เริ่มเข้าหน้าหนาวกันแล้ว หลายๆ คนเริ่มจะมีปัญหาผิวแห้ง ผิวคัน ผิวเป็นขุย ผิวแลดูสุขภาพไม่ดี มีความกร้าน เรามารู้ที่มาของผิวแห้งในหน้าหนาวกันคำแนะนำจาก พญ.ปุณณภา ดีวงกิจ แพทย์ผิวหนัง คลินิกสยามเดอร์มาติกส์ เปิดเผยว่า พอเข้าหน้าหนาว อุณหภูมิลดต่ำลง ซึ่งอากาศที่เย็นจะอุ้มน้ำในอากาศได้น้อยกว่าอากาศที่อุ่น ทำให้ความชื้นในอากาศลดลงในช่วงฤดูหนาว เมื่ออุณหภูมิต่ำลงและความชื้นในอากาศลดลง จะทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นไขมันในชั้นหนังกำพร้าลดลง โอกาสเกิดการระคายเคืองของผิวหนังเพิ่มสูงขึ้น มีอาการคันที่ผิวหนังเพิ่มมากขึ้น เหล่านี้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนไข้กลุ่มโรคผิวหนัง จะมีอาการมากขึ้นหรือกลับมามีอาการทางผิวหนังในช่วงฤดูหนาวได้ เช่น กลุ่มคนไข้ Atopic dermatitis (AD) กลุ่มแพ้สัมผัสสาร (irritant contact dermatitis & Allergic contact dermatitis) เป็นต้น นอกจากอากาศที่เย็นมากขึ้น ความชื้นที่ลดลง การใช้ชีวิตประจำวันของเราในบางอย่าง ก็ยิ่งกระตุ้นผิวให้แห้งมากขึ้น ได้แก่ การอาบน้ำอุ่น การใช้สบู่ก้อน การกินยาบางชนิด การดื่มน้ำน้อยการอยู่ห้องแอร์เป็นเวลานานๆการไม่ทาครีมบำรุงผิว เป็นต้นเมื่อเราทราบถึงปัจจัยกระตุ้นผิวแห้งแล้วปัจจัยไหนที่เราหลีกเลี่ยงได้ เราควรหลีกเลี่ยง เช่น ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น ใช้เป็นสบู่เหลวที่ปรับค่า pH แทนสบู่ก้อน และฟอกสบู่เหลวเท่าที่จำเป็น ควรทาครีมหลังอาบน้ำทันที เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวไว้
นอกจากเรื่องผิวแห้งในหน้าหนาวแล้ว ที่เรายังลืมไม่ได้คือ ครีมกันแดด แม้ว่าเข้าหน้าหนาว บางวันแดดดูไม่มากแต่แสง UV นั้นยังส่องผ่านมาโดนผิวเราได้ตลอด ทำให้ผิวเราดูหมองลงและคล้ำลงได้
สำหรับการเลือกครีมบำรุงช่วงหน้าหนาวนั้น ควรเลือกรูปแบบที่เป็นครีม เนื่องจากจะเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าโลชั่น ซึ่งคุณสมบัติที่ดีของครีมบำรุง (moisturizer) นั้นควรมีสารที่เก็บความชุ่มชื้น (humectant) และสารที่ปกป้องการสูญเสียน้ำจากผิวชั้นหนังกำพร้า (emollient) ในสัดส่วนที่พอเหมาะ นอกจากสารสองกลุ่มนี้ ตัวที่สำคัญที่เราจะดูในครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้คือ functional ingredients หรือ สารออกฤทธิ์ตัวอื่นๆ เช่น ลดการอักเสบ ลดเม็ดสี สารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นต้น ชึ่งจะขอยกตัวอย่างมาบางตัวที่มักจะพบได้บ่อยในครีมที่มีขายในท้องตลาด ได้แก่
l Nicotinamide หรือ vitamin B3 ซึ่งเป็นสารที่ละลายน้ำ ช่วยเพิ่มการสร้างสารที่ทำให้ผิวหนังแข็งแรง (ceramide) ลดเม็ดสีได้ และยังมีฤทธิ์ลดการอักเสบและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ผลข้างเคียงที่พบได้คือรู้สึกร้อนๆ ที่ผิวหลังทาได้ (flushing)
l Alpha hydroxy acids (AHAs) เป็นกลุ่มของกรดอินทรีย์คาร์บอกซิล รวมกรดแลกติก กรดไกลโคลิกกรดมาลิก กรดทาร์ทาริก ช่วยกระตุ้นให้หนังกำพร้าหลุดลอกเร็วขึ้น ลดเม็ดสีลดรอยคล้ำจากแดด ลดริ้วรอยตื้นๆ ซึ่ง AHAs มีหลายความเข้มข้น ในครีมที่ขายตามท้องตลาด จะใส่ความเข้มข้นได้ประมาณ 5-10% ถ้าความเข้มข้นสูงกว่านั้นแนะนำให้ทำโดยแพทย์
l วิตามิน ซี และวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ช่วยลดเม็ดสี ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสของผิวได้
l Hyalironic acid (HA) เป็นสารสำคัญที่ช่วยเรื่องการสมานผิวและแผล กระตุ้นการสร้างเซลล์หนังกำพร้า เพื่อให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้น เนื่องจาก HA เป็นโมเลกุลใหญ่อาจจะทำให้การดูดซึมของผิวไม่ดีเท่าที่ควร
l Peptides ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและส่งเสริมการสมานผิวให้แข็งแรง,
l วิตามิน เอ ช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิว ลดริ้วรอยตื้นๆ ได้
l สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิด จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ เป็นต้น
นอกจากการใช้ครีมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ การทำทรีทเม้นต์ยังพอช่วยให้ functional ingredients ต่างๆ ซึมลงสู่ผิวได้ดีมากขึ้น ลดเม็ดสีเพิ่มความกระจ่างใสและความชุ่มชื้นได้ทั้งนี้ควรเลือกสารและเครื่องที่น่าเชื่อถือนอกจากการทำทรีทเม้นต์แล้ว การทำเลเซอร์ยังสามารถกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวดูแข็งแรง ลดเม็ดสีหรือลดรอยคล้ำจากแดดได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น
l เลเซอร์กลุ่ม Q switch NdYag ที่จับเม็ดสี (melanin) โดยเฉพาะ จะสามารถช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนรอยดำได้อีกด้วย
l เลเซอร์เม็ดสี ช่วยรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ Fractional laser หรือ Fractional nano RF คลื่นวิทยุ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาให้การรักษาปัญหาผิวหนังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการที่ทำให้เกิดรูที่ผิวเล็กๆ เพื่อให้เกิดการซ่อมแซมผิวได้มากขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหามาก และสามารถหลบแดดหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าได้ 3-5 วัน
l HIFU (High intensity focus ultrasound) เป็นคลื่นเสียงแบบที่เราทำ Ultrasound แต่เป็นการรวมพลังให้เป็นจุดลงลึกถึงชั้นต่างๆ ของผิวโดยไม่มีแผล สามารถยกกระชับผิว และลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถลดริ้วรอยได้จริง แต่บางเครื่องต้องทำซ้ำหลายครั้ง และใช้เวลาในการซ่อมแซมผิว ติดตามข้อมูลได้ที่ www.facebook.com/Dermatiks/
นอกจากนี้ การพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำก็มีความสำคัญไม่น้อย เพราะช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ผิวหนังได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นส่วนการทำจิตใจสดใสคลายเครียดนั้นก็เหมือนการผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปในตัว
อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาผิวพรรณควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เนื่องจากผิวแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน การมีสุขภาพผิวที่ดีต้องดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพออยู่ในที่อากาศถ่ายเทดี ไม่มีมลภาวะรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ สูง ไขมันต่ำ ดื่มน้ำให้พอ ไม่เครียด อารมณ์ดี มองโลกในแง่บวก รวมกับ เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยเสริมให้ผิวดูฉ่ำว้าวตลอดฤดูหนาวนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี