สาวๆ หนุ่มๆ ทั้งหลายสมัยนี้ต่างให้ความสำคัญกับการมีผิวหน้าที่เนียน สวย สดใส แต่ด้วยแสงแดดและมลพิษต่างๆ ที่ต้องเจออยู่ทุกวัน ทำให้ใบหน้าหมอง คล้ำดำ อีกทั้งกระ และฝ้า ต่างก็เข้ามามีส่วนร่วมอยู่บนใบหน้า ไหนจะอายุที่มากขึ้น ทำให้การดูแลผิวเป็นไปได้ยากมากขึ้นไปอีก
การดูแลผิวพรรณด้วยเครื่องสำอางต่างๆ จึงเป็นที่จำเป็นสำหรับคนทั่วไป ไม่ว่าจะเพื่อการบำรุงผิวปกปิดหรือแต่งให้ดูหน้าสวยกระจ่างขึ้น ข้อมูลจาก รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์เปิดเผยว่า แม้ว่าเครื่องสำอางจะช่วยเสริมสร้างความงามให้กับคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่บางครั้งเครื่องสำอางก็อาจแฝงไปด้วยอันตรายที่คุณมองไม่เห็นโดยเฉพาะคนที่ชอบซื้อเครื่องสำอางจากคำบอกเล่าของเพื่อนหรือคำเชิญชวนจากคนขาย ทั้งนี้ก็เพราะผิวของคนเราไม่เหมือนกัน ฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องสำอางมาใช้ต้องแน่ใจว่าเครื่องสำอางนั้นจะไม่ทำให้หน้าคุณพัง โดยมีหลักการเลือกซื้อดังนี้
l ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางตามความเหมาะสมกับตนเอง อย่าซื้อตามคนอื่น หรือซื้อเพราะเพื่อนแนะนำ เพื่อความแน่ใจคุณอาจต้องทดลองใช้ก่อน โดยการทดลองทาเครื่องสำอางบริเวณท้องแขนหรือหลังใบหูเช้า-เย็น โดยไม่ต้องเช็ดออกประมาณ 5-7 วัน ถ้าไม่มีอาการบวมแดงหรือเป็นผื่นคันๆ ก็หมายความว่าใช้เครื่องสำอางนั้น โดยไม่แพ้ บางคนใช้เครื่องสำอางที่เพื่อนๆ บอกว่าดีเหลือเกินแล้วกลับหน้าเห่อก็ยังดื้อจะใช้ต่อไป เพราะเสียดาย ทำให้อาการแพ้ยิ่งมากขึ้น ทางที่ดีควรหยุดใช้ทันทีที่มีอาการแสดงว่าแพ้
l ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีชื่อผู้ผลิตและที่อยู่พิมพ์ไว้ชัดเจนบนกล่องบรรจุ ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางตามแผงลอยหรือหาบเร่ เพียงเพราะสีสวย ราคาถูก เพราะอาจได้เครื่องสำอางปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน
l ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางครั้งละมากๆ เพื่อเก็บไว้ใช้นานๆ เนื่องจากเครื่องสำอางซื้อจากต่างประเทศถูกกว่าในเมืองไทย หลายๆ ท่านจึงตุนเครื่องสำอางโดยซื้อยกโหล ซึ่งอาจจะหมดอายุไปก่อนที่จะมีโอกาสได้ใช้ ถ้าจะซื้อครั้งละมากๆ ควรกะประมาณได้ว่าจะใช้หมดภายในเวลาเท่าใด อย่างมากไม่ควรเกิน 2 ปี การเก็บเครื่องสำอางก็มีความสำคัญ เพราะอุณหภูมิบ้านเราสูงกว่าในต่างประเทศ เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไขมันและน้ำมันสูง อาจจะมีกลิ่นหืนได้ง่าย พวกโลชั่นหรือครีมถ้าเก็บไม่ดีจะมีการแยกเป็นชั้นน้ำและชั้นน้ำมัน กลิ่นก็จะเปลี่ยนไป จึงควรเก็บเครื่องสำอางไว้ในที่เย็น จะทำให้เก็บได้ทนนาน แต่ก็ไม่ควรเกิน 2 ปี
l ไม่ควรซื้อเครื่องสำอางเก่าก่อนซื้อเครื่องสำอางทุกครั้งต้องพิจารณาก่อนว่า มีสี กลิ่น หรือความข้นเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
l ภาชนะบรรจุเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ บรรจุภัณฑ์ไม่ฉีกขาดหรือแตก เพราะอาจมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนได้
l ต้องสังเกตว่า ฉลากเครื่องสำอางควรอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ฉีกขาด มีข้อความภาษาไทยที่อ่านชัดเจน มีรายละเอียดชื่อชนิดเครื่องสำอาง ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ครั้งที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตวิธีใช้ ปริมาณสุทธิ และคำเตือนในการใช้
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องสำอางที่เหมาะสมกับผิวของคุณเองแถมยังเป็นเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานอีกด้วย สำหรับการทำความสะอาดใบหน้าก่อนแต่งแต้มสีสันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เพียงแค่ล้างหน้าให้สะอาด ทาโลชั่นบำรุงผิว และครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน ความยุ่งยากอยู่ที่การล้างเครื่องสำอางออกต่างหากคือ ต้องขจัดคราบเครื่องสำอางออกให้เกลี้ยงเกลา โดยเฉพาะรองพื้น แป้งผัดหน้า เพราะถ้าล้างออกไม่หมด มันจะอุดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกรวมทั้งไขมันตกค้างอยู่ใต้ผิวหนัง ดันผิวหนังบริเวณนั้นให้โป่งเป็นเม็ดขึ้นมา ดังนั้นเมื่ออยากจะใช้เครื่องสำอางต้องขยันทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดด้วย
เมืองไทยมีแดดแรง และมีอุณหภูมิสูงเกือบตลอดทั้งปี แม้กระทั่งในช่วงฤดูหนาว รังสียูวีจากแสงแดด เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผิวเกิดกระและฝ้า เพราะเมื่อผิวหนังถูกแดดก็จะทำให้เกิดเม็ดสีผิว หรือเมลานินสะสมในผิวหนัง ส่งผลให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ กลายเป็นกระ และเกิดฝ้าตามมา
ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงมีบทบาทสำคัญ เพราะประกอบด้วยสารที่ทำหน้าที่ดูดแสงอัลตราไวโอเลต (UV)ไว้ ปกป้องผิวจากอันตรายของแสงอาทิตย์ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจอยู่ในรูปครีม น้ำมัน หรือโลชั่นทาผิว หรือเป็นสารที่ทำหน้าที่ปกป้องผิว โดยการสะท้อนแสงให้กระจายออกไปจากผิวและบดบังรังสีแสงแดด ซึ่งสารกลุ่มหลังนี้จะช่วยลดอาการแพ้ที่เกิดขึ้นในบางคนได้
ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดนั้น ค่า SPF จะเป็นตัวกำหนดการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ถ้าต้องการให้สีผิวคล้ำขึ้นโดยไม่ต้องการให้ผิวไหม้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ต่ำ และถ้าต้องการผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างสิ้นเชิง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปเรียกว่า Sunblock
ข้อแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแดด คือ ควรทาก่อน 1-1/2 ชั่วโมง ก่อนออกไปกลางแจ้งเพื่อให้สารกันแดดได้ซึมเข้าสู่ผิว และควรทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซ้ำ 1-2 ชั่วโมง/ครั้ง หลังจากลงว่ายน้ำ ออกกำลังกายเหงื่อออกมาก แม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะระบุว่าป้องกันน้ำได้ก็ตาม สำหรับคนที่ต้องการให้ผิวสีคล้ำขึ้น ควรเริ่มต้นด้วยการตากแดดชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก่อน แล้วตามด้วยการทาผลิตภัณฑ์กันแดด โดยเลือกตามค่า SPF แต่ถ้าเป็นผู้ที่แพ้แสงแดด ผิวหนังอักเสบปวดแสบปวดร้อนง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูง และไม่ตากแดดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าไปจนถึงบ่าย 3 โมง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวรังสีจากแสงแดดที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวหนังไหม้จะถูกส่งมายังผิวโลกในปริมาณสูงสุด
โดยสรุปการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดในปริมาณที่เพียงพอจะสามารถป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตได้ จะป้องกันการเกิด sunburn และช่วยลดอันตรายในระยะยาวของแสงแดดด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกผลิตภัณฑ์และค่า SPF ที่ถูกต้องด้วย คุณสาวๆ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพผิวพรรณอย่างจริงจัง เพื่อดูแลผิวสวยใสให้คงอยู่กับเราไปนานๆ
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี