โดยทั่วไป Ethnology Museum หรือมิวเซียมชาติพันธุ์มักพบได้ในประเทศยุโรปขนาดเล็ก อาทิSlovenia, Croatia แต่สำหรับสเปน เรากลับพบ Ethnology Museum ในเมืองใหญ่อย่างบาร์เซโลนาซึ่งไม่ใช่เมืองหลวงอย่าง Madrid ทำไม ก่อนจะอธิบายถึงการจัดตั้งมิวเซียมชาติพันธุ์ในบาร์เซโลนานั้น นักท่องเที่ยวคงอยากทราบว่ามิวเซียมชาติพันธุ์คือมิวเซียมเกี่ยวกับอะไรกันแน่ มิวเซียมชาติพันธุ์ในโลกตะวันตกนั้นมีรากฐานมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผู้จัดตั้งมักมีความปรารถนาที่จะจัดแสดงของที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง วัฒนธรรมและสังคมทั้งหลาย อาทิ การแต่งตัว ประเพณี การทำมาหากินในแต่ละยุคสมัย เป้าหมายของมิวเซียมประเภทนี้ก็คือเป็นบริการสาธารณะที่จะกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดตั้ง ค้นคว้า และจัดแสดงนิทรรศการ
ภัณฑารักษ์จึงมักทำงานร่วมกับชุมชนในการจัดนิทรรศการเพื่อหาหนทางในการตั้งปัญหาที่อนุญาตให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กันอันจะนำมาซึ่งการค้นหาคำตอบและบทสรุปได้ด้วยตัวเอง ของจัดแสดงทั้งหลายจึงมักถูกเลือกมาอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงความสนใจโดยรวมของคนในสังคม ผู้เข้าชมทั้งเพื่อการศึกษาจากสถาบันศึกษาและคนทั่วไปที่ใฝ่หาความจริงจะได้ความรู้และสามารถที่จะปรับใช้กับสังคมร่วมสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การถือกำเนิดและการควบรวมกันของชาติพันธุ์ทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติเป็นผลมาจากการล่าอาณานิคมและการปฏิวัติอุตสาหกรรมจนทำให้เกิดการเน้นย้ำไปที่สิ่งพิเศษทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ เวลา กิจกรรมพื้นบ้านที่ปัจจุบันส่วนใหญ่สูญหายไปแล้ว ส่วนขบวนการเป็นอิสระจากการเป็นอาณานิคมและโลกาภิวัตน์ที่เริ่มต้นในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 นั้นได้ทำให้ภาพการแบ่งแยกระหว่างเมืองและชนบทเลือนรางลงส่งผลให้ขบวนการทางมานุษยวิทยาที่เคยเป็นบทสรุปของสังคมล้าหลังและพัฒนา ป่าเถื่อนและศิวิไลซ์เลือนหายไปสู่การศึกษาถึงเมืองและอุตสาหกรรมแทนที่แทบไม่มีความแตกต่างกันเลยระหว่างโครงสร้างทางสังคมและความซับซ้อนทางด้านวัฒนธรรมในแต่ละชนชาติ
เมื่อความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมมีน้อยลง วิวัฒนาการของแนวคิดในการจัดมิวเซียมชาติพันธุ์ก็เปลี่ยนแปลงไปเฉกเช่นเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม วัฒนธรรมและมานุษยวิทยาทั่วไป แต่ยังคงทำหน้าที่หลักในการรักษาและดูแลมรดกของแต่ละชาติ ภัณฑารักษ์จึงจำเป็นต้องหาหนทางให้วิธีการจัดแสดงผลงานดูทันสมัย ดึงดูดใจและตอบโจทย์ผู้เยี่ยมชมให้มากขึ้นด้วยการจัดแสดงที่มีมิติมากขึ้นและให้ของจัดแสดงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เท่านั้น ความอิ่มเอมใจจากประสบการณ์เยี่ยมเยือนมิวเซียมได้ถูกเพิ่มเติมขึ้นจากการใช้สื่อต่างๆ ทั้งวีดีโอ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ AI ยิ่งกว่านั้นภัณฑารักษ์ยังส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมเยือนเข้าทำ workshop และสัมมนาเพื่อเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันอันจะเป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ได้อย่างลึกซึ้งกว่าเพียงการเดินชมของจัดแสดงและนิทรรศการเท่านั้น
การที่บาร์เซโลนาจะได้เป็นเมืองที่จัดแสดงโอลิมปิกในปี 1992 ทำให้ชาวเมืองต้องการให้เมืองดูเป็นนานาชาติ พวกเขาจึงตัดสินใจจัดตั้ง Ethnology Museum
Barcelona ขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวบาร์เซโลนาที่เปลี่ยนไปสู่การเป็นเมืองนานาชาติ เทศบาลเมืองยังได้มีการวางแผนเมืองใหม่หมดด้วย นักท่องเที่ยวจะเห็นของจัดแสดงเริ่มต้นจากการอธิบายชีวิตมนุษย์เริ่มที่บ้าน ศาสนา การเล่น การเรียน การทำงาน festival อันเป็นฐานรากของการสร้างวัฒนธรรม สิ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวเซียมจะสังเกตได้ว่าเป็นตัวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นสากลมากที่สุดก็คือ ถนน festival ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถย้อนเวลากลับไปเพลิดเพลินด้วยได้มากที่สุดนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี