นานมีบุ๊คส์ ประกาศผลภาพชนะเลิศ “โครงการประกวดวาดภาพประกอบ “อิ๊กคาบ็อก” ผลงานของเด็กไทย 34 คนที่จะได้ตีพิมพ์ในหนังสือของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง
หลังจากที่ นานมีบุ๊คส์เผยแพร่เนื้อหา “อิ๊กคาบ็อก” วรรณกรรมเยาวชนเล่มใหม่ของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง ให้อ่านฟรีบนเว็บไซต์ต่อเนื่อง 7 สัปดาห์(18 ส.ค.-2 ต.ค. 2563) พร้อมเชิญชวนเด็กไทยอายุ 7-13 ปีทั่วประเทศ เข้าร่วม “โครงการประกวดวาดภาพประกอบอิ๊กคาบ็อก” เพื่อคัดเลือกผลงานไปตีพิมพ์ในหนังสือ ที่จะวางจำหน่ายวันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ ล่าสุด คณะกรรมการได้ประกาศผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 34 คนอย่างเป็นทางการแล้ว จากทั้งหมด 2,683 ภาพที่ส่งมาจากทั่วประเทศ โดยสามารถชมภาพผลงานชนะเลิศทั้ง 34 ภาพได้ที่ https://ickabogthai.nanmeebooks.com/contest
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตัดสิน นำโดย ครูสังคม ทองมีผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร จ.เลย,ผศ.ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ หัวหน้าภาควิชาศิลปะ คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, น.ส.คิม จงสถิตย์วัฒนา ประธานกรรมการบริหารบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด, น.ส.ศิริกุล จารุจันทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย (ค้าปลีก) บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด,นางกัญญาภัค บุญแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษา บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด, น.ส.สุชาดา งามวัฒนจินดา Senior Project Manager บริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด และ น.ส.สุวพันธ์ ชัยปัจชา บรรณาธิการบริหาร บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด ต่างทำงานกันอย่างหนักและตื่นเต้นกับผลงานทุกภาพ เพราะเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ
ครูสังคม ทองมี ผู้อำนวยการศูนย์ศิลป์สิรินธร กล่าวว่า ผลงานโดยรวมของเด็กๆ ที่เข้าร่วมโครงการนี้ดีมาก มีความคิดดี ที่สำคัญคือมีทักษะ ฝีมือของเด็กไทยอยู่ในระดับสูงจินตนาการเป็นสากล ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ บุคลิก คาแร็กเตอร์ต่างๆ หรือเรื่องราวในภาพ กรรมการก็ลำบากใจมากกว่าจะได้ภาพชนะเลิศ เราก็ต้องเลือกภาพที่มีความโดดเด่นที่สุด ภาพที่ได้รับคัดเลือกไม่ใช่ลายเส้นที่หาได้ทั่วไป ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เรามองหา
“โครงการนี้เน้นจินตนาการเป็นสำคัญ ซึ่งเด็กต้องอ่านความคิดของนักเขียน แล้วจินตนาการเรื่องราวออกมาเป็นภาพวาด โดยดึงจุดสำคัญของแต่ละตอนออกมาเป็นไฮไลต์ เด็กๆ ตีความจินตนาการของนักเขียนด้วยจินตนาการของตัวเองออกมาเป็นภาพวาด อ่านความคิดของนักเขียน แปลงตัวอักษรมาเป็นภาพ ซึ่งต่างจากโครงการประกวดวาดภาพทั่วไป บางคนวาดสวย อาจจะอ่านเนื้อหาน้อย หรือผู้ใหญ่มาแทรกแซง และมีเรื่องของความถูกต้องด้วย สวยแต่ไม่ถูกกติกา ก็ไม่ผ่าน สวยเพราะมีแต่ทักษะแต่ขาดจินตนาการก็ไม่ได้
และการได้มีผลงานไปตีพิมพ์ในหนังสือของนักเขียนระดับโลกอย่าง เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ยิ่งใหญ่ และเป็นเกียรติมาก ขอบคุณที่โครงการนี้ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ถ่ายทอดจินตนาการของเขา มันคืองานศิลปะ บางภาพสื่อนิดเดียว ไม่ต้องสร้างองค์ประกอบภาพอะไรมากมาย แต่ให้ความรู้สึกเยอะ หลายคนฉายแววอนาคตไกลเลย”
ด้าน ผศ.ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ หัวหน้าภาควิชาศิลปะคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เป็นโครงการที่มีประโยชน์ในหลายมิติ ทั้งส่งเสริมทักษะการอ่าน ซึ่งไม่ใช่แค่การอ่านเพียงแค่รับรู้ข้อมูล แต่เป็นการอ่านที่ผสมผสานทั้งจินตนาการและวรรณกรรมแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะโดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนระดับโลกอย่าง เจ.เค. โรว์ลิ่งยิ่งน่าตื่นเต้น ซึ่งการได้อ่านวรรณกรรมดีๆจะเพิ่มความสุข ความตื่นเต้น เพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ เป็นฐานให้เราอ่านหนังสืออื่นๆ เพื่อนำเราไปสู่อาชีพที่อยากทำในอนาคตต่อไปได้
“ต้องบอกว่าผลงานเด็กๆ ที่ส่งเข้ามาร่วมโครงการนี้มีความเป็นอินเตอร์และสร้างความเซอร์ไพรส์มาก เมื่อเทียบกับหลายๆ เวทีที่เน้นทักษะอย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งทำให้ภาพมีความเคร่งเครียด เป็น serious art ในขณะที่โครงการนี้ปูพื้นฐานด้วยการอ่านที่เต็มไปด้วยอิสระ เข้ากับเด็ก เปิดกว้างทางจินตนาการ ผลงานที่ออกมาจึง full of imagination และมีลายเส้นแบบเด็กๆ ออกมาด้วย ทำให้เรารับรู้ความรู้สึกของเด็กผ่านผลงาน มันคือการผสมผสานและทำงานร่วมกันระหว่าง “นักเขียนระดับโลก” กับ “เด็กๆของโลก” เป็นการแชร์ความเป็นมืออาชีพแบบนักเขียนระดับโลกสู่มืออาชีพตัวเล็กๆ อย่างเด็กๆ ที่จะเป็นอนาคตของโลก ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ”
ส่วน คิม จงสถิตย์วัฒนาประธานกรรมการบริหาร บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า การที่เด็กไทยวัย 7-13 ปี ได้มีโอกาสกระทบไหล่นักเขียนระดับโลกอย่าง เจ.เค. โรว์ลิ่ง เป็นโอกาสล้ำค่าของชีวิต คิดว่ามันเป็นไอเดียที่สุดยอดมาก ที่ เจ.เค. โรว์ลิ่งเปิดโอกาสตีพิมพ์ผลงานของเด็กๆลงหนังสือ “อิ๊กคาบ๊อก” ถือเป็นสมบัติล้ำค่า ที่นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินและแรงบันดาลใจขณะที่อ่านแล้วยังเป็นของขวัญที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากเพื่อนสู่เพื่อนได้
“สิ่งที่ดิฉันประทับใจคือ นี่ไม่ใช่แค่การประกวดงานศิลปะ แต่ชิ้นงานที่ออกมานั้นถูกตีความหลังจากอ่านหนังสือ พอเราเห็นว่าเด็กไทยตีความออกมาเป็นอย่างไร และเทียบกับของประเทศอื่นๆ ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่เพราะเรามีบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่ต่างกัน นี่คือพลังขอการอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือแปล การอ่านกระตุ้นให้เรารู้จักคิด สะท้อนสิ่งที่เราเห็นในชีวิต หรือสิ่งที่เราอยากให้สังคมเป็น เพราะฉะนั้น “การอ่านสร้างตัวตน” อย่างแท้จริง
ดิฉันขอขอบคุณเด็กๆ ทุกคน ตลอดจน คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครูทุกท่าน ที่ร่วมโครงการในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเราไม่อาจตีพิมพ์ผลงานทุกชิ้นในหนังสือได้ แต่ถือว่าเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ชื่นชมผลงานทุกชิ้นที่ส่งมา พวกเราตื่นเต้นมากที่หนังสือ “อิ๊กคาบ็อก” กำลังจะตีพิมพ์ ดิฉันหวังว่าเด็ก เยาวชน และคนไทยทุกคนจะอ่านอย่างสนุกสนานนะคะ”
ทั้งนี้ หนังสือ “อิ๊กคาบ็อก” มีกำหนดวางจำหน่าย 28 พฤศจิกายน 2563 ขณะนี้กำลังเปิดให้ pre-order จนถึง 25 ตุลาคม 2563 สนใจสั่งจองได้ที่ https://www.nanmeebooks.com/catalogdetail/SPCC-20200908113643
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี