หลังจากฝนเริ่มทิ้งช่วงและลมหนาวน้อยๆ เริ่มผ่านมาทักทายกันบ้าง สาวๆ หลายๆ คนอาจจะสูดอากาศสดชื่นกันเพลิน จนลืมกันไปว่าลมเย็นสบายนั้นจะมาพร้อมกับอากาศแห้ง ที่พลอยจะทำให้ผิวสวยๆ ขาดความชุ่มชื้นกันไปด้วย ซ้ำร้ายสำหรับบางคนที่เกิดอาการแพ้ง่ายอยู่แล้ว ก็อาจจะมีอาการผื่นแพ้ได้ง่ายขึ้นอีก ก็เพราะเจ้าลมหนาว สบายๆ กลับกลายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแห้งและเกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่าที่เคย
ไลฟ์เซ็นเตอร์บล็อก https://lifecenterthailand.wordpress.com พามาทำความรู้จักกับอาการแพ้ รวมทั้งลมหนาวที่พัดมา ตัวการที่ทำให้ผิวแห้ง และอาจจะเกิดอาการแพ้ ระคายเคืองผิวหนังได้ง่ายขึ้นนั้น เราจะจัดการกันอย่างไรดี
อาการแพ้หรือระคายเคือง ที่อาจกลายเป็นผื่นผิวหนัง เป็นอาการหนึ่งของโรคผิวหนังอักเสบ ซึ่งเป็นคำเรียกรวมโรคที่มีอาการอักเสบในชั้นผิวหนัง ที่อาจอาการแสดงได้หลากหลายรูปแบบ โดยเราสามารถแบ่ง โรคผิวหนังอักเสบ ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ตามสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งก็คือ กลุ่มที่ 1.โรคผิวหนังอักเสบ ที่มีสาเหตุมาจากภายนอกร่างกาย ได้แก่การเกิดผื่นจากการการสัมผัสสารเคมี สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ พืช สัตว์ หรือแมลงบางชนิด โดย การเกิดผื่นผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 สารที่สัมผัสก่อความระคายเคืองต่อผิวหนังจากคุณสมบัติของสารนั้นเอง เช่น สารที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง สารที่ใช้ในการชำระล้าง ความระคายเคืองจากสารเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดผื่นได้ไม่เลือกบุคคล โดยจะเกิดเป็นผื่นเมื่อผิวหนังไม่สามารถทนต่อความระคายเคืองจากสารเหล่านั้นได้ ลักษณะของผิวหนังอักเสบชนิดนี้ มักเกิดบริเวณที่สัมผัสสารบ่อยๆ เช่น มือหรือเท้า เป็นต้น และประเภทที่ 2 คือ สารที่สัมผัสก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ก่อให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง ซึ่งในกรณีนี้สารแต่ละชนิดจะก่อให้เกิดผื่นเฉพาะในบางคนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีอาการแพ้ ผิวหนังอักเสบหากสวมเครื่องประดับที่มีโลหะผสมบางชนิด หรือสวมเสื้อผ้า ที่มีเนื้อผ้าบางประเภท ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่มีอาการ
กลุ่มที่ 2.โรคผิวหนังอักเสบซึ่งเกิดจากสาเหตุภายในร่างกาย ตัวอย่างเช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน เป็นต้น ซึ่งสาเหตุหลัก ของกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบกลุ่มนี้ มีปัจจัยที่มาหลากหลาย ทั้งจากทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของสภาวะทางร่างกาย และจิตใจ อาการเจ็บป่วย ความเครียด ทั้งหมดอาจมีผลให้เกิดอาการผื่นผิวหนังอักเสบได้ทั้งสิ้น ผู้ป่วยในกลุ่มนี้จึงอาจมีผื่นในลักษณะเป็นๆ หายๆ หรือเรื้อรังได้ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสารที่อาจก่อความระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น สบู่ ผงซักฟอก ก็สามารถกระตุ้นการเกิดอาการที่รุนแรงขึ้นได้
สำหรับอาการแพ้แบบน้อยๆ ที่อาจเรียกว่าผื่นแพ้ง่าย ที่เกิดจากสภาพผิวที่แห้ง ขาดไขมันมาช่วยเติมความชุ่มชื้น
ในช่วงที่อากาศหนาวนั้น เรามีวิธีดูแลผิวง่ายๆ ดังนี้ 1.ดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอ : ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเป็นประจำ 2.ปกป้องตัวเองจากสภาวะแวดล้อม : ไม่เปิดแอร์เย็นเกินไป และไม่อาบน้ำร้อนที่ร้อนจนเกินไป และในหน้าหนาวควรทาโลชั่นอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ 3.เลือกใช้สบู่ที่เหมาะกับสภาพผิว : ควรเลือกสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือเลือกสบู่เด็ก ที่ไม่รุนแรงต่อสภาพผิว 4.การเอาน้ำใส่แก้วแล้ววางไว้ใกล้ๆ ตัว : ทั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือที่ทำงาน โดยเฉพาะห้องที่มีความแห้งในอากาศอย่างห้องแอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นน้อยลง และสุดท้าย 5.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : เนื้อปลา น้ำมันมะกอก มะเขือเทศ บล็อคโคลี เมล็ดข้าวที่ยังไม่ขัดสี ธัญพืช รวมถึงทานผัก และผลไม้สด ให้เพียง
กับลมหนาวที่เริ่มมาทักทาย อย่าละเลยที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและระวังอย่าให้ผิวแห้งกร้าน เพราะไม่ใช่แค่ในเรื่องของความงาม แต่ยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผื่นแพ้ ที่เกิดจากผิวแห้งๆ อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี