานเทคโนโลยีโดรนจีนที่‘เฉิงตู’

‘โฆษก รทสช.’เตรียมเคาะขุนพล‘อภิปรายงบ 69’ แนะฝ่ายค้านไม่ฉวยโอกาสซักฟอก

พบศพทารกจิ๋ว! คาดอายุ3เดือนถูกทิ้งข้างถังขยะ ใกล้คอนโดย่านลำลูกกา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved