“เกาะปันหยี” หรือหมู่บ้านกลางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านของชาวมุสลิมที่ตั้งเรียงรายบนพื้นที่เล็กๆ กลางทะเล ชุมชนเล็กๆ บนเกาะแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งโดยใช้เวลาเดินทางด้วยเรือกว่า 30 นาที และสามารถติดต่อเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ ได้ปกติเหมือนกับที่อื่นๆ โดยมีตัวกลางการสื่อสารด้วยหน่วยงานสำคัญอย่างไปรษณีย์ไทย ผ่าน “พิชชานันท์ เหมมินทร์” เจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิงที่สวยที่สุดเพียงคนเดียวบนเกาะ ที่ส่งทั้งจดหมาย เอกสาร และพัสดุต่างๆ กับการบริการด้วยใจ ไม่ว่าลำบากเพียงใดก็ไปส่งถึงมือชาวเกาะปันหยีทุกคน
ตลอดระยะเวลา 30 ปี ของ พิชชานันท์ หรือ “พี่นันท์” ในเส้นทางอาชีพเจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิงเพียงหนึ่งเดียวแห่ง บนเกาะปันหยี กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการนำจ่ายเอกสาร พัสดุ EMS และ COD ซึ่งการทำงานในแต่ละวันเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็ไม่บั่นทอนแรงใจของเธอได้เลย โดยภารกิจตอนเช้าเริ่มต้นด้วยการนั่งเรือจากเกาะปันหยี เพื่อขึ้นฝั่งไปรับเอกสารหรือพัสดุที่ไปรษณีย์พังงา และต้องรีบนำกลับไปที่เกาะเพื่อทำบัญชีและรายการนำจ่ายให้ทันส่งให้แต่ละบ้านทุกวัน ทั้งนี้ เกาะปันหยีเป็นพื้นที่ที่มีกว่า 233 ครัวเรือน มีประชากรกว่า 1,400 คน เธอจึงต้องใช้จักรยานคู่ใจปั่นไปส่งจดหมายและพัสดุจนเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน และด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำให้สามารถจดจำชื่อ และบ้านเลขที่ของทุกคนบนเกาะปันหยีได้อย่างแม่นยำ
“ที่เกาะปันหยีแห่งนี้ เราเป็นเจ้าหน้าที่นำจ่ายของไปรษณีย์ไทยเพียงคนเดียว เรารู้จักพื้นที่ในเกาะแห่งนี้เป็นอย่างดี และสิ่งที่สำคัญคือ จำบ้านเลขที่ได้ทุกบ้าน จำชื่อ นามสกุลทุกคนได้หมด ซึ่งเกาะปันหยีมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ และมีนามสกุลซ้ำกันเยอะ เราก็จำได้ แม้กระทั่งแมวบนเกาะ เราก็จำได้ว่าเจ้าของเขาอยู่บ้านหลังไหน ทุกวันนี้เราทำงานด้วยใจจริงๆ และคิดว่าจะทำหน้าที่ส่งไปรษณีย์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดแรง เพราะผูกพันกับทุกคนบนเกาะ เหมือนเป็นญาติกันแล้ว บางคนส่งลูกไปเรียนไกลบ้าน เขาก็อยากส่งของไปให้ลูก เราก็อยากให้ของถึงมือลูกเขาเร็วที่สุด บางคนรอเอกสารจากราชการที่สำคัญ เราก็ต้องรีบส่งให้ถึงมือ เห็นทุกคนมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย นั่นล่ะคือความภาคภูมิใจในหน้าที่ของเรา”
ด้วยข้อจำกัดของเกาะปันหยีที่เป็นเกาะอยู่กลางทะเล ทำให้การไปรับหรือส่งของที่ชายฝั่งต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการข้ามฝากขึ้นชายฝั่ง จึงมีความยากลำบากเพราะมีปัจจัยเรื่องสภาพอากาศในแต่ละวัน แต่นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ยืนยันได้ว่าไปรษณีย์ไทยอยู่เคียงข้างคนไทยในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน และถึงแม้จะมีอุปสรรคในการขนส่งเพียงใด ก็ไม่อาจหยุดยั้งความตั้งใจที่จะส่งมอบบริการด้วยใจในทุกๆ วัน
“ความลำบากคือบางทีสภาพอากาศไม่ดี มีฝน มีพายุเข้าหนักๆ ก็ต้องหยุด เพราะเรือไม่สามารถข้ามไปฝั่งได้ แต่ถ้าไม่หนักมากเราก็ไม่ค่อยหยุดเพราะอยากไปนำของมาส่งให้ทุกคน กลัวว่าเค้าจะมีเอกสารหรือพัสดุด่วนที่ต้องใช้ แต่ละวันเราต้องนำจ่ายของให้ถึงมือผู้รับให้หมดทุกชิ้น บางวันมีจดหมายและพัสดุ 100 กว่าบ้าน เพื่อความรวดเร็วเราก็ใช้จักรยานปั่นไปส่งตามบ้าน ซึ่งที่เลือกใช้จักรยานเพราะมีหนึ่งภารกิจที่สำคัญของชาวเกาะอย่างเราคือ การเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบนเกาะ เกาะปันหยีเป็นบ้านของเรา และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ก็ต้องรักษาบ้านเราให้สวยงามและอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ”
ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่เป็นอุปสรรคในการทำงานอยู่บ้าง แต่การเป็นเจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิงหนึ่งเดียวแห่งเกาะปันหยี ก็เป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พิชชานันท์ภาคภูมิใจ ที่ได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงผู้คนในชุมชนบนเกาะและคนภายนอกเกาะปันหยี และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ส่งของถึงมือผู้รับทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี