สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ภายใต้การนำของ เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ เดินหน้ามุ่งสู่การเป็นผู้นำเรื่องความยั่งยืนในธุรกิจกาแฟ ประกาศพันธกิจที่จะใช้ทรัพยากรในเชิงบวก (resource positive) หรือคืนทรัพยากรให้กับโลกมากกว่าที่ใช้ไป เพื่อร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา โดยสตาร์บัคส์ได้กำหนดเป้าหมายไว้ 3 เรื่องหลัก คือ การควบคุมดูแลปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากกว่าปริมาณที่ปล่อย การฟื้นฟูน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำสะอาดให้มากกว่าที่ใช้ไป และการช่วยลดปริมาณขยะ
เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่แบรนด์สตาร์บัคส์ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 49 ปี ที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เราเชื่อว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทั้งบริษัท พาร์ทเนอร์ และลูกค้าของเราต่างมีจุดมุ่งหมายร่วมกัน การที่เราจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน
ในอนาคตได้นั้น เราต้องลงทุนทั้งด้านเวลาและเงิน รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรม ตลอดจนสร้างพันธมิตรใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อร่วมกันปกป้องโลกของเรา เพราะเราเชื่อมั่นว่าพันธกิจใหม่นี้ ไม่เพียงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เราทุกคนพึงกระทำ สำหรับ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย นั้นเราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความมุ่งมั่นเรื่องสิ่งแวดล้อมเรื่อยมา ตั้งแต่การรณรงค์เรื่องการใช้แก้วส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบส่วนลด 10 บาท แก่ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านตั้งแต่เราเริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อ 20 ปีมาแล้ว การใช้ถุงกระดาษ และกระดาษแบบรีไซเคิลตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ การสร้างร้านกาแฟสีเขียว และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ เพื่อช่วยลดการใช้หลอดพลาสติกกว่า 39 ล้านชิ้นต่อปี”
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ ได้ตั้งเป้าว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า บริษัทจะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 50% ลดการใช้น้ำในการดำเนินธุรกิจและในการผลิตกาแฟให้ได้ 50% โดยอาศัยการอนุรักษ์และฟื้นฟูน้ำสู่สภาพเดิม และลดจำนวนขยะที่นำไปฝังกลบให้ได้ 50% สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยการดำเนินงานหลักซึ่งได้แก่ การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รียูส การเพิ่มการลงทุนในด้านการปลูกและอนุรักษ์ป่า การคิดค้นวิธีการจัดขยะที่ดีกว่าเดิม และการสร้างร้านกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรในบรรลุพันธกิจทางสิ่งแวดล้อม ดังนี้ สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมไปถึงเครื่องดื่มและอาหารจากพืชเพื่อส่งมอบเมนูที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในปี พ.ศ.2541 สตาร์บัคส์ ได้รณรงค์และเชิญชวนให้ลูกค้าหันมาพกและใช้แก้วส่วนตัวเสมอมา นับเป็นเวลากว่า 20 ปี ในการรณรงค์ลดการใช้แก้วที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยเราได้มอบส่วนลด 10 บาทให้กับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้าน และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบันสตาร์บัคส์และลูกค้าในประเทศไทยได้ร่วมกันลดการใช้แก้วกระดาษและพลาสติกไปแล้ว 15.6 ล้านใบ เฉลี่ยปีละ 1.9 ล้านใบ
หรือตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% และได้มุ่งมั่นพัฒนาทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่ดีที่สุด และคุ้นเคยแก่ลูกค้า ล่าสุด สตาร์บัคส์ได้เริ่มใช้หลอดพลาสติก polylactic acid (PLA) สีเขียวสตาร์บัคส์ ผลิตจากวัสดุทรัพยากรที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (renewable resources) อาทิ อ้อย และข้าวโพด และเมื่อเดือนสิงหาคม สตาร์บัคส์ได้เริ่มใช้แก้วที่มีฝาแบบยกดื่มได้โดยไม่ต้องใช้หลอดสำหรับเครื่องดื่มทั้งเมนูร้อนและเย็น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยลดการใช้หลอดพลาสติกกว่า 39 ล้านชิ้นต่อปี
ซีอีโอหญิงเก่งแห่งสตาร์บัคส์ กล่าวอีกว่า สตาร์บัคส์ มุ่งมั่นพัฒนาร้านสาขาภายใต้แนวคิด “ร้านกาแฟสีเขียว” อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยร่วมมือกับองค์กรที่สนับสนุนการสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง U.S. Green Building Council® เพื่อสร้างระบบการรับรองร้านค้าหรือ มาตรฐาน LEED® (Leadership in Energy and Environmental Design) ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มี “ร้านกาแฟสีเขียว” ที่ได้รับรองมาตรฐานดังกล่าวถึง 50 สาขา อาทิ สาขาพอร์โต ชิโน่ (ผ่านมาตรฐานระดับ Gold), สาขาคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ระดับ Silver) และ สาขาเมกา บางนา (ระดับ Certified)
นอกเหนือจากการออกแบบและสร้างร้านสีเขียวแล้ว สตาร์บัคส์ ยังให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะ โดยในปี พ.ศ.2555 ได้ริเริ่มโครงการในความร่วมมือกับ ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์และนักออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมชื่อดังของไทย จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อพัฒนาการนำกากกาแฟที่ใช้แล้วภายในร้านสตาร์บัคส์มาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ (โต๊ะ) รีไซเคิล และนำไปใช้จริงที่ร้านสตาร์บัคส์ สาขาเมกา บางนา เป็นสาขาแรก และขยายต่อไปอีกกว่า 280 สาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงการผลิตถาดและที่รองแก้วที่ทำจากกากกาแฟด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธกิจทางสิ่งแวดล้อมของสตาร์บัคส์ โดยคลิกเข้าไปที่ https://stories.starbucks.com/stories/sustainability/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี