เมื่อโลกแฟชั่นได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ เพื่อสร้างความสุนทรีให้กับมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ อย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งกลายเป็นธุรกิจที่สร้างผลกระทบในเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไม่ตั้งใจ ขณะที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงขึ้น และผลักดันให้เราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ(Climate Change) ภาวะโลกร้อน ฝุ่น PM2.5เป็นต้น แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลไม่แพ้กัน คือเราทุกคนก็กำลังส่งต่อปัญหานี้ไปสู่ลูกหลานในอนาคต ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นอาจไม่มีทางแก้แล้ว
ประเด็นสำคัญนี้จึงกลายมาเป็นแนวคิดหลักในการรังสรรค์งานแฟชั่นของกลุ่มนักออกแบบมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้สร้างศิลปะแฟชั่นผ่านแบรนด์ “ดอยตุง” นำเสนอเรื่องราวการทอผ้าแบบดั้งเดิมตามวิถีชนเผ่า การทำเซรามิกสุดประณีต ที่เปลี่ยนก้อนดินให้กลายเป็นงานศิลปะรวมเข้ากับแฟชั่นการออกแบบ อันนำไปสู่ชิ้นงานสร้างสรรค์ที่เป็นมากกว่า “เทรนด์” โดยนอกจาก ดีไซน์โก้ ฟังก์ชั่นดีแล้ว สิ่งที่ต้องยึดเป็นหัวใจสำคัญต่อจากนี้ไปคือ ต้องไม่ทำลายโลก โดยให้ความสำคัญกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบที่เหมาะสม กระบวนการผลิตที่มุ่งหวังที่จะลดขั้นตอนในการผลิต ระยะเวลาในการทำงานที่สั้นลง การลดการใช้พลังงานรวมไปถึงการลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต
ล่าสุด กลุ่มนักออกแบบ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้สร้างสรรค์ผลงานภายใต้แนวคิดการออกแบบอย่างยั่งยืน ที่เน้นสมดุลแห่งความเรียบง่าย และลดผลกระทบต่อธรรมชาติให้มากที่สุดในทุกขั้นตอนการผลิต ยึดหลักแนวคิด ซีโร่ เวสต์ (Zero Waste) หรือ ขยะเหลือศูนย์ ตั้งแต่การออกแบบ ตัดเย็บเพื่อลดปริมาณของเสียเหลือทิ้งให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเหลือทิ้งเป็นขยะเลย ตลอดจนนำเอาขยะพลาสติกในท้องทะเล และเศษวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่สวยและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรใหม่ในการผลิตสินค้าเเฟชั่น
การันตีผลงานคอลเลคชั่นนี้ ด้วย5 รางวัลคุณภาพ จาก 2 เวทีระดับประเทศ ได้แก่ 1 รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น(Prime Minister’s Export Award :: PMAward 2020) ประเภทสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม กลุ่มสินค้าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย และ 4 รางวัล สินค้าไทยที่มีการออกแบบดี (Design Excellence Award 2020 หรือ Demark) ประเภทกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย และกลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์จัดโดย สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
ผลงานที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ รังสรรค์ออกมาเป็นงานดีไซน์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมได้แก่ คอลเลคชั่นเสื้อโค้ท และ กระเป๋า ที่มีชื่อเดียวกันว่า ม้ง (HMONG) โดย เสื้อโค้ทม้ง (HMONG : Coat) ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องแต่งกายชนเผ่าม้งบนดอยตุง ที่มีอากาศหนาวเย็น ผสมกับการเล่นสีสันที่สดใสเพิ่มความสนุกให้ชิ้นงานและที่สำคัญคือการนำขวดพลาสติกเหลือใช้ขนาด 600 มิลลิลิตร จำนวน 130 ใบ มาผ่านกระบวนการ อัพไซเคิล (Upcycled) ใช้เป็นวัสดุร่วมกับเส้นใยธรรมชาติ ถักทอออกมาเป็นเสื้อโค้ทแฟชั่นสุดล้ำ และยังมีฟังก์ชั่นพิเศษเลือกใส่ได้ 2 ด้าน 2 สไตล์สามารถกันหนาว และกันละอองน้ำได้ดีทำให้ไม่อับชื้น ส่วน กระเป๋าม้ง (HMONG:Shoulder Bag) ความเก๋อยู่ที่สร้างสรรค์จากลายผ้าที่มีความร่วมสมัย ทอด้วยเส้นใยธรรมชาติจากเยื่อไผ่ 100% และวัสดุด้านในยังเป็นฟอยล์ฉนวนเก็บอุณหภูมิ สามารถใส่กล่องข้าว ลดการเกิดปัญหาอาหารบูดเสีย ฟู้ดเวสท์ (Food Waste) ได้แถมยังมีความทนทานทำให้ยืดอายุการใช้งานของกระเป๋าได้นานขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ออกแบบชุดเซรามิกแก้วกาแฟและชุดชงกาแฟดริป ดีไซน์มินิมอล ชื่อว่า เซรามิกซีโร่ (CERRAMICSZERO) มีลูกเล่นตรงด้ามจับรูปทรงแปลกตาได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากความโค้งมนตามธรรมชาติ ทั้งยังโอบรับกับเส้นของลวดลายสีขาวตัดกับสีดำสนิทที่เกิดจากการเผาด้วยเทคนิคพิเศษ คือ การใช้เศษหญ้าแฝกและเปลือกแมคคาเดเมียที่ถูกทิ้งมาเป็นเชื้อเพลิงในการเผา เขม่าควันที่เกิดขึ้นระหว่างการเผาช่วยสร้างสรรค์ ให้สีและลายของเซรามิกแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลายเป็นผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นเดียวในโลก ที่เกิดจากการนำเอาเศษเหลือทิ้งมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เช่นเดียวกับ อีก 1 ผลงาน ที่เกิดจากแนวคิดการนำเศษวัสดุที่หลงเหลือจากกระบวนการผลิตมาทำให้เกิดประโยชน์แทนการทิ้งเป็นขยะ คือ ผลงานการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์กาแฟพีเบอร์รีดอยตุง ที่ตัวกล่องทำจากเศษวัสดุที่เหลือจากการผลิตกระดาษสาและเศษฝ้าย จากโรงงานสาและโรงงานทอผ้าของ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จังหวัดเชียงราย โดยนำมาขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตเซรามิก ปูนปลาสเตอร์จะช่วยให้บรรจุภัณฑ์ที่ขึ้นรูปแล้วแห้งเร็วขึ้น ลดเวลาการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นกระถางปลูกต้นไม้ได้ด้วย เพราะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ถือเป็นไอเดียสุดว้าวในการนำเศษเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตอื่นๆ มาสร้างเป็นผลงานชิ้นใหม่ได้อย่างมีคุณค่า
มาเป็นสายแฟชั่นรักษ์โลกที่ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง เพื่อโลกในวันนี้และในอนาคตไปพร้อมๆ กัน อัพเดตหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook: DoiTungClub และ Line: @DoiTung_Lifestyle
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี