เหตุผลที่ใครจะหยิบหนังสือมาอ่านสักเล่ม เชื่อได้เลยว่า ย่อมไม่เหมือนกัน และเชื่อได้อีกเหมือนกันว่าจะต้องมีหลายคนที่มีเหตุผลอันคาดคิดไม่ถึง
ตอนนี้กำลังเป็นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 25 จัดอยู่ที่ เมืองทองธานี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 11 ใครที่ยังไม่ได้ไปเดินดู ยังมีเวลาให้ตัดสินใจอีกหลายวัน
กลับมาพูดถึงเหตุผลในการหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน สำหรับผม จะไม่มีความแน่นอน ตายตัว แต่จะมองถึงปูมหน้า และปูมหลัง ของหนังสือแต่ละเล่มเนื่องจากผมไม่ได้อ่าน เพื่อความบันเทิง หรืออ่านเพื่อความรู้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เราจะต้องอ่าน “เพื่อการทำงานด้วย” หมายถึงว่า อ่านเพื่อนำมาเขียนเป็นบทความ ดังนั้น การหยิบหนังสือเรื่องใดขึ้นมา “เพื่ออ่าน” จะต้องมองลึกลงไปมันส่งผลอะไร ตามหลังออกมาบ้าง จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือคนส่วนใหญ่ได้มากน้อยแค่ไหน
แต่หลายๆ อย่าง ก็เป็นเหตุผลงี่เง่า ที่เอาแต่ใจของตัวเอง เป็นหลัก คือ นึกถึงใจตัวเองว่า อ่านแล้ว หากมันเกิดความสนุกจะไม่ทำให้อารมณ์เกิด “อาการสะดุด” นั่นคือ เลือกหาหนังสือ ที่ตีพิมพ์ออกมาจำหน่ายแบบสมบูรณ์แล้ว กล่าวคือ มีหนังสือ เรื่องดังกล่าวออกมาหลายเล่มแล้ว (ในกรณีที่เป็นนิยายเรื่องยาวหลายเล่มจบ)เพราะการที่เราเลือก เอาเหตุผลนี้มาเป็นตัวตัดสินใจก็เพื่อว่า หากนิยายเรื่องนี้อ่านสนุก เราจะได้ไปหาเล่มสองสามสี่มาอ่านต่อเนื่องได้เลย ไม่ต้องรอให้ยี่สิบวัน หรือหนึ่งอาทิตย์ออกเล่มที่สอง ที่สามตามมา
อย่างเรื่อง “เจ้ารัตติกาล แผ่นดินเถื่อน” เล่มที่ผมกำลังพูดถึงในวันนี้ เหตุผลแรก คือ เห็น กองหนังสือเป็นกองใหญ่ คือ มีตั้งแต่เล่มที่ 1 ถึงเล่มที่ 5 เลยเกิดความสนใจ ยิ่งพอรู้ว่า เป็นผลงานของ “เยี่ยกวน” คนที่แต่งเรื่อง ย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋องและเรื่องพยัคฆราชซ่อนเล็บ เป็นผู้เขียน ยิ่งตัดสินใจได้ทันทีว่า คงต้อง “อ่าน” เพราะชอบในผลงานเรื่องเก่าๆ ของเขาผู้แต่งเนื่องจาก “เยี่ยกวน” แม้จะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แต่ลีลาการเขียน ไม่แตกต่างกว่านักเขียนรุ่นเก่ามากนัก แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่านักเขียนรุ่นเก่าของเยี่ยกวน คือ การตัดต่อ เขาตัดต่อแบบ ไดนามิคคัท คือ ตัดต่อได้รวดเร็ว และกลมกลืนกับเนื้อหา ที่ทันสมัย ไม่เล่อล่า วกวนเหมือนคนรุ่นเก่าบางคน ประกอบกับจุดเด่นอีกอย่างที่โดดเด่นกว่ารุ่นเก่า คือ การดำเนินเรื่องสร้างพลอตที่ทันสมัยแม้จะอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมเก่าๆ ที่ยังต้องดำเนินเอาไว้ตามตำนานที่กล่าวขานมา แต่เยี่ยกวนจะใช้สำนวนโวหารที่ทันสมัยกว่า ทำให้ เข้าใจได้ง่ายกว่า สำนวนโบราณ ที่บางครั้งต้องแปลไทยเป็นไทย
อย่างเรื่องนี้เขาเปิดตัวพระเอกของเรื่อง ด้วยลีลา แบบง่ายๆ แต่แฝงความงงงันสงสัยเอาไว้ให้ชวนติดตาม ด้วยการให้พระเอก ซึ่งเป็นคนคุมนักโทษในคุกแห่งหนึ่ง วันหนึ่งถูกใช้ให้ถือจดหมายจากขุนนางเก่าที่ติดคุกอยู่ไปให้ญาติซึ่งอยู่ต่างแดนเพราะเป็นคนชั้นผู้น้อยนี่เองจึงต้องจำใจไป แต่เหตุการณ์เพียงน้อยนิดแค่นี้ กลับเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปใหญ่โตจนกลายเป็นเรื่องราวมากมาย
วันนี้คงยังไม่ได้พูดถึงไว้ คราวหน้า เมื่อมีโอกาสแล้วจะกลับมาเล่าเรื่องราวให้ฟังอีกครั้งนะครับ
พบนักเขียนชื่อดังรุ่นใหม่บนเวที ซีเอ็ด ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25
ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 25 ที่จะมีไปถึง วันที่ 11 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี “ซีเอ็ด” ร้านหนังสือและสื่อความรู้ที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ต้อนรับนักอ่านสู่ดินแดนมหัศจรรย์ “BOOK FESTIWOW เทศกาลงาน Book by SE-ED in Wonderland”ทะลุมิติกรอบหนังสือ โดยนำนักอ่านมาพบกับนักเขียนชื่อดังหลายคนบนเวที ซีเอ็ดอาทิ จักรพงษ์ เมษพันธุ์, โค้ชแบงค์ สุภกฤษ, หนุ่มเมืองจันท์, โหน่ง วงศ์ทนง,โตมร ศุขปรีชา, สฤณี อาชวานันทกุล, ชัชวนันท์ สันธิเดช, ครูโตโน่ ติวแม่น, คิ้วต่ำ, คิดมาก และ ธันย์ธรณ์ เป็นต้น
กล้าลงมือเปลี่ยนแปลงตนเอง ที่จะทำให้คุณเลิกกลัวความผิดพลาด
“ชีวิตใหม่ เริ่มต้นได้ ตามใจฝัน” เขียนโดย “Raphaelle Giordano (ราฟาแอล จอร์ดาโน) แปลเป็นไทยโดย “พนิตา บุษปภาชน์” ราคา 180.00 บาท จากสำนักพิมพ์ : บี มีเดีย เป็นงานเขียนเชิงจิตวิทยา ที่ให้กำลังแก่ผู้ล้มเหลว หรือผู้ที่เริ่มจะรู้สึกท้อแท้ต่อชีวิต ด้วยรูปแบบสาระกึ่งนิยาย เป็นเรื่องราวของคามีย์ หญิงสาวที่ต้องเผชิญกับชีวิตที่ไม่มีความสุข แต่ในที่สุดเธอกล้าก้าวผ่านชีวิตเดิมๆ สู่ชีวิตใหม่ โดยมีโคลด ดูปงแตล” นักกิจวัตรบำบัด ช่วยแนะแนวทางวิธีคิดในการเปลี่ยนแปลงตนเอง จนในที่สุด ชีวิตใหม่ที่เธอไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นกับเธอก็เกิดขึ้น มาร่วมสนุกตื่นเต้น และรับวิธีคิดที่จะเปลี่ยนชีวิตให้เป็นไปตามที่ต้องการ ไปกับ คามีย์ ที่จะทำให้คุณเลิกกลัวความผิดพลาด ความล้มเหลว และกล้าลงมือเปลี่ยนแปลงตนเอง เลิกจมปลักและติดกับดักอยู่กับชีวิตแบบเดิมๆ
จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษ 21 วิธีการจัดการเรียนรู้ที่ใช้ส่งเสริมทักษะที่สำคัญ
“วิธีการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21” เขียนโดย “กุลิสรา จิตรชญาวณิช และ เกศราพรรณ พันธุ์ศรีเกตุ คงเจริญ” ราคา 125 บาท ของสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื้อหา พูดถึงวิธีการจัดการเรียนรู้หลากหลายวิธี พร้อมตัวอย่างที่ชัดเจน ในการนำไปใช้ในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนในยุคศตวรรษที่ 21 โดยได้นำเสนอวิธีการจัดการเรียนรู้ที่สามารถใช้ส่งเสริมหรือพัฒนาทักษะที่สำคัญได้แก่ วิธีการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการคิด วิธีการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล วิธีการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ วิธีการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษ และวิธีการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม โดยผู้สอนจะสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะต่างๆ ในศตวรรษที่ 21 ให้บรรลุเป้าหมายได้ตามความประสงค์
ศิลปะสร้างชาติไทยใหม่ที่เจริญและโมเดิร์น ศิลปินกลายเป็น เสรีชนแบกความเป็นไทยและทันสมัย
“ทัศนศิลป์ไทย สมัยใหม่-ร่วมสมัย” เขียนโดย “สุธี คุณาวิชยานนท์”ราคา 380 บาท ของสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนังสือเชิงวิชาการด้านศิลปะ ที่กล่าวถึงความเป็นมาของทัศนศิลป์ในไทยตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นผลผลิตของสังคมยุคเก่า คือยุคที่ศิลปะตอบสนองชนชั้นสูง ต่อเนื่องมาสู่ศิลปะแนวใหม่เพื่อรัฐ และพัฒนาไปเป็นศิลปะใหม่ของประชาชน ทั้งข้าราชการและชนชั้นกลาง ตลอดจนเป็นการแสดงตัวตนของศิลปิน ที่ได้กลายเป็นอิสระ เสรีชน ศิลปินรับภาระทั้งรักษาความเป็นไทย และยังต้องทันสมัยและรับใช้สังคม ต่อเนื่องมาจนถึงศิลปะร่วมสมัยในยุคปัจจุบัน ที่ศิลปะพยายามจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไป เมื่อสยามเปิดประเทศรับอารยธรรมตะวันตก ราชสำนักรับและประยุกต์รูปแบบศิลปะตะวันตกให้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของกระบวนทำสยามให้ใหม่และทันสมัย และเมื่อสยามพลิกผันกลายเป็นไทยแลนด์ ดินแดนแห่งประชาธิปไตย ศิลปะจึงกลายมาเป็นสื่อนำเสนอสำคัญในการสร้างชาติไทยใหม่ที่เจริญและโมเดิร์น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี