เมื่อพูดถึง “ความแก่” เชื่อว่าหลายๆ คนคงไม่อยากเผชิญ แต่ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การชะลอความแก่หรือความเสื่อมให้ช้าลงนั่นเอง
แพทย์หญิงอนงนุช ชวลิตธำรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Addlife Medical Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักของความแก่ ก็คือ สารอนุมูลอิสระ หรือ Free radical ซึ่งเป็นสารที่ขาดอิเล็กตรอน เลยไม่เสถียร ต้องมาแย่งอิเล็กตรอนจากเซลล์ปกติ ทำให้เซลล์เราเสื่อม เป็นโรคร้าย เป็นมะเร็ง ผิวหนังเหี่ยวย่น เป็นต้น ดังนั้น การแก้ความแก่มี 2 วิธีหลักๆ ก็คือ ต้องทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระน้อยลงทั้งจากภายใน ได้แก่ อาหาร (ไม่รับประทานหวาน มัน เค็ม แปรรูป) เลี่ยงความเครียด เสี่ยงติดเชื้อ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และจากภายนอก ได้แก่ มลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 อาหารและน้ำปนเปื้อนสารพิษโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง รังสี UV จากแสงแดด เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก
วิธีที่ 2 เป็นวิธีที่ควรเน้น คือ การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถทำได้โดยการให้สารอาหารช่วยชะลอความแก่ (เสื่อม) ได้แก่ Vitamin C มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวใสเต่งตึง พบในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะขามป้อมฝรั่ง เป็นต้น Vitamin E ช่วยปกป้องไขมันจากการถูกOxidized ช่วยลดการเกิดหลอดเลือดอุดตัน ซึ่ง Vitamin E มีหลายฟอร์ม เช่น Alpha tocopherol, Gamma tocopherol ในธรรมชาติ พบมากในอาหารจำพวกธัญพืช จมูกข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน ดอกคำฝอย
Vitamin A สำคัญสำหรับภูมิคุ้มกัน การมองเห็น สายตาและผิว วิตามินเอละลายในไขมันจึงพบในน้ำมันตับปลา เครื่องใน ไข่แดง นม ผักสีส้มเหลือง เขียวเข้ม เช่น แครอท ฟักทอง ผักโขม เป็นต้น Astraxanthin เป็นสาร carotenoid สร้างจากสาหร่ายสีแดง คือสารสีแดงที่พบในอาหารทะเลกุ้ง ลอบสเตอร์ แซลมอน Coenzyme Q10 ร่างกายสร้างเองได้บางส่วน แต่เมื่ออายุมากขึ้น ก็สร้างได้ลดลง มีหน้าที่ช่วยขนส่งอิเล็กตรอนในกระบวนการสร้างพลังงานระดับเซลล์ซึ่งจำเป็นสำหรับเซลล์หัวใจ เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย โคเอนไซม์คิวเทน พบในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ ปลา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่ อยู่ในอาหารที่เป็นผัก ผลไม้ ซึ่งเราต้องรับประทานให้มากเพียงพอที่จะป้องกันความแก่ เช่น รับประทานสลัดผักให้ได้ 5-7 จานต่อวัน และต้องรับประทานให้หลากหลายชนิด ดังนั้น การรับประทานจากอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องได้รับในรูปแบบอาหารเสริม แต่ก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้รับปริมาณที่เหมาะสม และไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี