ใครที่เคยอ่าน หรือเป็นแฟน นิยายสืบสวนสอบสวน ในชุดของนักสืบชื่อ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ คงจะแปลกใจที่ได้มาเห็นหนังสือเล่มนี้ที่มีชื่อว่า “ยอดนักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ตอนกองทัพอสูรพันธุ์สยองของดอกเตอร์มอโร” เพราะไม่ว่าจะดูจากเนื้อหา หรือ คนแต่ง มันดูแปร่งๆไปจากของเก่าที่เคยได้สัมผัส เริ่มตั้งแต่ผู้เขียน ที่ลงชื่อว่า Guy Adams (กาย อดัมส์) ซึ่งของเดิมที่เคยอ่านมา นิยายเรื่องนี้ เป็นงานเขียนของท่านเซอร์ อาร์เทอร์ โคนัน ดอยล์ จนกระทั่งได้มาอ่านรายละเอียด จึงพอเข้าใจว่า นักสืบเชอร์ล็อกโฮล์มส์ เล่มนี้เป็นงานเขียนใหม่ของคนใหม่ที่ชื่อ กาย อดัมส์ โดยนำเอาตัวละครมาสืบทอดพฤติกรรมให้มีตัวตนต่อไปในโลกนิยาย ส่วนแนวเรื่องจะเน้นในแนวแฟนตาซีมากกว่าของเดิม ที่เน้นในเรื่องทฤษฎีการสืบสวนสอบสวน จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ คนใหม่นี้ เรื่องราวจะหลุดโลก เต็มไปด้วยความแปลก มหัศจรรย์ ในแนวเดียวกับ นักเขียนที่ชื่อ เอช. จี. เวลส์
สรุปโดยย่อ จากการวางแนวเรื่อง นักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ของ กาย อดัมส์ ก็คือ การรวมจุดเด่นของยอดนักจินตนาการสองคนมาไว้ด้วยกันคือ เอาแนวทางการสืบสวนของ เซอร์ อาร์เทอร์โคนัน ดอยล์ มาอยู่ในมิติอันมหัศจรรย์ เอช. จี.เวลส์ ยอดนักคิด นักจินตนาการที่ล้ำไปข้างหน้า
อย่างในเรื่องนี้ เป็นเรื่องของกองทัพอสูรพันธุ์สยองของดอกเตอร์มอโร นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ซึ่งสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาอาละวาดในใจกลางกรุงลอนดอน สร้างความหวาดผวาไปทุกหย่อมหญ้า หน้าที่ในการคลี่คลาย เพื่อหาทางปราบอสูรร้ายนี้ให้หมดไปจึงตกเป็นของ ยอดนักสืบเชอร์ล็อก โฮล์มส์ เมื่อจู่ๆ ศพที่ตายเพราะคมเขี้ยวฉลามก็โผล่ขึ้นมาในกรุงลอนดอน และไม่ใช่แค่ศพเดียว รวมทั้งยังมีสัตว์ร้ายอีกหลายชนิดเข้ามาพัวพันเกี่ยวข้องด้วย โดยทั้งหมดโยงใยถึงการทดลองสุดวิปริตของดอกเตอร์มอโรนักวิทยาศาสตร์ผู้ฉาวโฉ่ และเครือข่ายอาชญากรรมเลวร้าย ที่เชอร์ล็อก โฮล์มส์และคณะ ต้องกระชากหน้ากากและทำลายมันให้ได้
อ่านแล้วก็ต้องยอมรับในความสนุกตื่นเต้น ชวนให้ติดตาม แต่ถ้าใครที่ยัง อินอยู่กับเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ขนานแท้ ที่ค่อนข้างจะเอาจริงกับงานสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นวิชาการก็อาจจะดูพิลึกไปบ้างต่อการฉีกแนวของงานสืบสวนสอบสวนของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ที่เคยสัมผัสมา
ยุคนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปได้ทั้งนั้นอย่าไปคิดอะไรให้มากนัก ปวดหัวเปล่าๆเอาว่าเมื่อเราต้องการความบันเทิงก็เสพแต่ความบันเทิงให้เต็มอิ่มแล้วกัน นิยายเรื่องนี้แปลเป็นไทยโดย ผกามาศ อุดมเดชาณัติ ราคา259 บาท ความหนาทั้งหมด 248 หน้า
ถึงจะเป็นคนเก่งก็ต้องมีเวลาพัก สูตรลับสำหรับคนที่เป็นอัจฉริยะ
“คนเก่งพักเป็น : สูตรลับพัฒนาตัวเองที่อัจฉริยะระดับโลกใช้กัน” เรื่องราวที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นเคล็ดลับของนักกีฬาโอลิมปิก นักธุรกิจ และศิลปิน ที่จะทำให้ผู้อ่านได้ เรียนรู้ชั้นเชิงการพักผ่อนของพวกเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ว่าเขาทำกันกันอย่างไร ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการจะเป็น “คนเก่ง” ต้องทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักหน่วง แต่จริงๆ แล้ว ความเชื่อนี้ทำลายคนมานักต่อนัก “Brad Stulbrg” อดีตที่ปรึกษาทำเนียบขาว และ “Stevee Stulberg” โค้ชนักกีฬาโอลิมปิกเองก็เคยตกหลุมกับความเชื่อนี้มาแล้ว พวกเขาจึงลองหันไปจับเข่าคุยกับอัจฉริยะจากทุกวงการทั่วโลก และได้ข้อสรุปมาว่า “สูตรลับคนเก่งไม่ใช่การฝึกฝน แต่อยู่ที่การพักให้เป็นต่างหาก เขียนโดย Brad Stulberg,Steve Magness ผู้แปล สุกัญญา ไทเตชะวัฒน์ ราคา 225 บาท
กลยุทธ์ที่ทำให้ชีวิตเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น การสร้าง แรงบันดาลใจ และการพัฒนาตนเอง
“ชีวิตที่ไม่คิดจะ “อินดี้” เขียนโดย “อินดี้นี่คะ” เป็นหนังสือในแนวการสร้าง แรงบันดาลใจ และการพัฒนาตนเอง ของการดำเนินชีวิตด้วยหลักวิชาการของจิตวิทยาประยุกต์ พูดถึง เรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อิงเรื่องราวจากพื้นฐานชีวิตจริงของใครหลายๆ คน เด็กผู้หญิงคนนี้ได้รับฉายานามว่า “อินดี้” ซึ่งมีบุคลิกและนิสัยแปลกแยกแตกต่างด้วยมุมมองความคิด ความรู้สึก จินตนาการ และประสบการณ์ที่ทั้งดีและย่ำแย่ แต่กลับทำให้ชีวิตเติบโตและแข็งแกร่งขึ้น จนเป็นตัวอย่างที่ดี ที่เราจะนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ ไม่ว่าเราจะเป็นใคร จะ “อินดี้” หรือไม่ก็ตาม ราคา 249 บาทจากสำนักพิมพ์ : ฟีก้า
คิดต่าง สร้างการเปลี่ยนแปลง จากมุมมองของ ‘The Disruptor’ เมืองไทย
“คิดต่าง สร้างการเปลี่ยนแปลง”เขียนโดย “ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ราคา 220 บาท ของสำนักพิมพ์ มูลนิธิทองเนื้อเก้าเป็นเรื่องราวที่รวบรวมแนวคิด องค์ความรู้และประสบการณ์การทำงานของผู้เขียน ในฐานะวิศวกร นักการศึกษา ผู้เรียนรู้ และคนที่สนใจเรื่องการเปลี่ยนเมือง โดยตั้งเป้ามุ่งมั่นผลักดันและลงมือทำอย่างจริงจังเพื่อให้เกิด การเปลี่ยนแปลง จนหลายคนเรียกว่า “The Disruptor” เมืองไทย มีเนื้อหาแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ในส่วนชีวิตคนเมือง ส่วนมุมมองความคิด และส่วนอนาคตการเรียนไทยโดยนำเสนอมุมมองความคิดของผู้เขียน ที่เต็มไปด้วยพลังและความมุ่งมั่น ผลักดันความคิดความฝันให้เป็นจริง อันจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่าน เปลี่ยนมุมมอง ลองคิดแบบใหม่ มองเห็นปัญหาและแก้ไขให้ถูกจุด ใช้วิกฤติสร้างโอกาส ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่จะก้าวมาเป็นผู้นำ
การใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ให้มีความสุข หาคำตอบร่วมกันระหว่างคนเขียนกับคนอ่าน
“โตขึ้นมาเป็นความสุข” เขียนโดย “คิดมาก” ราคา 225 บาท”ของสำนักพิมพ์ springbooks เป็นหนังสือที่ว่าด้วยการใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ให้มีความสุข ซึ่งเขียนขึ้นเพื่อหาคำตอบร่วมกันระหว่างคนเขียนกับคนอ่านว่า “เราจะทำอย่างไรกับชีวิตได้บ้าง เพื่อที่จะมีความสุขกับชีวิต” ประกอบด้วย 30 บทความที่ให้แง่คิดดีๆ ทั้งการดำเนินชีวิต การทำงาน และการอยู่คนเดียวให้เป็น ที่สร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ยุคนี้อ่านแล้วคุณจะได้พบหนทางของความสุขของตนเอง อาทิ การเติบโตเริ่มต้นจากการมีความฝัน,ทำให้แน่ใจอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้ยังเป็นของเราไม่ใช่ของใคร, ไม่มีอะไรที่เราทำไปแล้ว ควรนับเป็นความล้มเหลวในภายหลังและ คนรัก = คู่ชีวิต เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี