“Sakai Shitaro” เป็นผู้เขี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ชื่อดังคนหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง โดยเฉพาะในอาการเจ็บสะโพก คอ ไหล่ เข่าและอาการบาดเจ็บอันเกิดขึ้นจากการเล่นกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากผู้ป่วยเสมอมา วันนี้เมื่อเขาจับปากกา มาเขียนเรื่องเกี่ยวกับความรอบรู้ของเขา ในหนังสือชื่อ “ข้อเข่า-เสื่อม รักษาหายได้ด้วยตนเอง” ผลงานของเขาจึงได้รับการต้อนรับไปในหลายประเทศ สำหรับในประเทศไทย “ภัทรสร คูร์พิพัฒน์” แปลออกมาเป็นภาษาไทยให้ได้อ่านกัน
“ข้อเข่า-เสื่อม รักษาหายได้ด้วยตนเอง” จำหน่ายในราคาเล่มละ 145 บาท เนื้อหาจะบอกให้ทราบถึง การรักษาข้อเข่าเสื่อม แบบไม่ต้องผ่าตัดหรือเข้าโรงพยาบาล เพียงแค่ใส่ใจตัวเอง ลงมือปฏิบัติทำกายบริหารเพียงวันละ 5 นาที โรคข้อเข่าก็จะไม่กล้ำกลายมาเป็นให้เกิดความรำคาญอีก
“Sakai Shitaro” ยืนยันว่า ข้อเข่าเสื่อมสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง และความเชื่อที่ว่า โรคข้อเข่าจะเป็นเมื่อย่างเข้าวัยสูงอายุ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะข้อเข่าจะเสื่อมได้ตลอดเวลาในทุกแพทย์ทุกวัย สำหรับคนที่อยู่ในสภาวะดังนี้ พวกที่นั่งทำงานด้วยการงอเข่าอยู่ทั้งวัน, และนักกีฬาที่ต้องใช้สภาวะของการงอเข่าเป็นปัจจัยหลักในการเครื่องไหว คนที่ต้องอยู่ในสภาวะเหล่านี้ โอกาสของการจะทำให้ข้อเข่าเสื่อมจนทำให้เกิดมีเสียงกรอบแกรบเกิดได้กับทุกคน แล้วอาการก็ลุกลามต่อไปจนถึงขั้นเจ็บปวด เดินลำบาก ยืดแข้งยืดขาครั้งไรก็จะมีอาการปวดเจ็บเข้ามาแทรกซ้อน
ในหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงสภาวการณ์ก่อนที่ความเสื่อมข้อเข่าจะเกิดขึ้น และบอกให้ทราบถึงแนวทางในการปฏิบัติด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อปกป้องมิให้เกิดอาการข้อเข่ารุกคืบต่อไป โดยมีภาพประกอบและคำอธิบายที่บอกเอาไว้อย่างละเอียด เข้าใจง่าย ทำเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาให้ใครคอยเป็นผู้ช่วยเหลือ
สิ่งสำคัญที่สุด ที่ “Sakai Shitaro” อยากบอกให้ทุกคน จดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า “ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มีโอกาสข้อเข่าเสื่อมถึง 1 ใน 3” อาการข้อเข่าเสื่อมไม่ได้เกิดจากอายุเท่านั้น แต่ยังเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย และ สุดท้าย จำไว้ จำไว้ “ระวัง อย่าปล่อยให้อาการข้อเข่าเสื่อมบานปลาย หันมาดูแลตัวเองแต่เนิ่นๆ ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่า”
ดึงเอาความสวยเริ่ดในตัวเองออกมาให้ปรากฏ บุคลิกภาพดูดี ย่อมมีโอกาสชนะใจ ทำอะไรก็ชนะ
“Look Good ดูดี ชนะใจ ทำอะไรก็ชนะ”เป็นหนังสือ ประเภท ฮาวทู ที่จะบอกให้รู้ถึงความสำคัญในเรื่องของบุคลิกภาพ ซึ่งมีอยู่ในตัวตนของคนทุกคน เพียงแค่ว่าใครจะนำเอาออกมาใช้ได้อย่างไร เขียนโดย “อ.เอ๋” อภัยลักษณ์ ตันตระบัณฑิตย์” โค้ชมืออาชีพด้านการปรับบุคลิกภาพชื่อดังระดับต้นๆ ของเมืองไทย โดยจะถ่ายทอดเคล็ดลับที่เจ้าของตัวตนยังมองไม่เห็นตัวตนของตัวเอง ออกมาให้ได้รับรู้กันซึ่งผู้เขียนยืนยันว่า เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แบบว่า ไม่มีใครจะเชื่อว่า ตัวเองสวยเริ่ดได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ จำหน่ายในราคาเล่มละ 249.00 บาท โดยสำนักพิมพ์ I AM THE BEST
เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของคนทุกคน งานเขียนชั้นดีช่วยปลอบโยนและให้กำลังใจ
“I Decided to Live as Myself” เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่จะทำให้คนที่กำลังห่อเหี่ยว ท้อแท้ สิ้นหวัง ปวดร้าว หมดสิ้นกำลังใจจะก้าวเดินไปอีกแล้ว ให้กลับมามีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปอย่างมีความมั่นใจเต็มร้อย เขียนโดย นักเขียนสาวชาวเกาหลี “คิมซูฮยอน”ซึ่งเป็นเล่มที่ 4 แล้ว ที่หนังสือของเธอได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้อ่าน แม้แนวทางจะเป็นเพียงการชี้แนะแนวทางที่ดีของชีวิตให้กับคนทุกคน ซึ่งใครๆ ก็อาจจะหาอ่านจากที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับงานเขียนของสาวเกาหลีผู้นี้ไม่ธรรมดาเป็นงานเขียนชั้นดีที่จะช่วยปลอบโยนและให้กำลังใจ แนะแนวทางการใช้ชีวิต บอกเล่าเรื่องราวของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข แปลโดย พัชรางสุ์ ราคา 319.00 บาท ของ สำนักพิมพ์ แจ่มใส
มนุษย์มหัศจรรย์ ก็แม่นี่แหละ การเลี้ยงลูกเชิงบวกของคุณหมอแม่
“หมอแอน” ประภัสสร ปรีชาวิบูลย์ คุณหมอและนักเขียนบล็อกในเว็บ Baby.CO.TH ซึ่งรับบทเป็นทั้งคุณแม่และคุณหมอในเวลาเดียวกัน นำเสนอผลงาน เรื่องราวของความเป็นแม่ ไว้ในหนังสือชื่อ “มนุษย์มหัศจรรย์ ก็แม่นี่แหละ”บอกกล่าวให้ คุณแม่ทั่วๆ ไปได้มองเห็น ความสำคัญของคนเป็นแม่ที่ต่อลูกๆ โดยคุณหมอมีเป้าหมายอยากจะมาแชร์ในฐานะแม่ ให้มนุษย์แม่ด้วยกันได้อ่าน ได้นำไปปรับใช้ เลี้ยงดูมนุษย์ลูกทั้งหลายให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนคุณภาพ โดยภาพที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมจะมองเห็นได้ว่า แนวทางที่คุณหมอแม่นำมาชี้แนะเอาไว้ทั้งหลายทั้งปวงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางการเลี้ยงลูกเชิงบวกของคุณหมอแม่ทั้งสิ้น ราคา 198.00 บาท โดยสำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น
แล้ววันนี้ของ เสี่ยวเยาก็มาถึง เหล่าผู้เฒ่าหาวิธีป้องกันกันจ้าละหวั่น
“สัประยุทธ์ทะลุฟ้า” นิยายจีนกำลังภายใน ผลงานของ เทียนฉานกู่โต้ว” แปลเป็นไทยโดย “ลี หลินลี” มีบางช่วงบางตอนในเล่มที่ 24 ซึ่งน่าสนใจว่า เรื่องจะดำเนินเดินหน้าต่อไปอย่างไร ในเมื่อเด็กน้อยไร้ฝีมือที่ไม่เคยมีใครคาดหวังจะว่าจะมีวันนี้ เมื่อ เขากำลังกลายเป็นสายล่อฟ้าที่จะนำภัยพิบัติเข้าสู่มาตุภูมิแล้ว ดังตัวอย่าง “น่าเสียดายนัก เมืองเทียนหยา ปรากฏผู้แกร่งกล้าระดับชั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไร เสี่ยวเยาเจ้าเด็กคนนี้ นับวันยิ่งเอาใหญ่ เห็นทีต้องอบรมให้หนักขึ้น ไม่เช่นนั้นเผลอไปสะกิดโทสะคู่ต่อสู้ฝีมือฉกาจเข้าจะนำภัยมาสี่ตระกูลหลัวได้” ช่วงหนึ่ง เมื่อความกังวลเริ่มเกิดขึ้นกับผู้ปกครองของ เสี่ยวเยา ที่เห็นว่า มีมือของเด็กน้อยผู้นี้ มิอาจจะยับยั้งให้อยู่ในกรอบได้อีกแล้ว แล้วจากนี้ พวกเหล่าผู้เฒ่าจะทำอย่างไร และจะทำได้สำเร็จหรือไม่ หาอ่านได้ในเล่มที่ 24
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี